5 เคล็ดลับต้องรู้ก่อนเลือกสินเชื่อ SME

23 พ.ค. 2559

แม้ว่าสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดย่อมหรือ SME จะคล้ายกับสินเชื่อเพื่อธุรกิจทั่วไป แต่ก็เป็นสินเชื่อที่มีความเฉพาะเจาะจงไปยังกลุ่มผู้ประกอบการรายเล็กทั้งแบบที่เริ่มต้นกิจการและแบบที่ต้องการนำเงินสินเชื่อไปขยายกิจการ โดยจากการรวบรวมข้อมูลจากธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ที่ให้บริการด้านสินเชื่อ SME สามารถสรุปข้อควรคำนึงก่อนตัดสินใจทำเรื่องกู้สินเชื่อ SME ดังนี้

1. เลือกธนาคารที่มีบริการตรงกับประเภทกิจการ

แต่ละธนาคารมีความเชี่ยวชาญด้านสินเชื่อที่แตกต่างกัน บางธนาคารไม่ได้กำหนดชัดเจนว่ามีสินเชื่อเพื่อ SME ก็จะเป็นลักษณะสินเชื่อทั่วไปสำหรับธุรกิจ แต่บางธนาคารก็เป็นธนาคารเฉพาะกิจเพื่อกิจการประเภทใดประเภทหนึ่ง เช่น ธนาคารเพื่อผู้ประกอบการรายย่อยหรือเอสเอ็มอีแบงก์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ เป็นต้น ซึ่งนอกจากแบงก์เฉพาะดังกล่าวแล้ว ปัจจุบันธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง หันมาจับกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย ด้วยการมีแผนกสินเชื่อเพื่อ SME โดยเฉพาะ

การเลือกธนาคารที่มีบริการตรงกับประเภทกิจการของเราจะทำให้มีโอกาสได้รับอนุมัติสินเชื่อ (10 ปัจจัยที่ทำให้ผู้ประกอบการ SMEs กู้เงินจากธนาคารไม่ได้) และได้รับข้อเสนอพิเศษที่สอดคล้องกับประเภทกิจการ เพราะธนาคารเฉพาะจะมีความเข้าใจในประเภทกิจการของเรา หรือมีผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจนั้นๆ มาเป็นที่ปรึกษาให้กับกิจการของเราด้วย

นอกจากนี้ ธนาคารแต่ละแห่งมีบริการย่อยๆ ที่แตกต่างกัน โดยจากข้อมูลของส่วนบริการปรึกษาการเงินและการร่วมลงทุน ฝ่ายประสานและบริการ SMEs สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ได้ยกตัวอย่างบริการไว้ เช่น ธนาคารบางแห่งไม่สามารถออกเช็คได้ แต่จะมีการให้ให้บริการเฉพาะตั๋วสัญญาใช้เงิน ดังนั้นสำหรับธุรกิจที่มีการใช้เงินหมุนเวียนทุกวัน อาจจะไม่สะดวกกับการกู้เงินหรือการใช้บริการทางการเงินกับธนาคารดังกล่าวที่มีบริการให้เฉพาะตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือการที่ทางธนาคารไม่มีความชำนาญหรือไม่สามารถให้บริการในบางประเภท เช่น การเปิด L/C หรือธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการค้าต่างประเทศ ก็อาจไม่เหมาะสมกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับด้านการส่งออก เป็นต้น

2. เลือกประเภทสินเชื่อให้ตรงกับรูปแบบของกิจการ

สำหรับธนาคารที่มีบริการสินเชื่อเพื่อ SME ชัดเจน ก็มีการจัดหมวดหมู่แยกย่อยแต่ละประเภทธุรกิจ โดยสินเชื่อแต่ละประเภทธุรกิจก็จะมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะธุรกิจนั้นๆ ทั้งให้คำปรึกษาในเชิงธุรกิจ ข้อแนะนำด้านการเงิน และวิเคราะห์สินเชื่อ เนื่องจากธุรกิจแต่ละประเภทมีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งธนาคารแต่ละแห่งจะจัดประเภทธุรกิจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมายที่ธนาคารนั้นๆ ต้องการ เช่น ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจค้าส่ง ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจการขนส่งสินค้า ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างภาครัฐ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเอกชน ธุรกิจเคมีภัณฑ์ ธุรกิจเกี่ยวเนื่องเกษตร ธุรกิจการผลิต/โรงงาน เป็นต้น

ดังนั้น เจ้าของกิจการ SME ควรศึกษาก่อนว่าธนาคารใดมีบริการสินเชื่อเฉพาะธุรกิจใดบ้าง และธนาคารใดมีความเชี่ยวชาญในการปล่อยสินเชื่อธุรกิจประเภทใดบ้าง เพราะนอกจากจะได้รับอนุมัติสินเชื่อแล้ว ยังมีผู้เชี่ยวชาญเป็นที่ปรึกษาด้านการเงินที่ดีด้วย ซึ่งถือเป็นข้อดีของผู้ประกอบการขนาดเล็กที่ไม่ได้มีเงินทุนมากพอที่จะจ้างที่ปรึกษามาเป็นคู่คิดทางธุรกิจ

3. เลือกสินเชื่อให้เหมาะกับขนาดกิจการ

ประเด็นนี้อาจจะคล้ายกับข้อ 2 เนื่องจากธนาคารบางแห่งที่มีบริการสินเชื่อเพื่อ SME แต่ไม่ได้แบ่งสินเชื่อตามรายประเภทธุรกิจ ก็จะแบ่งตามขนาดกิจการ เช่น ผลิตภัณฑ์สินเชื่อธุรกิจขนาดเล็ก วงเงินไม่เกิน 20 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์สินเชื่อธุรกิจขนาดกลางวงเงินมากกว่า 20 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 50 ล้านบาท เป็นต้น ส่วนบางธนาคารที่แบ่งสินเชื่อตามประเภทธุรกิจอย่างชัดเจน หัวข้อนี้ก็จะเป็นหัวข้อย่อยให้ผู้ประกอบการ SME ได้ตัดสินใจ

 
เจ้าของกิจการ SME ควรเลือกสินเชื่อให้เหมาะกับกิจการของตัวเอง ทั้งเรื่องวงเงินสินเชื่อรูปแบบของสินเชื่อ ระยะเวลาในการผ่อนชำระ เพื่อให้การลงทุนด้วยเงินกู้เหล่านั้นสอดคล้องกับโอกาสในการสร้างรายได้ และความเป็นไปได้ในการผ่อนชำระ ไม่ควรกู้เกินความจำเป็นและความสามารถในการผ่อนชำระ จะมีความเสี่ยงในการผ่อนชำระไม่ไหวในอนาคต

4. เลือกสินเชื่อให้เหมาะกับวัตถุประสงค์

ในการขอสินเชื่อเพื่อธุรกิจ เจ้าของกิจการ SME ต้องมีความชัดเจนว่าจะนำเงินเหล่านั้นไปลงทุนหรือใช้ประโยชน์ในด้านใด โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีด้วยกัน 2 วัตถุประสงค์ใหญ่ๆ คือ 1.กู้เพื่อเริ่มกิจการใหม่หรือกู้เพื่อขยายงาน เช่น ขยายโครงการใหม่ ขยายโรงงาน ซื้อเครื่องจักร เพิ่มบุคลากร โดยเคล็ดลับคือการเฟ้นหาธนาคารที่ให้ระยะเวลาผ่อนชำระยาว เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องใหักับธุรกิจได้อย่างสบายๆ และ 2. กู้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน ไว้เป็นเงินเบิกเกินบัญชีเพื่อหมุนเวียนในบริษัท ใช้เป็นวงเงินสินเชื่อเพื่อดำเนินธุรกิจ หรือไว้เป็นเงินสำรองในการลงทุน

 
เมื่อมีวัตถุประสงค์ในการกู้เงิน เจ้าของกิจการ SME ก็สามารถเลือกได้เบื้องต้นว่าต้องการสินเชื่อแบบใด เช่น แบบวงเงินมาก แบบวงเงินน้อย แบบผ่อนระยะสั้นไม่เกิน 6-12 เดือน แบบผ่อนระยะยาว 12 เดือนขึ้นไป วงเงินเพื่อการค้าต่างประเทศ วงเงินที่ไม่ต้องใช้หลักประกัน เป็นต้น ซึ่งเจ้าของกิจการควรเลือกสินเชื่อที่เหมาะกับวัตถุประสงค์ เพื่อสภาพคล่องที่ดีในการประกอบกิจการ

5. วิเคราะห์เงื่อนไขของแต่ละธนาคารก่อนเลือก

หลังจากศึกษาภาพของสินเชื่อเพื่อ SME ในวงกว้างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเลือกได้เบื้องต้นแล้วว่า มีธนาคารใดบ้างที่เหมาะกับประเภทกิจการ ขนาดของกิจการ และวัตถุประสงค์ในการกู้ ก็ควรศึกษาเงื่อนไขต่างๆ ของแต่ละธนาคารที่คัดเลือกมาแล้วว่า เงื่อนไขในการให้กู้ของแต่ละธนาคารเป็นอย่างไร เช่น เงื่อนไขในการปล่อยกู้ เงื่อนไขในการอนุมัติวงเงิน เงื่อนไขด้านดอกเบี้ย เงื่อนไขในการผ่อนชำระ ซึ่งเจ้าของกิจการ SME ควรเลือกเงื่อนไขที่ดีและเหมาะสมกับกิจการ ตรงวัตถุประสงค์ของตัวเองมากที่สุด

คิดต่อเติม ขยายกิจการ หรือเสริมสภาพคล่องให้กับธุรกิจ รวมถึงใช้ซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ ของกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ทดลองใช้เครื่องมือคำนวณสินเชื่อ http://www.ddproperty.com/bank/uob หรือ ติดต่อศูนย์ธุรกิจลูกค้าผู้ประกอบการ SMEs ธนาคารยูโอบี โทร. 0-2343-3555

เขียนความเห็น