ก่อนหน้านี้ หากพูดถึงโฮจิมินห์ สิ่งที่คนส่วนใหญ่นึกถึงน่าจะเป็นเมืองใหญ่ที่เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศเวียดนาม แต่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กลายเป็นว่าเมืองใหญ่ในแดนเหงียนแห่งนี้มีการพัฒนาในระดับที่น่าจับตา โดยเฉพาะในด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยจากการจัดอันดับล่าสุดโดยไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส (PWC) เมืองโฮจิมินห์แห่งนี้ติด 1 ใน 5 เมืองน่าลงทุนที่สุดในเอเชีย จากที่เคยอยู่ถึงอันดับ 19 ในปี 2014 วันนี้ DDproperty จะพาคุณมาค้นหาคำตอบว่า “เมืองลุงโฮ” นี้มีดีอะไร ถึงโดนใจนักลงทุนจากทั่วโลก
ตารางอันดับเมืองน่าลงทุน
จากการจัดอันดับในตารางข้างต้นจะเห็นได้ว่าเสน่ห์ในการลงทุนของโฮจิมินห์ได้แซงหน้าประเทศไทยเราที่ค่อยๆร่วงหล่นมารั้งอันดับ 19 ในปีล่าสุดสาเหตุเป็นเพราะความไม่ชัดเจนของสถานการณ์การเมืองทำให้บรรดานักลงทุนต่างชักเงินทุนออกนอกประเทศสวนทางกับเมืองหัวใจของเวียดนามซึ่งค่อยๆสร้างความชัดเจนด้านนโยบายการลงทุนตั้งแต่ 2014
ตัวเลขเศรษฐกิจที่รีบาวด์จากภาวะเศรษฐกิจขาลงเมื่อปี 2013 ถือว่าดีอย่างน่าทึ่งโดยโดดเด่นเป็นอย่างมากในภาคอสังหาฯเมื่อต้นปี 2015 ปัจจัยการพัฒนาทางเศรษฐกิจครั้งนี้คือการปฏิรูปนโยบายในช่วงกรกฎาคมที่ผ่านมาได้อนุญาตให้ภาคต่างชาติเข้ามาลงทุนในภาคอสังหาฯในประเทศได้ อีกทั้งกระแสชาวเวียดนามที่กลับมาจากต่างประเทศ (ซึ่งคนกลุ่มนี้คือกลุ่มผู้มีกำลังซื้อ) เริ่มซื้ออสังหาฯ ณ ประเทศบ้านเกิดของตัวเองโดยเฉพาะในตลาด high-end
นอกจากจะเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในอสังหาฯหมวดอยู่อาศัยแล้ว เวียดนามยังเปิดให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในอสังหาฯเพื่อการประกอบธุรกิจด้วยตัวอย่างเช่นออฟฟิศสำนักงานและโรงงาน โดยในช่วงแปดเดือนแรกของปี 2015 ดัชนีภาคการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI: Foreign Direct Investment) เติบโตขึ้นถึง 30% ตลาดอาเซียนเองเริ่มเป็นจุดน่าสนใจต่อต่างชาติในเรื่องการย้ายฐานการผลิตเข้ามาแทนที่จีนซึ่งก่อนหน้านี้หลังจากที่ตัวเลขทางด้านอุตสาหกรรมของจีนอ่อนแอลงมากตั้งแต่ต้นปีส่งผลให้ดัชนีหุ้นจีน CSI 300 index ร่วงหล่น ณ วันเปิดตลาดถึง 7% จนรัฐบาลต้องอัดเงินเข้าไปผดุงตลาดหุ้นไม่ให้ร่วงหล่นมากกว่านี้
ผู้จัดการกองทุนการลงทุนด้านอสังหาฯหลายรายเคยมองข้ามการเจริญเติบโตในประเทศกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเวียดนามไป แต่เมื่อมีการไหลเข้ามาจากสถาบันการเงินต่างชาติมากขึ้นทำให้ศักยภาพเศรษฐกิจโดยเฉพาะด้านอสังหาฯมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆนั่นเพราะแหล่งเงินทุนใหม่ที่จะป้อนให้แก่บรรดาดีเวลลอปเปอร์นั่นเอง ด้วยปัจจัยนี้ทำให้นักลงทุนเบี่ยงคำแนะนำจากโบรคเกอร์และนำเงินเข้ามาลงทุนในเวียดนาม บางรายถึงกับบ่นว่าเสียดายว่าหากรู้เช่นนี้น่าจะเลือกลงทุนในเวียดนามตั้งแต่สองสามปีที่แล้ว แต่สำหรับนักลงทุนชาวไทยยังไม่สายไปที่จะศึกษาและลงทุน … จริงไหม?
ดัชนีบ่งชี้ถึงศักยภาพการพัฒนาและการลงทุนของโฮจิมินห์ (development and investment prospects) นั้นสูงถึง 3.2 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ดี (3.5 = ดีมาก โดยเมืองที่สามารถทะลุแต้มนี้ในทวีปเอเชียได้คือโตเกียว, ญี่ปุ่น และเมลเบริ์น, ออสเตรเลีย)
เรื่องข้างต้นเขียนโดย ชัยสิทธิ์ บุนนาค Content Writer ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ chaiyasit@ddproperty.com