เทคนิคปลดหนี้ที่ควรรู้

26 ม.ค. 2560

“หนี้บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดเป็นหนี้ลำดับต้นๆ ที่ควรปรับลดให้เร็วที่สุด”

เมื่อเป็นหนี้บ้าน หนี้รถ หรือหนี้บัตรต่างๆ เชื่อว่าทุกคนต่างต้องการให้หนี้หมดโดยเร็ว แล้วควรจะทำอย่างไรบ้าง K-Expert มีเทคนิคปลดหนี้มาฝาก โดยแบ่งเป็น 3 หนี้หลักๆ ด้วยกัน ที่เรามักจะมี ดังนี้

หนี้บ้าน
นับว่าเป็นหนี้ที่มีมูลค่าสูงและใช้เวลานานในการชำระหนี้ บางคนอาจใช้เวลานานถึง 20-30 ปี เลยทีเดียว อัตราดอกเบี้ยในการกู้ซื้อบ้านถือว่าไม่แพง เมื่อเทียบกับหนี้ประเภทอื่น โดยเป็นแบบลดต้นลดดอก ส่วนใหญ่แล้วธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยที่ MRR (Minimum Retail Rate) หรือปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 7-8% ต่อปี การโปะหนี้บ้านเป็นเทคนิคสำคัญที่ช่วยให้ประหยัดดอกเบี้ยลงได้ ยกตัวอย่างเช่น ขอสินเชื่อบ้าน 1 ล้านบาท โดยเลือกระยะเวลาผ่อน 30 ปี ถ้าคำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 7% ต่อปี ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายทั้งหมดจะประมาณ 1.2 ล้านบาท ขณะที่การชำระหนี้เพิ่มหรือโปะเพิ่มเพียงเดือนละ 10% จะช่วยร่นระยะเวลาผ่อนให้ลดลง 5-6 ปี และดอกเบี้ยเหลือประมาณ 9 แสนบาท ส่วนการรีไฟแนนซ์ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยบรรเทาภาระดอกเบี้ยได้ แต่ก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์ควรตรวจสอบก่อนว่า ดอกเบี้ยที่ประหยัดได้จะคุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์หรือไม่ โดยควรรอให้พ้นระยะเวลาที่ธนาคารเดิมคิดค่าปรับเสียก่อน ซึ่งปกติจะอยู่ที่ 3 ปี

หนี้รถ
เป็นหนี้ที่มีการคิดดอกเบี้ยแตกต่างจากหนี้รูปแบบอื่นๆ เพราะมีการคิดดอกเบี้ยแบบคงที่ ซึ่งปกติแล้วอยู่ที่ 2.5-5% ต่อปี (เทียบกับแบบลดต้นลดดอกประมาณ 5-10% ต่อปี) ยิ่งเลือกผ่อนยาวก็ยิ่งจ่ายดอกเบี้ยมากขึ้น อีกทั้งการโปะไม่สามารถช่วยลดภาระดอกเบี้ยลงได้ วิธีที่จะช่วยให้ประหยัดดอกเบี้ยลงได้คือ การปิดหนี้รถไปเลยในครั้งเดียว เพราะสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคกำหนดให้ผู้ให้เช่าซื้อต้องลดดอกเบี้ยไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของดอกเบี้ยเช่าซื้อที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ ยกตัวอย่างเช่น ซื้อรถราคา 5 แสนบาท โดยผ่อนชำระเป็นเวลา 4 ปี อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี ดอกเบี้ยทั้งหมดเท่ากับ 6 หมื่นบาท แต่หากปิดหนี้เมื่อผ่อนไปแล้ว 2 ปี จะประหยัดดอกเบี้ยได้เป็นเงิน 7,653 บาท

หนี้บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด
เป็นหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุด หากนำบัตรเครดิตไปรูดซื้อสินค้าแล้วชำระไม่เต็มจำนวน หรือมีการกดเงินจากบัตรเครดิต จะเสียดอกเบี้ยที่อัตราสูงถึง 20% ต่อปี ส่วนบัตรกดเงินสดจะคิดที่ 28% ต่อปี โดยเริ่มคิดเมื่อมีการกดเงินสดออกมาจากบัตร เมื่อเป็นหนี้บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด หลายๆ คนมักเลือกที่จะชำระเท่ากับยอดชำระขั้นต่ำซึ่งอยู่ที่ 5-10% ของยอดหนี้ การชำระเงินแบบนี้ทำให้ยอดหนี้ที่เป็นเงินต้นลดลงไปน้อยมาก ทำให้ต้องใช้เวลานานกว่าจะชำระหนี้จนหมด แนะนำว่า เมื่อเป็นหนี้บัตรทั้ง 2 ประเภท ควรรีบชำระหนี้หรือโปะให้เร็วที่สุด เพื่อให้ยอดหนี้ส่วนที่เป็นเงินต้นลดลง จะได้ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยเป็นเงินจำนวนมาก

ทั้งนี้สำหรับคนที่พอจะมีเงินเหลืออยู่บ้างแต่ลังเลว่าจะเลือกปลดหนี้ตัวไหนก่อนดีเพราะคุณมีทั้งหนี้บ้านและหนี้รถ (ไม่นับรวมหนี้บัตรเครดิต) ลองอ่านบทความเปรียบเทียบระหว่างการโปะหนี้บ้านและหนี้รถได้ที่นี่ นอกจากนี้ก็ยังสามารถอ่านบทความอสังหาริมทรัพย์ รวมถึง รีวิวโครงการใหม่ ๆ เพื่อเป็นตัวช่วยตัดสินใจเรื่องเงินๆ ทองๆ และเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลงทุน

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย ปานตา ฉัตรมาศ CFP® K-Expert ฝ่ายวางแผนและให้คำปรึกษาลูกค้าบุคคล ธนาคารกสิกรไทย หากมีข้อสงสัยหรือต้องการปรึกษาวางแผนเพิ่มเติม สามารถปรึกษากับ K-Expert ธนาคารกสิกรไทย ได้ที่ K-Expert@kasikornbank.com

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

วิธีเก็บเงินให้รวยเหมือนเจ้าสัว

“ขยันทำงานหารายได้ มองหาอาชีพเสริมทำควบคู่กันไป รู้จักเก็บออมก่อนใช้

อ่านต่อ24 ม.ค. 2560

4 ขั้นตอนออมเงิน ฉบับพ่อค้าแม่ค้า

แอดมินนนนน เราทำอาชีพค้าขายอยากออมเงินจะทำไงดีล่ะ? นับเป็นอีกหนึ่งใ

อ่านต่อ25 ม.ค. 2560