หากบ้านของคุณอยู่ในประเทศไทย ประเทศมหัศจรรย์ที่มีหน้าร้อนเพียงหน้าเดียวแล้ว รับรองว่าทุกเช้าที่คุณมองออกไปนอกบานหน้าต่างภายในบ้าน คุณจะต้องตระหนักถึงความสำคัญของผ้าม่านอย่างแน่นอน เพราะนอกจากม่านจะช่วยบังแดดและช่วยกันฝุ่นละอองได้แล้ว ผ้าม่านยังเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้การตกแต่งบ้านดูหรูขึ้นทันตา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการจะตกแต่งบ้านด้วยผ้าม่านให้ดูดีขึ้นนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ มากมาย หากใครกำลังคิดจะตกแต่งบ้านให้หรูดูดีมีสไตล์ก็ควรคำนึงถึงองค์ประกอบต่างๆ ดังนี้
สีสันของม่าน
ภาพ via blackmaleappreciation.com
สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงในการติดม่านก็คือ สีสันและสไตล์ของบ้าน หากแบบบ้านของคุณเป็นผนังสไตล์ปูนเปลือย ออกแนววินเทจ แล้วคิดที่จะติดม่านสไตล์หลุยส์ ขอบอกเลยว่านอกจากจะไม่เพิ่มความหรูหราแล้ว ยังบ่งบอกถึงรสนิยมแปลกๆ ในตัวคุณด้วย ดังนั้นสีสันของม่านจึงควรเป็นสีที่อยู่ในโทนเดียวกับห้อง ยกตัวอย่างห้องสีขาว ก็ควรใช้ม่านสีสว่างๆ ไปเลย นอกจากจะดูเรียบหรูแล้ว ยังช่วยให้ห้องของคุณดูกว้างขึ้นด้วย
ดีไซน์ของหน้าต่าง
ภาพ via tutalento.com
ดีไซน์ของหน้าต่างมีผลอย่างมากต่อการเลือกขนาดของผ้าม่าน หากหน้าต่างมีขยาดใหญ่ก็ควรเลือกผ้าม่านที่มีความกว้างและความยาวมากกว่าหน้าต่าง หากเลือกผ้าม่านที่มีขนาดสั้นกว่าหรือเล็กกว่ามาประดับหน้าต่างบานใหญ่ นอกจากจะไม่สามารถใช้ประโยชน์ในด้านการบังแดดได้แล้ว ยังให้ความรู้สึกเหมือนเอาราวตากผ้ามาไว้ในบ้าน ยิ่งหากลักษณะของหน้าต่างเป็นดีไซน์แบบกรอบเหลี่ยมๆ ก็ไม่ควรติดตั้งผ้าม่านแบบมีจีบ เพราะจะทำให้ห้องดูอึดอัดจากความแข็งทื่อของดีไซน์ที่มีลักษณะเป็นเหลี่ยมๆ มากเกินไป
บรรยากาศของห้อง
ภาพ via http://www.bonneville-trail.org/wp-content/uploads/2015/03/Sheer-Curtains-full-view.jpg
หากห้องที่คุณกำลังจะทำการตกแต่งด้วยม่านเป็นห้องที่อยู่ในทิศทางที่แสงแดดในช่วงที่ร้อนที่สุดของวันหันเข้ามาพอดี ควรเลือกผ้าม่านสีที่ไม่จัดจ้าน และเป็นเนื้อผ้าที่บางเบา อย่างเช่นผ้าฝ้าย หรือผ้าลินิน นอกจากความสบาย ผ้าม่านที่เป็นผ้าลินินส่วนใหญ่จะถูกผูผลิตดีไซน์ออกมาในสไตล์โมเดิร์นยุโรป มีความโปรงแสงเล็กน้อยโดยแสงสามารถผ่านมาได้บ้างในเนื้อผ้าแบบนี้ ดังนั้นในช่วงที่แดดจ้าห้องของคุณจะมีประกายแดดส่องมายังพื้นห้องเล็กน้อย พร้อมกับความอบอุ่นที่ไม่ได้ร้อนจนเกินไป
ชนิดและคุณสมบัติของม่าน
สำหรับการติดตั้งผ้าม่าน จะแบ่งคุณสมบัติของผ้าม่านได้ 3 แบบ โดยแบ่งเป็น
ภาพ via jyvancouver.com
เนื้อผ้าแบบโปร่ง (Sheer) เป็นผ้าที่ผลิตจากโพลีเอสเตอร์ มีคุณสมบัติกันแสงได้มากกว่าเนื้อผ้าแบบลินินเพราะมีซับใน แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นผ้าที่มีลักษณะโปร่ง ซึ่งแสงแดดสามารถลอดเข้ามาได้
ภาพ via hotnick.com
เนื้อผ้าม่านแบบทึบแสง (Black Out) เป็นผ้าที่มีความหนา และสามารถสะท้อนแสงได้เป็นอย่างดี สามารถกันแสงได้ 100% ผ้าม่านแบบนี้นิยมติดในห้องนอน หรือห้องที่ต้องการพักผ่อนอย่างจริงจัง และยังมีราคาแพงกว่าผ้าชนิดอื่น
ภาพ via moondreamwebstore.com
เนื้อผ้าแบบแสงผ่านได้บ้าง (Dim Out) เนื้อผ้าแบบนี้จะพบเห็นได้ทั่วไปตามโครงการบ้านเดี่ยว หรือคอนโดมิเนียม เพราะเป็นผ้าที่มีอายุการใช้งานคงทนทนต่อการใช้งานจากสารเคลือบสำหรับป้องกันแสงแดดทำให้สีของผ้าไม่ซีด และเป็นผ้าม่านที่ได้รับนิยมในบ้านเรา
วิธีการติดตั้งม่านที่ถูกต้อง 
วิธีการติดตั้งถือเป็นวิธีสุดท้ายที่ควรได้รับรู้ไว้ เพราะหากติดตั้งผิดวิธีขึ้นมา นอกจากการตกแต่งบ้านจะไม่ช่วยให้บ้านดูดีขึ้นแล้ว การติดตั้งราวม่านใหม่ที่ต้องใช้การยึดการเจาะยังทำให้บ้านสึกหรอด้วย ดังนั้นวิธีที่ถูกต้องในการติดม่านก็คือการติดราวม่านให้อยู่เหนือจากขอบหน้าต่างด้านบนประมาณ 3 นิ้ว และราวม่านมีความยาวทั้งสองด้านมากกว่าขอบหน้าต่างเพื่อที่เวลาเปิดม่านจะได้สามารถรูดม่านเก็บออกไปให้พ้นจากวิวหน้าต่างได้ทั้งสองฝั่ง แต่หากบานหน้าต่างอยู่กึ่งกลางระหว่างพื้นและผนังก็สามารถเขยิบราวม่านขึ้นไปอีกสัก 5-7 นิ้ว หรือให้ความกว้างระหว่างขอบหน้าต่างด้านล่างถึงพื้นและความกว้างระหว่างขอบบนหน้าต่างถึงเพดานมีขนาดบาลานซ์กัน และควรติดผ้าม่านให้ชายผ้าม่านมีความยาวจรดพื้น
ทั้งนี้การตกแต่งบ้านด้วยผ้าม่าน ก็จะมีราคาแตกต่างกันไปแล้วแต่เนื้อผ้า ผู้ผลิตม่านบางรายตอบโจทย์ความหรูหราบนแบรนด์ระดับท็อปๆ ที่มีราคาหลักแสนก็มี จากประเด็นนี้จึงทำให้เห็นว่าผ้าม่านมีส่วนช่วยให้บ้านดูหรูหราและน่าอยู่ขึ้นมากไม่ต่างจากเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงชิ้นนึง และหวังว่าทิปส์ดีดีในการเลือกม่านนี้จะช่วยเปลี่ยนผ้าเช็ดมือสุดหรูของลูกๆ ให้กลับมาใช้งานได้ตรงตามจุดประสงค์อีกครั้ง
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กิตติคม พจนี Content Writer ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kittikom@ddproperty.com
