แสนสิริ ออกโรงเผยภารกิจปี 60 เตรียมเปิด 19 โครงการมูลค่ารวมกว่า 41,200 ล้านบาท พร้อมส่งแบรนด์ “บ้านแสนสิริ” คืนชีพรุกตลาดซุปเปอร์ลักชัวรี่เจาะกลุ่มกระเป๋าหนัก เดินหน้าขยายฐานตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะจีนและเปิดตลาดใหม่ในญี่ปุ่นเพิ่ม
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยถึงแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี2560 ว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้มีการเติบโตดีแต่ไม่มากคาดว่าจะเติบโตประมาณ 5% โดยตลาดระดับกลาง-บนยังเติบโตได้ดีเนื่องจากดีมานด์มีอยู่ ขณะที่ตลาดระดับล่างยังน่ากังวลเพราะยังมีปัจจัยทั้งเรื่องของหนี้ครัวเรือนที่มีผลต่อกำลังซื้อและยอดปฎิเสธสินเชื่อที่ยังสูง แต่ปีนี้ยังมีปัจจัยบวกจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ อีกทั้งดอกเบี้ยยังต่ำแม้จะปรับขึ้นแต่ไม่มาก
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯในปีนี้ ตามแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่ 19 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 41,200 ล้านบาท แบ่งประเภทการพัฒนาโครงการเป็นคอนโดมิเนียม 8 โครงการ มูลค่ารวม 21,900 ล้านบาท โครงการบ้านเดี่ยว 9 โครงการ มูลค่ารวม 18,500 ล้านบาทและโครงการทาวน์เฮาส์ 2 โครงการ โดยจะเน้นกลุ่ม medium-end และ hi–end เป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้แบ่งสัดส่วนโครงการใหม่ในปีนี้ออกเป็น ตลาดบน 30% ตลาดกลาง 50% และตลาดล่าง 20% เพื่อตอบรับความต้องการของชาวไทยและชาวต่างชาติโดยบริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายรวมสำหรับปีนี้ไว้ประมาณ 36,000ล้านบาท และประมาณการณ์รายได้รวมไว้ที่ 34,000 ล้านบาท
ส่วนการพัฒนาโครงการภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอส ในปีนี้จะเปิดอีก 4 โครงการ มูลค่ากว่า 12,000 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ “เดอะ โมนูเมนต์” “เดอะ เบส”และ“เดอะไลน์” เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทยังทยอยโอน เดอะ ไลน์ สุขุมวิท71 และโครงการ เดอะ ไลน์ จตุจักร – หมอชิต ในปีนี้ด้วย
สำหรับไฮไลท์ปีนี้คือเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวระดับบน ภายใต้แบรนด์ “บ้านแสนสิริ” ที่จะนำกลับมาพัฒนาอีกครั้ง บนทำเลพัฒนาการ ขนาดพื้นที่เริ่มต้น 120 ตารางวาขึ้นไป จำนวน 36ยูนิต มีแบบบ้านให้ดลือก 4-5 แบบ มูลค่า 2,000 ล้านบาท ราคาขายเริ่มต้นที่40 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ 80 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้
รวมทั้งการรุกทำการตลาดเจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายตลาดต่างชาติในปีนี้ไว้ถึง 7,500 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 5,400 ล้านบาท ถึงเกือบ 40%และเติบโตขึ้นถึง 55% จากปี 2558 ที่มียอดขายตลาดต่างชาติ 3,500 ล้านบาท สำหรับโครงการที่ขายดีสำหรับต่างชาติ คือ เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากจากการไปโรดโชว์ที่ประเทศ ฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวันและจีน โกยยอดขายได้ประมาณ 1,300 ล้านบาท นับว่าเป็นมูลค่าสูงที่สุด ซึ่งปีนี้บริษัทเตรียมโรดโชว์ในหลายประเทศโดยจะเน้นขยายฐานในประเทศจีนมากขึ้น รวมทั้งเปิดตลาดในประเทศญี่ปุ่นด้วย
นอกจากนี้ได้มีการจัดตั้งส่วนงานใหม่ที่เรียกว่า Data Analytics and Business Intelligence ขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อทำหน้าที่ในการวางโรดแมพของ enterprise data ใหม่ทั้งหมดและเป็นทีมหลักในการผลักดันให้แสนสิริปรับเปลี่ยนเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับ data analytics capabilities โดยการใช้ข้อมูลในการวางแผนทางธุรกิจ ซึ่งจะทำให้เกิดความมีประสิทธิภาพในการทำงานและสามารถลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจได้ นับเป็นการต่อยอดจากนโยบาย EFG หรือ Engineering for Growth ที่แสนสิริทำต่อเนื่องตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ในไตรมาสแรก บริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการแนวราบประเภททาวน์เฮาส์ มูลค่าโครงการ 90 ล้านบาท จำนวน 10กว่ายูนิตขายในราคา 2-4ล้านบาท คาดว่าจะเปิดโครงการในช่วงเดือนมีนาคม 2560 ในส่วนของตลาดต่างจังหวัดมีแผนพัฒนา 2 โครงการโดยเป็นคอนโดมิเนียมที่เชียงใหม่และโครงการแนวราบที่อยุธยา บนพื้นที่50-60 ไร่ ซึ่งมีทั้งบ้านเดี่ยวที่จะเปิดขายในราคา 3.5 ล้านบาทและทาวเฮาส์ในราคา 2 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดโครงการในไตรมาส 4 ของปีนี้ อย่างไรก็ตามในปีนี้บริษัทได้วางงบซื้อที่ดินไว้ที่ 7,000-7,500 ล้านบาท รอรับการพัฒนาโครงการในอนาคต
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่ หรืออ่านรีวิวโครงการบ้านและคอนโดฯใหม่
