หน้าใหม่อสังหาฯ วางหมากรุกธุรกิจเต็มสูบ นำร่องเปิดคอมมูนิตี้มอลล์ครั้งแรกติดถนนรามอินทรา “ease park” เปิดบริการเต็มรูปแบบเดือนธันวาคมนี้ แย้มแผนระยาวเปิด 3 โครงการแนวราบ มูลค่า 450 ล้านบาท โฟกัสย่านรามอินทรา
นายธัชชัย ศีลพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคเอเอ็น พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยถึงนโยบายที่ตั้งไว้ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทขึ้นมาในปี 2557 จะพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแบบครบวงจร ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม แต่โครงการที่จะเปิดนั้น จะต้องศึกษาทำเลให้ดี ทำสินค้าที่เหมาะสมกับทำเลนั้นๆ ซึ่งในปีนี้ ทางบริษัทได้เปิดตัวโครงการเป็นครั้งแรก เป็นศูนย์การค้าชุมชน (คอมมูนิตี้มอลล์) “อีสปาร์ค” ย่านรามอินทรา กม.4.5 มูลค่าโครงการ 200 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคมนี้
สำหรับรายละเอียดโครงการอีสปาร์คนั้น เป็นอาคารสูง 3 ชั้นและการให้บริการแบบไดรฟ์-ทรู แยกอีก 1 อาคาร รวมพื้นที่ทั้งหมด 7,000 ตร.ม. ประกอบด้วย โซนร้านอาหาร สุขภาพความงาม ฟิตเนสและการบริการต่างๆ รวมทั้งหมด 13 ร้านค้า ขนาดพื้นที่ให้เช่า 20-1,000 ตร.ม. ในอัตราค่าเช่าเดือนละ 300-900 บาท/ตร.ม. อาทิ วิลลามาร์เก็ต สตาร์บัค นีโอสุกี้ อย่างไรก็ตาม สำหรับความคืบหน้าของโครงการในขณะนี้ มีผู้เช่าพื้นที่ไปแล้วประมาณ 80% และภายในสิ้นปีนี้ จะมีผู้เช่าเต็ม 100% ได้ และคาดว่าจะมีรายได้ในปี 2560 จากโครงการนี้ประมาณ 70 ล้านบาท
ส่วนภาพรวมตลาดคอมมูนีตี้มอลล์ มองว่าปัจจุบันมีการแข่งขันค่อนข้างสูง และที่ผ่านมามีการเปิดตัวกันเพิ่มขึ้น ทั้งประสบความสำเร็จและไปไม่ถึงฝั่ง ปกติแล้วธุรกิจนี้ จะสามารถคืนทุนให้กับผู้ประกอบการได้ภายใน 7 ปี แต่ขึ้นอยู่กับที่ตั้งของทำเลและไลฟ์สไตล์ของคนในย่านนั้น ๆ ด้วย
ซึ่ง“ease park”ตั้งอยู่บนทำเลที่ดี อยู่ติดถนนใหญ่ การเดินทางสะดวก ปัจจุบันถนนรามอินทรามีขนาดกว้างและมีรถผ่านไปมาเป็นจำนวนมาก น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีในการแวะพักของรถที่ผ่านไปมา รวมทั้งอยู่ในแหล่งชุมชนพักอาศัยหนาแน่นปานกลาง ความแตกต่างอีกเรื่องหนึ่งก็คือ โครงการนี้เป็นโครงการขนาดเล็กที่เป็น Neighborhood Mall เหมาะสำหรับคนบริเวณนี้ โครงการ Community Mall หากมีการบริหารจัดการเลือกร้านค้าที่ดี มี Location ที่เข้าออกสะดวก และมีการบริหารศูนย์ที่ดีแล้ว มันก็ยังไปได้ เนื่องจากว่าคนเรา ยังต้อง ทานอาหาร ซื้อของจาก Supermarket ออกกำลังกาย ยังไงก็ต้องหาที่ทำกิจกรรมนั้นๆ อยู่ดี และคนก็มักอยากจะไปในที่เราคุ้นเคย และสะดวกสบายจริงๆ
ปัจจุบัน ที่ดินย่านรามอิทราค่อนข้างปรับตัวสูงมาก ราคาต่อตารางวาอยู่ที่ 2.5 แสนบาท ขณะเดียวกัน ทางบริษัทยังมีที่ดินส่วนตัวและของญาติพี่น้องย่านละแวกอีกอีก 2 – 3 แปลง ในอนาคตก็จะนำมาพัฒนาเป็นโครงการแนวราบต่อไป แต่อย่างไรก็ตามยังมองหาที่ดินเพื่อรองรับการพัฒนาในปีถัดไปด้วย โดยวางงบในการซื้อที่ดินต่อปี 40 ล้านบาท
สอดคล้องกับนโยบายแผนธุรกิจในช่วง 3 ปีแรก บริษัทจะเปิดโครงการทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยวในย่านรามอินทรา กม. 4.5 อีกประมาณ 2-3 โครงการ มูลค่ารวม 450 ล้านบาท ทั้งนี้คาดว่าแต่ละโครงการจะใช้พื้นที่ประมาณ 2 – 3 ไร่ หรือเฉลี่ยโครงการละ 10-20 ยูนิต ตามขนาดพื้นที่ สำหรับทาวน์โฮมราคาที่เซตไว้คาดว่าจะอยู่ที่ 5-7 ล้านบาท ส่วนบ้านเดี่ยวราคาจะอยู่ที่ 10 ล้านบาทขึ้นไป เนื่องจากมองว่าทำเลย่านรามอินทรา กม. 4.5 เป็นทำเลที่มีศักยภาพ และในอนาคตพื้นที่ดังกล่าวยังมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูวิ่งผ่านในย่านนี้
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com
