บริการเสริมความสะดวก “พร้อมเพย์” คือ บริการโอนเงิน-รับโอนแบบใหม่ เพียงใช้บัตร ปชช.-เบอร์มือถือลงทะเบียนเท่านั้น ดีเดย์พร้อมเปิดให้บริการ ต.ค.นี้
จากข่าววานนี้ (15 มิ.ย) ทางธนาคารแห่งประเทศไทย พร้อมผู้บริหารธนาคารพาณิชย์และแบงก์รัฐ ร่วมลงนามบริการการโอนเงินและรับโอนเงินในรูปแบบใหม่ “พร้อมเพย์” (PromptPay) ซึ่งเป็นบริการที่ภาคธนาคารร่วมมือกันพัฒนาขึ้นเพื่อสนับสนุนโครงการระบบการ ชำระเงินแบบ ANY ID ภายใต้แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติของรัฐบาล
สำหรับบริการดังกล่าวนี้ เป็นบริการที่จะช่วยให้ประชาชนและภาคธุรกิจ สามารถโอนเงินได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากขึ้น โดยใช้หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่และ/หรือเลขประจำตัวประชาชน แทนการระบุเลขที่บัญชีเงินฝากของผู้รับเงิน โดยในระยะแรกจะเปิดให้บริการโอนเงินระหว่างบุคคลทั่วไปก่อน และสำหรับนิติบุคคลจะเปิดให้บริการในช่วงต่อไป ซึ่งในอนาคตหน่วยงานภาครัฐจะสามารถโอนเงินสวัสดิการ เงินช่วยเหลือ และเงินคืนภาษีให้กับประชาชนผ่านบริการพร้อมเพย์ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ หากสนใจใช้บริการพร้อมเพย์ ผู้ใช้บริการต้องลงทะเบียนเพื่อผูกบัญชีเงินฝากธนาคาร กับหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ และ/หรือเลขประจำตัวประชาชนที่ต้องการ โดยเลือกบัญชีเงินฝากธนาคารที่ต้องการใช้เป็นบัญชีในการรับเงิน และแจ้งลงทะเบียนกับธนาคารผ่านช่องทางที่ธนาคารแต่ละแห่งเตรียมไว้ให้บริการ เช่น เอทีเอ็ม, Internet Banking, Mobile Banking หรือที่สาขาธนาคาร และจัดเตรียมเอกสารประกอบการลงทะเบียนตามที่ธนาคารกำหนด เช่น สมุดบัญชีหรือเลขที่บัญชีเงินฝากธนาคาร บัตรประจำตัวประชาชน โทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ต้องการลงทะเบียน หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือเลขประจำตัวประชาชนหนึ่งหมายเลข จะสามารถใช้ผูกหรือจับคู่กับบัญชีเงินฝากปลายทางได้หนึ่งบัญชีและประชาชนสามารถยกเลิก หรือเปลี่ยนแปลงการผูกบัญชีได้ตลอดเวลา โดยปฏิบัติตามขั้นตอนที่ธนาคารแต่ละแห่งกำหนด
พร้อมยืนยัน ธปท. ยึดหลักในการให้บริการของธนาคารโดยคำนึงถึงสิทธิของประชาชนที่จะได้รับข้อมูลอย่างครบถ้วน สามารถเปลี่ยนแปลงยกเลิกการผูกบัญชีได้ง่าย และสามารถเลือกใช้บริการได้อย่างอิสระ ระบบกลางของบริการพร้อมเพย์จะพร้อมให้บริการลงทะเบียนสำหรับทุกธนาคารได้ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. 2559 เป็นต้นไป ส่วนธนาคารที่มีความพร้อมสามารถเปิดให้ลงทะเบียนก่อนกำหนดได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2559
อย่างไรก็ดีนั้น การบริการพร้อมเพย์ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาบริการชำระเงินของประเทศ ซึ่งจะช่วยลดการใช้เงินสด เพิ่มความรวดเร็ว ถูกต้อง และสามารถตรวจสอบรายการย้อนหลังได้ และเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนปรับเปลี่ยนมาใช้ e-Payment ในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น เพื่อลดต้นทุนของระบบการชำระเงินโดยรวม และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ”
ทั้งนี้ ธนาคารพาณิชย์ในไทยทั้ง 15 แห่ง และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ได้ร่วมกันพัฒนาบริการพร้อมเพย์ ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูง ซึ่งทุกธนาคารพร้อมให้ประชาชนลงทะเบียนเพื่อใช้บริการ โดยมีขั้นตอนการตรวจสอบตัวตนและความเป็นเจ้าของบัญชีของผู้ลงทะเบียน รวมทั้งตรวจสอบความเป็นเจ้าของเบอร์โทรศัพท์มือถือ ในกรณีการลงทะเบียนพร้อมเพย์ด้วย
สำหรับคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนพร้อมเพย์ ต้องเป็นเจ้าของบัญชีเงินฝาก และเจ้าของเบอร์โทรศัพท์มือถือที่จะลงทะเบียน เลือกบัญชีออมทรัพย์หรือบัญชีกระแสรายวัน เป็นบัญชีเดี่ยว (ไม่ใช่บัญชีร่วม) ที่จะใช้เป็นบัญชีหลักในการทำธุรกรรมโอนและรับโอน เพื่อนำมาผูกกับเลขประจำตัวประชาชนหรือเบอร์โทรศัพท์มือถือ ภายใต้บริการพร้อมเพย์ โดยบัญชีธนาคารที่นำมาลงทะเบียน 1 บัญชี จะมีหมายเลข หรือ ID เพื่อการผูกบัญชีได้สูงสุด 4 เบอร์ ได้แก่ เลขประจำตัวประชาชน 1 เบอร์ และหมายเลขโทรศัพท์มือถืออีกไม่เกิน 3 เบอร์
อย่างไรก็ตาม หมายเลข หรือ ID ที่นำมาผูกนั้นจะต้องไม่เคยผูกกับบัญชีใดมาก่อน โดยธนาคารจะเปิดรับลงทะเบียนผ่านช่องทางต่างๆ ตามความพร้อมของแต่ละธนาคาร อาทิ ช่องทางเอทีเอ็ม ธนาคารทางอินเทอร์เน็ต ธนาคารบนโทรศัพท์มือถือ และสาขา ทั้งนี้ จะมีธนาคารบางแห่งเปิดลงทะเบียนล่วงหน้า (Pre-register) ในวันที่ 1-14 กรกฎาคม 2559 และทุกธนาคารจะเปิดรับลงทะเบียนบริการพร้อมเพย์อย่างเป็นทางการ พร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 15 ก.ค. 2559 เป็นต้นไป โดยไม่มีกำหนดสิ้นสุดการรับลงทะเบียน
ส่วนกรณีที่ผู้ลงทะเบียนมีความประสงค์จะเปลี่ยนธนาคารที่ผูก ID ไว้ ก็สามารถยกเลิกการลงทะเบียนกับธนาคารเดิมที่ใช้บริการอยู่ และไปลงทะเบียนกับธนาคารใหม่ หรือในกรณีที่ผู้ใช้บริการพร้อมเพย์ต้องการเปลี่ยนแปลงหมายเลขบัญชี หรือหมายเลขโทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้แล้ว ก็สามารถทำได้เช่นกัน
ทั้งนี้ ลูกค้าที่เลือกใช้การโอนเงินผ่านบริการพร้อมเพย์ จะได้รับความสะดวกจากการที่ไม่ต้องสอบถามบัญชีธนาคารของผู้รับโอน การคิดค่าธรรมเนียมของพร้อมเพย์จึงไม่มีการแยกรายการเป็นแบบในเขต ข้ามเขต หรือรายการในธนาคารเดียวกันหรือต่างธนาคาร แต่จะอ้างอิงวงเงินในการโอนแต่ละครั้งเป็นหลัก บริการพร้อมเพย์จึงนับเป็นบริการรูปแบบใหม่ที่มีโครงสร้างการคิดค่าธรรมเนียมที่แตกต่างจากบริการโอนเงินรูปแบบที่มีอยู่ในปัจจุบัน
ส่วนรายละเอียดค่าธรรมเนียมการโอนเงิน ดังนี้ วงเงินไม่เกิน 5,000 บาทต่อรายการ ฟรีค่าธรรมเนียมทุกรายการ วงเงินมากกว่า 5,000–30,000 บาท คิดค่าธรรมเนียมไม่เกิน 2 บาทต่อรายการ ขณะที่ วงเงินมากกว่า 30,000–100,000 บาท คิดค่าธรรมเนียมไม่เกิน 5 บาทต่อรายการ และวงเงินมากกว่า 100,000 บาทขึ้นไป คิดค่าธรรมเนียมไม่เกิน 10 บาทต่อรายการ โดยจะพร้อมเปิดให้บริการโอนเงินได้พร้อมกันทั่วประเทศ ต.ค. 2559 นี้
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี้
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com