G Land ทุ่มกว่า 18,000 ล้านบาทผุดตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในอาเซียน คาดเมื่อแล้วเสร็จในปี 2562 จะกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของภูมิภาค
นายโยธิน บุญดีเจริญ ประธานกรรมการ บริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ G Land ได้เปิดเผยว่าบริษัทพร้อมเดินหน้าสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์เมืองไทย ด้วยการพัฒนาอาคารมิกซ์ยูสที่สูงที่สุดในอาเซียน ด้วยความสูง 615 เมตร 125 ชั้น โดยในเบื้องต้นตั้งชื่อโครงการดังกล่าวว่า “เดอะ ซุปเปอร์ ทาวเวอร์” (The Super Tower) ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งใหม่ของภูมิภาคอาเซียนและเป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลก
โครงการดังกล่าวจะมีพื้นที่ก่อสร้างทั้งหมด 320,000 ตารางเมตร โดยจะเป็นอาคารหลักที่ตั้งอยู่ภายในอาณาจักร “เดอะ แกรนด์ พระราม 9” (The Grand Rama 9) ซึ่งตั้งอยู่บนเนื้อที่ 73 ไร่ บริเวณสี่แยกพระราม 9 จุดตัดถนนรัชดาภิเษก มีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 1.2 ล้าน ตารางเมตร ประกอบไปด้วยโครงการที่พักอาศัย (เบ็ล แกรนด์ พระราม 9), อาคารสำนักงาน (จีแลนด์ ทาวเวอร์ – เดอะ ไนน์ ทาวเวอร์ส – สำนักงานใหญ่ของยูนิลิเวอร์), ศูนย์ประชุมและห้องจัดเลี้ยง, ช้อปปิ้งอาเขต (เซ็นทรัล พลาซา แกรนด์ พระราม 9 – เดอะ ช็อปปส์ แกรนด์ พระราม 9) และ โรงแรมหรู มูลค่าโครงการรวมกว่า 100,000 ล้านบาท
“เริ่มแรกในการพัฒนาโครงการเดอะ แกรนด์ พระราม 9 เราคิดมาตลอดว่าอยากจะพัฒนาตึกสูงๆ ที่จะสร้างหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับวงการ แต่เราเลือกที่จะเริ่มสร้างตึกรอบๆ ซึ่งเป็นตึกที่สร้างรายได้หมุนเวียนในระบบ และนำเม็ดเงินส่วนนี้มาพัฒนาโครงการเดอะซูเปอร์ ทาวเวอร์ ซึ่งจะกลายเป็นแลนด์มาร์คใหม่ของประเทศไทย ที่เป็นทั้งศูนย์กลางธุรกิจและสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกที่ทุกคนจะต้องมาสัมผัสสักครั้งในชีวิต” นายโยธินกล่าว
นอกจากนี้บริษัทยังมี 4 สถาบันการเงินใหญ่เป็นผู้สนับสนุนเงินในการพัฒนาโครงการ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงไทย
สำหรับการพัฒนาโครงการดังกล่าวจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนของอาคารสูง ซึ่งประกอบไปด้วย สำนักงานระดับพรีเมี่ยมพื้นที่ 90,000 ตารางเมตร โรงแรมระดับหกดาวขนาด 260 ห้อง โดยบริเวณ 6 ชั้นบนสุดจะเป็นที่ตั้งของร้านอาหาร และจุดชมวิว
ส่วนของด้านหน้าอาคารจะถูกจัดสรรให้เป็นศูนย์ประชุม เพื่อรองรับการจัดงานประชุมใหญ่ หรือการจัดงานนิทรรศการ ด้วยพื้นที่กว่า 6,000 ตารางเมตร โดยชั้นบนของส่วนนี้จะเปิดโล่ง และตกแต่งเป็นสวนสีเขียว เพื่อรองรับกิจกรรมกลางแจ้งและความบันเทิงต่างๆ และส่วนด้านข้างของตัวอาคารจะเป็นส่วนของร้านค้าชั้นนำ ซึ่งเชื่อมต่อจาก เดอะ ช็อปปส์ แกรนด์ พระราม 9
ในส่วนของการออกแบบสถาปัตย์ของโครงการนี้นั้น ได้ A49 มาเป็นผู้ดูแล โดยมีบริษัท SKIDMORE, OWINGS & MERRILL LLP (SOM) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญงานออกแบบและก่อสร้างอาคารสูงระดับโลกมาเป็นที่ปรึกษาให้กับโครงการ
“ผมเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยกำลังเติบโตและขับเคลื่อนไปข้างหน้า โครงการเดอะ ซูเปอร์ ทาวเวอร์ จึงเป็นการตอบรับนโยบายของรัฐ ที่จะสร้างมิติใหม่ในการนำพาเศรษฐกิจไทยเติบโตขึ้น พร้อมศักยภาพในการดึงดูดนักลงทุนทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนเป็นการสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยทั้งประเทศในการร่วมกันเป็นเจ้าของตึกสูงนี้” นายโยธินกล่าว
ทั้งนี้ เดอะซูเปอร์ ทาวเวอร์เป็นชื่อที่ตั้งไว้ในเบื้องต้นเท่านั้น บริษัทจะเปิดให้มีการตั้งชื่อใหม่ต่อไปในเร็วๆ นี้
สำหรับความคืบหน้าของโครงการคอนโดมิเนียม เบ็ล แกรนด์ พระราม 9 นั้นปัจจุบันมียอดขายไปแล้วราว 90% จากจำนวนทั้งหมดรวม 2,000 ยูนิต มีผู้อาศัยเริ่มทยอยโอนเข้าอยู่แล้วราว 40% ราคาขายปัจจุบันอยู่ที่ 5-20 ล้านบาท โดย 10% ที่เหลือนั้นยังไม่เปิดขาย
อาคารเดอะไนน์ทาวเวอร์ หลังจากเปิดให้เช่าเป็นเวลา 6 เดือน ปัจจุบันมีอัตราการเช่าอยู่ที่ 90% ค่าเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 620 บาทต่อตารางเมตร ส่วนอาคารสำนักงานอีกแห่ง คือ จีแลนด์ ทาวเวอร์นั้นยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดใช้อาคารภายในปี 2558 ในขณะที่ตึกสำนักงานใหญ่ของยูนิลิเวอร์จะเริ่มมีการย้ายเข้าในช่วงต้นปี 2558 เช่นกัน
ส่วนโรงแรม 4 ดาว ขนาด 285 ห้องนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุญาต
สำหรับแผนในการเปิดโครงการใหม่ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ยังมีอีก 3 โครงการด้วยกัน ประกอบด้วย คอนโดมิเนียมบริเวณถนนโลคัล โร้ด, คอนโดมิเนียมในย่านดอนเมือง และโครงการบ้านเดี่ยว แกรนด์ คาแนล ดอนเมือง เฟส 2 ราคาเริ่มต้น 7-8 ล้านบาท
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่