ย้อนรอยประเด็นดังอสังหาฯปี58

Kanchana Paha29 ธ.ค. 2558

bangkok highrises

นอกจาก 8 ข่าวยอดนิยมที่มีจำนวนผู้เข้าชมมากที่สุดในปี 2558 แล้ว แวดวงอสังหาริมทรัพย์ไทยยังมีเหตุการณ์ที่ถือเป็นไฮไลท์แห่งปีเกิดขึ้นแทบจะตลอดทั้งปี โดยในวันนี้ DDproperty ได้รวบรวมประเด็นดังๆ ของผู้ประกอบการอสังหาฯ ที่เกิดขึ้นในรอบปีมาเตือนความจำก่อนที่ปีมะแมทองจะสิ้นสุดลง

ปีทองของบ้าน-คอนโดฯ ไฮเอนด์
ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ทำให้กำลังซื้อชะลอตัว ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องวางแผนรับมือกับสถานการณ์อย่างถี่ถ้วนหากต้องการที่จะอยู่รอดในเกมการแข่งขันในปีมะแม หนึ่งในกลยุทธ์ที่เหล่าดีเวลลอปเปอร์ โดยเฉพาะรายใหญ่ๆ ที่มีสายป่านยาว เงินทุนแน่นคือการขยับตลาดไปโฟกัสที่กลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ ที่มีเงินเย็นและกำลังซื้อสูง โดยสิ่งที่ลูกค้ากลุ่มนี้มองหา ไม่ใช่เพียงสินค้าที่ราคาสูงลิบลิ่ว แต่โปรดักส์ต้องถูกใจ ตรงดีมานด์ และที่สำคัญในทำเลที่เจ๋งจริง จึงไม่น่าแปลกใจที่ในปี 2558 นี้เราได้เห็นผู้ประกอบการหลายราย อาทิ ค่ายเพซ ดีเวลลอปเมนท์ เปิดตัวโครงการคอนโดฯ ราคาต่อตารางเมตรสูงกว่า 300,000 บาท ในชื่อโครงการนิมิต หลังสวน และที่สำคัญโครงการนี้ขายดีมากในแบบที่ไม่ต้องมีห้องตัวอย่างก็สามารถขายได้

 

Nimit Langsuan

โครงการนิมิต หลังสวน

เช่นเดียวกับค่ายคิวเฮ้าส์ ภายใต้การกุมบังเหียนของซีอีโอคนดัง ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่เปิดศักราชด้วยการประกาศเปิดตัวโครงการคอนโดฯ ระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่โครงการแรกของบริษัทในชื่อ คิว สุขุมวิท โดยเคาะราคาเริ่มต้นในช่วงเปิดตัวครั้งแรกที่ 26.3 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ยประมาณ 289,000 บาทต่อตารางเมตร ก่อนที่จะชะลอการขายไปช่วงหนึ่งและเริ่มเดินหน้าการขายคิว สุขุมวิทอีกครั้ง เมื่อช่วงต้นไตรมาส 4 ที่ผ่านมาพร้อมกับขยับราคาเริ่มต้นมาอยู่ที่กว่า 300,000 บาทต่อตารางเมตร

Q Sukhumvit

ภาพจำลองโครงการคิว สุขุมวิท

ในขณะที่ผู้ประกอบการทุนหนาอย่างคันทรีกรุ๊ปก็ไม่น้อยหน้า ประกาศการพัฒนาโปรเจคหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยไฮไลท์อยู่ที่การคว้าแบรนด์ระดับโลกอย่าง “โฟร์ซีซั่นส์” มาพัฒนา ภายในโครงการเจ้าพระยา เอสเตท โดยจะประกอบด้วย คอนโดฯ สุดหรูอย่าง “โฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ กรุงเทพฯ ณ แม่น้ำเจ้าพระยา” และ “โรงแรม โฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ ณ แม่น้ำเจ้าพระยา” โดยคอนโดฯ หรูนั้น เคาะราคาเริ่มต้นที่ตารางเมตรละกว่า 300,000 บาทเช่นกัน

Four Seasons Bangkok record breaking sales in Hong Kong

โครงการโฟร์ซีซันส์ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ กรุงเทพฯ

ส่วนอสังหาฯ หน้าใหม่แต่แบ๊คดี ทุนแน่นอย่างค่ายสิงห์ เอสเตท ก็โดดเข้าสู่สังเวียนอสังหาฯ ในฐานะผู้ประกอบการเต็มตัว เมื่อประกาศเปิดตัวคอนโดฯ โครงการแรกของบริษัท ในชื่อ “ดิ เอส อโศก”  โดยนอกจากจะมีจุดขายในเรื่องของทำเลที่อยู่ใจกลางย่านธุรกิจอย่างอโศกแล้ว โครงการดังกล่าวจะเป็นคอนโดฯ ที่สูงที่สุดในย่านอโศกอีกด้วย

The Esse Asoke

ภาพจำลองโครงการดิ เอส อโศก

นอกจากคอนโดฯ ทำเลเมืองที่เปิดใหม่ในราคาที่สูงลิ่วแบบหากเป็นเมื่อก่อนคงต้องย้อนถามตัวเองซ้ำว่าจะขายในราคานี้ได้จริงหรือ ในปี 2558 เป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นสินค้าอย่าง “ทาวน์โฮม” เคาะราคาขายเริ่มต้นเฉียด 30 ล้านบาท! แน่นอนว่า เรากำลังพูดถึงโครงการทาวน์โฮมดีไซน์เก๋ แบรนด์ “อาร์เด้น” ของค่ายอนันดา ดีเวลลอปเมนท์ที่เปิดตัวพร้อมกันถึง 3 ทำเล พร้อมกวาดยอดขายรวมได้ถึง 1,000 ล้านบาทภายในไตรมาสเดียว

Arden Rama III

โครงการอาร์เด้น พระราม 3


เจ้าตลาดแมส vs เจ้าตลาดบ้านไฮเอนด์

หากพูดถึงผู้ประกอบการที่เป็นผู้เล่นรายใหญ่ในเซ็กเมนต์ระดับกลาง-ล่าง นาทีนี้คงหนีไม่พ้นค่ายพฤกษา เรียลเอสเตท โดยเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา พฤกษาฯ โชว์ตัวเลขรายได้และกำไรของผลประกอบการปี 2557 ที่สูงสุดในรอบ 21 ปี  และผลประกอบการที่เป็นบวกนี้ยังคงต่อเนื่องมาถึงปี 2558 เพราะล่าสุด บริษัทได้ประกาศให้โบนัสประจำปี 2558 กับพนักงานสายธุรกิจคอนโดฯ ระดับกลาง-บนสูงสุดถึง 20 เดือน หลังสายงานคอนโดฯ มียอดรับรู้รายได้ในปีนี้สูงกว่า 17,000 ล้านบาท

thongma vijitpongpun
ในขณะที่เซ็กเมนต์ไฮเอนด์ ปรากฏว่าผู้ประกอบการที่ครองส่วนแบ่งตลาดในสินค้าประเภทบ้านราคา 15 ล้านบาทขึ้นไปมากที่สุด ได้แก่ เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น โดยในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดราว 35% คิดเป็นรายได้เท่ากับ 2,474 ล้านบาท เติบโตกว่า 40% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 และบริษัทยังมั่นใจอีกว่าจะสามารถรักษาความเป็นผู้นำตลาดบ้านเดี่ยวราคา 15 ล้านบาทขึ้นไปได้ตลอด 5 ปีนี้


ปรากฏการณ์ขายเร็ว ออกตัวแรง

แม้หลายฝ่ายจะแสดงความกังวลของสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยโดยรวมว่าน่าจะได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจที่ค่อนข้างซึมในปีนี้ แต่สำหรับบางโครงการ สินค้าบางประเภท ของบางดีเวลลอปเปอร์กลับยังคงสร้างปรากฎการณ์ปิดการขาย100% ได้อย่างรวดเร็ว หรือขายได้มากภายในระยะเวลาอันสั้น อาทิ ค่ายแสนสิริที่เริ่มต้นปีด้วยการปิดการขาย “เดอะโมนูเมนต์ สนามเป้า” คอนโดฯ โครงการแรกของบริษัทและของปี 2558 ตามมาด้วยโครงการแบรนด์ “เดอะไลน์” ซึ่งเป็นโครงการที่พัฒนาภายใต้การร่วมทุนกับบีทีเอส กรุ๊ปอีกอย่างน้อย 2 โครงการได้แก่ เดอะไลน์ จตุจักร-หมอชิต และเดอะไลน์ สุขุมวิท 71 ที่ขายหมดอย่างรวดเร็ว

sansiri_The Line 71 overseas presale
ใช่ว่าสินค้าอย่างคอนโดฯ จะขายได้ไว หมดเร็วได้เพียงอย่างเดียว ในปี 2558 นี้เราได้เห็นปรากฎการณ์บ้านจัดสรรปิดการขาย 100% ได้ภายในวันที่เปิดพรีเซลครั้งแรก โดยผู้ประกอบการที่มียอดขายโดดเด่นในปีนี้ ได้แก่ “โกลเด้นแลนด์” ที่โครงการทาวน์โฮม ย่านงามวงศ์วานอย่าง “โกลเด้น ทาวน์ งามวงศ์วาน-ประชาชื่น” ปิดการขายแบบ 100% ได้ภายใน 2 วัน เช่นเดียวกับโครงการ “โกลเด้น นีโอ อ่อนนุช-พัฒนาการ” ที่สามารถตอกย้ำความสำเร็จของค่ายแผ่นดินทองอีกครั้ง และความสำเร็จนี้เองที่ทำให้บริษัทประกาศโฟกัสสินค้าแนวราบ พร้อมเจาะดีมานด์ตลาดล่างเป็นหลักในปี 2559

Golden NEO_Sales Gallery
กับปี 2559 ที่กำลังจะมาถึง เป็นที่น่าจับตาว่าแนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยในบ้านเราจะไปในทิศทางไหน ด้วยปัจจัยด้านเศรษฐกิจที่ถือเป็นความท้าทายสำหรับผู้ประกอบการในการวางกลยุทธ์เพื่อช่วงชิงกำลังซื้อ และการพัฒนาสินค้าออกมาเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน เพราะนอกจากทำเล แล้วรูปแบบสินค้าและระดับราคาขายที่เหมาะสมจะเป็นตัวชี้นำถึงโอกาสในการประสบความสำเร็จของผู้ประกอบการรายนั้นๆ

 

 

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ