อยากลงทุนให้ได้ผลตอบแทนสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหุ้นก็ต้องลงทุนในตลาดทุน แต่ถ้าไม่มีเวลา ขาดความรู้ความเข้าใจที่มากพอ และไม่มีประสบการณ์ การลงทุนให้ได้ผลตอบแทนเท่าที่ต้องการคงเป็นเรื่องยากและเสี่ยงเกินไป แต่ปัจจุบันเราไม่จำเป็นต้องลงทุนในหุ้นโดยตรงด้วยตัวเอง แต่สามารถลงทุนผ่านกองทุนรวมหุ้นได้ และมีกองทุนรวมหุ้นประเภทหนึ่งที่เรียกว่าทริคเกอร์ ฟันด์ (Trigger Fund) ซึ่งจะขายหน่วยลงทุนคืนเมื่อได้อัตราผลตอบแทนถึงเป้าหมายของกองทุน กองทุนประเภทนี้คืออะไร น่าสนใจตรงไหน และมีความเสี่ยงอย่างไร
DDproperty ชวนมาทำความรู้จักกันครับ
Trigger Fund คืออะไร
ทริคเกอร์ ฟันด์ ก็คือกองทุนรวมประเภทหนึ่ง ที่มีข้อแตกต่างจากกองทุนรวมทั่วๆ ไปตรงที่มีเป้าหมายผลตอบแทนของกองทุน และกรอบระยะเวลาการดำเนินงานของกองทุนที่ชัดเจนซึ่งจะเป็นเงื่อนไขในการปิดกองทุน โดยกองทุนจะปิดลงเมื่อสามารถทำกำไรได้ตามเป้าหมาย หรือครบกำหนดเวลาดำเนินการของกองทุน ซึ่งกรณีหลังนี้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่บริหารกองทุนนั้นจะให้ผู้ลงทุนเลือกว่าจะขายหน่วยลงทุนโดยที่ยังไม่ได้ผลตอบแทนตามเป้าหมาย หรือจะถือกองทุนนั้นต่อไป
Trigger Fund น่าสนใจตรงไหน
ด้วยผลตอบแทนที่สูง โดยที่ไม่ต้องติดตามศึกษาข้อมูลตลาดทุนมากเท่าการลงทุนในหุ้นเอง หรือกองทุนรวมเปิดทั่วๆ ไป และมีผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนมาบริหารกองทุนผ่านการดำเนินงานของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทริคเกอร์ ฟันด์ ยังมีความน่าสนใจอื่นๆ อีก
1.มีเป้าหมายผลตอบแทนที่ชัดเจน และเมื่อถึงเป้าหมายกองทุนจะปิดและขายหน่วยลงทุนออกไปโดยอัตโนมัติ จึงเหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาติดตามตลาดทุน หรือเศรษฐกิจ และไม่ต้องจดจ่อกับการหาจังหวะตลาดเพื่อขายหน่วยลงทุน
2. กรอบระยะเวลาที่แน่นอนในการดำเนินงาน ทำให้ผู้ลงทุนทราบล่วงหน้าว่าการลงทุนจะสิ้นสุดลงภายในช่วงเวลาเท่าไร คือไม่นานเกินกว่ากรอบเวลาที่กำหนดไว้ แต่อาจเร็วกว่าได้กรณีที่กองทุนสามารถทำกำไรได้เร็วก็จะสามารถปิดกองทุนได้เร็ว และส่วนใหญ่กองทุนประเภทนี้จะดำเนินการภายใน 1 ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สั้น เมื่อแลกกับผลตอบแทนที่สูง
Trigger Fund มีความเสี่ยงอย่างไร
ในความน่าสนใจของทริคเกอร์ ฟันด์ ที่ดูว่าเป็นการลงทุนที่ง่าย ไม่ต้องใช้ความรู้ความเข้าใจมาก ระยะเวลาสั้น และมีผลตอบแทนที่สูง การลงทุนประเภทนี้ก็มีความเสี่ยงอยู่ไม่ต่างจากการลงทุนในหุ้นประเภทอื่นๆ
1. ขาดทุนเป็นความเสี่ยงที่เกิดขึ้นกับทริคเกอร์ ฟันด์ ได้ไม่ต่างจากการลงทุนในหุ้น หรือกองทุนรวมต่างๆ สิ่งที่เกิดขึ้นอาจมาในลักษณะของการที่กองทุนมีกลยุทธ์การลงทุนที่ผิดพลาดจนกระทั่งขาดในที่สุด และไม่สามารถแก้ไขได้จนกระทั่งถึงกรอบระยะเวลาที่กำหนด แต่ในปัจจุบันมีบาง บลจ. ที่แก้ไขความเสี่ยงนี้ด้วยการกำหนดให้กองทุนปิดเมื่อขาดทุนจนถึงระดับที่กำหนด ทำให้สามารถหยุดการขาดทุนได้
2. ผลตอบแทนต่ำกว่าเป้าหมาย กรณีนี้ดีกว่าการขาดทุนเพียงแต่กองทุนไม่สามารถดำเนินการให้ได้กำไรตามเป้าหมายจนกระทั่งถึงเวลาที่ต้องปิดกองทุน
3. พลาดโอกาสจากการได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่า หากเป็นกองทุนรวมหุ้นทั่วไปเราสามารถถือไว้ได้เรื่อยๆ เมื่อผลตอบแทนดี และขยับเป้าหมายผลตอบแทนขึ้นไปได้ แต่สำหรับทริคเกอร์ ฟันด์นั้นหน่วยลงทุนจะถูกบังคับขายเมื่อกองทุนทำผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายและกองทุนจะถูกปิดลง ทริคเกอร์ ฟันด์จึงอาจไม่เหมาะกับผู้ที่ติดตามตลาดทุนอยู่เป็นประจำอยู่แล้วและจับจังหวะซื้อขายได้เอง
ทุกๆ การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนจึงควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน และผลการดำเนินงานของกองทุนในอดีตไม่ได้เป็นหลักประกันถึงผลการดำเนินงานของกองทุนในอนาคต
Picture Reference: www.pbs.org
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย เชษฐพล มานิตย์ Online Writer ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ chetapol@ddproperty.com