ก.แรงงาน เตรียมเคาะค่าจ้างปี 61

4 ธ.ค. 2560

ก.แรงงาน เตรียมเคาะค่าจ้างปี 61

จากประเด็นร้อนแรงเรื่องการปรับค่าจ้างขั้นต่ำตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายนที่ทางคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย หรือ คสรท. ออกมาเรียกร้องให้ปรับค่าจ้างขั้นต่ำสูงถึงวันละ 600-700 บาท เท่ากันทั้งประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับค่าครองชีพในปัจจุบัน ร้อนไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องออกมาเบรกแนวคิดดังกล่าวว่าทำได้ยาก แม้จะปรับขึ้นไม่ถึงตามที่กลุ่มแรงงานเรียกร้อง แต่ล่าสุด กระทรวงแรงงานกำลังพิจารณาปรับค่าจ้างขั้นต่ำสำหรับปี 2561 ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลได้ภายในวันที่ 13 ธันวาคมนี้

ค่าจ้างขั้นต่ำต้องพิจารณารอบด้าน
ขณะนี้กระบวนการพิจารณาการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของของคณะอนุกรรมการวิชาการและกลั่นกรองที่จะต้องพิจารณาประกอบหลักเกณฑ์ต่าง ๆ โดยได้กำหนดแนวทางการใช้สูตรคำนวณที่มีการเพิ่มเติมตัวชี้วัดจากปัจจัยทางเศรษฐกิจให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น อาทิ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอัตราค่าจ้างที่ลูกจ้างได้รับในปัจจุบัน ดัชนีชี้วัดค่าครองชีพ อัตราค่าเฉลี่ยเงินเฟ้อ มาตรฐานค่าเฉลี่ยค่าครองชีพ ต้นทุนการผลิตราคาสินค้าและบริการ ความสามารถในการประกอบธุรกิจ ผลิตภาพแรงงาน ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ หรือจีดีพี รวมทั้งคำนึงถึงสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน

การพิจารณาการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในแต่ละครั้งจะมีคณะกรรมการค่าจ้าง เป็นระบบไตรภาคี มีผู้แทนทั้งฝ่ายลูกจ้าง นายจ้าง และภาครัฐ ฝ่ายละ 5 คน โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่าง ๆ จากหลายหน่วยงาน อาทิ สำนักงานคณะกรรมการการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงพาณิชย์ ที่จะให้ข้อมูลต่อคณะกรรมการเพื่อประกอบการพิจารณาอัตราค่าจ้างตามหลักการดังกล่าวอีกด้วย

ผู้ใช้แรงงานเสนอคิดค่าจ้างอัตราเดียว
ด้าน คสรท. ไม่เห็นด้วยกับการให้ค่าจ้างลอยตัว และสูตรการคิดค่าจ้างขั้นต่ำของกระทรวงแรงงาน ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อระบบโครงสร้างค่าจ้าง และระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ยิ่งทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำและความไม่เป็นธรรมในสังคมมากขึ้น จึงเสนอให้คิดอัตราค่าจ้างเพียงอัตราเดียวทั่วประเทศเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม กระจายรายได้ และดึงคนกลับสู่ท้องถิ่น โดยขอให้ยกเลิกคณะอนุกรรมการค่าจ้างระดับจังหวัด คงไว้เพียงคณะกรรมการค่าจ้างระดับประเทศชุดเดียว และที่มาของคณะกรรมการต้องหลากหลายกว่าที่เป็นอยู่

ผู้ใช้แรงงาน เสนอเสนอให้คิดอัตราค่าจ้างเพียงอัตราเดียวทั่วประเทศเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม

ผู้ใช้แรงงาน เสนอเสนอให้คิดอัตราค่าจ้างเพียงอัตราเดียวทั่วประเทศเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม

ผลวิจัยชี้ค่าจ้างปี 61 ขึ้น 5.5%
ด้าน วิลลิส ทาวเวอร์ส วัทสัน บริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล โบรกเกอร์ และโซลูชั่นส์ ได้เผยผลสำรวจจากรายงานการวางแผนจัดสรรงบประมาณเงินเดือนในเอเชียแปซิฟิก ปี 2560-ไตรมาส 3 โดยคาดว่า อัตราเงินเดือนในไทยจะปรับขึ้นที่ 5.5% ในปี 2561 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 2560 ที่อัตราการเงินเดือนปรับขึ้นที่ 5.2%
ทั้งนี้ การปรับอัตราเงินเดือนของไทยอยู่ในระดับกลางของกลุ่ม โดย 3 อันดับแรกได้แก่ อินเดีย ปรับขึ้น 10% ศรีลังกาปรับขึ้น 8.6% และอินโดนีเซียปรับขึ้น 8.5% ส่วนประเทศที่ปรับขึ้นน้อยที่สุดคือ ญี่ปุ่น อยู่ที่ 2.3%

การปรับอัตราเงินเดือนสำหรับทุกกลุ่มอุตสาหกรรมในไทยช่วงปี 2559-2561 มีแนวโน้มใกล้เคียงกัน โดยกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง มีการขึ้นเงินเดือนต่ำสุดที่ 4% ในปี 2560 และคาดว่าอัตราการขึ้นเงินเดือนจะยังคงต่ำสุดในกลุ่ม โดยอยู่ที่ 5% ในปี 2561 ส่วนกลุ่มประกันชีวิตมีอัตราการขึ้นเงินเดือนลดลงต่อเนื่องทุกปี แต่คาดว่าจะยังรักษาระดับที่ค่าเฉลี่ยมาตรฐานของทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ที่ 5.5%

ส่วนการจ่ายโบนัสในปี 2560 เฉลี่ยของทุกกลุ่มอุตสาหกรรมอยู่ที่ 2.4 เดือน โดยกลุ่มผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และกลุ่มประกันภัย จ่ายโบนัสต่ำสุดที่ 1.8 เดือน ขณะที่กลุ่มบริหารสินทรัพย์ มีการจ่ายโบนัสสูงที่สุดโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 5.5 เดือน

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ปัจจุบันอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านทั้งการเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานคนใหม่อย่าง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว และคณะกรรมการค่าจ้างชุดใหม่ โดยคาดว่าจะประชุมเคาะค่าจ้างได้ในวันที่ 13 ธันวาคมนี้ เบื้องต้นอนุกรรมการค่าจ้างจังหวัดได้ส่งข้อมูลและอัตราค่าจ้างที่ต้องการปรับมาแล้ว มีข้อเสนอให้ปรับสูงสุดตั้งแต่ 10-15 บาท และต่ำสุด 2 บาท รวมถึงไม่เสนอให้มีการปรับขึ้นค่าจ้าง ซึ่งหลังจากนี้ทางคณะกรรมการค่าจ้างจะพิจารณาอย่างรอบคอบอีกครั้ง

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ