เทียบฟอร์มยอดโอนกรรมสิทธิ์ ชี้ไตรมาสสุดท้ายปี 58 รับอานิสงส์มาตรการรัฐเต็ม ๆ
ช่วง 4 เดือนแรก แม้ว่าจะยังไม่มีการเปิดขายโครงการใหม่มากนัก เนื่องจากผู้ประกอบการ และผู้บริโภคมุ่งให้ความสนใจกับมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ และการจดจำนองก่อนมาตรการหมดอายุ และหลังจากหมดมาตรการกระตุ้นอสังหาฯแล้ว มีการคาดการณ์ว่าดีเวลลอปเปอร์จะเริ่มแห่เปิดโครงการใหม่กันยกใหญ่ เนื่องจากมีเม็ดเงินเข้ามาจากการระบายสต๊อกครั้งมโหฬารในช่วง 4 เดือนแรกนี้ โดยเฉพาะในเดือนมีนาคม และเมษายน 2559 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนสิ้นสุดมาตรการในวันที่ 28 เมษายน 2559 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้บริโภคเองควรตรวจสอบที่อยู่อาศัยให้ดีก่อนรับโอนกรรมสิทธิ์ เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในภายหลังได้
ขณะที่ปัจจัยบวกที่สำคัญ ของตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2559 คือ ภาครัฐเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องผ่านมาตรการต่างๆ และการเร่งก่อสร้างโครงข่ายการคมนาคมทั้งระบบราง และระบบถนนต่าง ๆ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ กลายเป็นความหวังที่จะกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้ขยายตัว แม้ปีนี้จะเป็นอีกปีที่ธุรกิจจะเผชิญความผันผวน โดยเฉพาะปัจจัยภายนอกประเทศ โดยเฉพาะภาวะเศรษฐกิจโลก ที่จะส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจ และกำลังซื้อตลาดที่อยู่อาศัย ในประเทศ
อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณา Demand การโอนกรรมสิทธิ์ ที่อยู่อาศัยกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบว่าไตรมาสสุดท้าย ของปี 58 ได้รับผลดีจากนโยบายรัฐบาลด้านอสังหาริมทรัพย์ คือ มาตรการทั้ง ด้านการลดหย่อนภาษี บ้านไม่เกิน 3 ล้านบาท ลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ จาก 2 เหลือ 0.01% และค่าจดจำนองจาก 1 % เหลือ 0.01% ส่งผลต่อจำนวนการโอนกรรมสิทธิ์เขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลอย่างมาก กล่าวคือการโอนกรรมสิทธิ์ จำนวนสูงสุดรอบ 18 ปี ที่อยู่อาศัยแนวราบเพิ่มขึ้น 17% จาก 106,644 หน่วย เป็น 124,664 หน่วย และอาคารชุดเพิ่มขึ้น 7% จาก 67,311 หน่วย เป็น 71,833 หน่วย มีผลทำให้การโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้น 13% จาก 173,955 หน่วย เป็น 196,497 หน่วย เป็นการสะท้อนว่าผู้ซื้อ ยังคงมีความเชื่อมั่นในปัจจัยทางการเมือง และปัจจัยทางเศรษฐกิจว่าจะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่