“เงินด่วน อนุมัติเร็วทันใจ เงื่อนไขน้อย ไม่ตรวจเครดิต
กู้เงินสดไม่เช็ก Blacklist
เงินสด ดอกเบี้ยถูก ไม่มีบัตรเครดิตก็กู้ได้ มีบัตรผ่อนสินค้าทุกชนิดก็กู้ได้
ไม่ต้องมีบุคคลค้ำประกัน
รับปรึกษาปัญหาทางการเงิน”
คุ้นไหมกับประโยคเหล่านี้? เชื่อว่าหลายคนคงน่าจะเคยเห็นผ่านตาหรือได้ยินผ่านหูกันมาบ้าง ทั้งจากป้ายโฆษณาเล็กๆ ที่ติดตามมุมผนัง เสาไฟฟ้า จากวิทยุ หรือจากอินเทอร์เน็ต ที่จะมีการประกาศข้อความเหล่านี้ ซึ่งนี่แหละ คือ โฆษณาดึงดูดจาก ‘เงินกู้นอกระบบ’ นั่นเอง
‘การไม่มีหนี้ คือ ลาภอันประเสริฐ’
แต่ในบางครั้งความจำเป็นบางอย่าง เช่น กู้ยืมเงินเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย กู้ยืมเงินเพื่อซ่อมแซมบ้าน กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา กู้ยืมเงินเพื่อธุรกิจ กู้ยืมเพื่อไปโปะหนี้อีกที ฯลฯ ก็ผลักดันให้หลายต่อหลายคนต้องไปกู้ยืมเงินจากที่ต่างๆ ทั้งจากสถาบันการเงินหรือนอกระบบ ซึ่งหากคนใดมีประวัติทางการเงินที่ดี หรือมีจังหวะชีวิตที่ดีกว่าคนอื่น การกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินก็คงไม่ใช่เรื่องยากมากนัก แต่กับคนบางกลุ่มที่อาจจะโชคร้าย มีเหตุจำเป็น จึงทำให้ต้องหันหน้าเข้าสู่การเผชิญหน้ากับภัยเงินกู้นอกระบบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
นิยามของเงินกู้นอกระบบ
เงินกู้นอกระบบ ก็คือ เงินกู้ที่ได้จากการกู้ยืมเงินจากแหล่งที่ไม่ใช่สถาบันการเงินโดยตรง หรือเป็นผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำธุรกิจปล่อยกู้แบบถูกกฏหมาย อาจเป็นบุคคลเดียว หรือ กลุ่มผู้ปล่อยเงินกู้ก็ได้ โดยส่วนใหญ่มักคิดดอกเบี้ยในอัตราที่สูง ตั้งแต่ร้อยละ 5- 30 ( ซึ่งจริงๆ แล้วกฏหมายกำหนดให้คิดดอกเบี้ยอยู่ในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี หรือน้อยกว่า แต่ห้ามเกินร้อยละ 15 ต่อปี หากเกินถือว่าผิดกฏหมาย และดอกเบี้ยเป็นโมฆะเมื่ออยู่ในศาลแพ่ง) มักจะไม่ต้องมีการทำสัญญาเงินกู้เป็นหนังสือ, ไม่ต้องใช้เอกสาร เช่น บัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน และได้อนุมัติเร็ว ซึ่งถือเป็นจุดที่ดึงดูดให้ผู้ตกเป็นเหยื่อได้ง่าย
เหยื่อของเงินกู้นอกระบบ
– ผู้ที่ไร้หนทาง ไม่มีญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงให้หยิบยืม
– ผู้ที่ไม่มีเครดิตพอที่จะเข้าถึงสถาบันการเงินในระบบ เช่น ไม่มีเอกสารที่ต้องใช้ประกอบเพื่อขอเงินกู้จากธนาคาร, ไม่มีหลักประกันส่วนตัว, มีรายได้ไม่แน่นอน หาเช้ากินค่ำ, อาชีพอิสระ อาทิ เช่น แม่ค้าพ่อค้า, คนขับรถสาธารณะรับจ้าง ที่มักตรวจสอบรายได้ได้ยาก ทำให้ไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่สถาบันการเงินจะปล่อยกู้
– ผู้ที่ไม่มีประวัติการผ่อนชำระหนี้กับสถาบันการเงิน
– ผู้ที่ไม่เคยนำเงินฝากเข้าบัญชีธนาคารใดๆ
– ผู้ที่มีประวัติหนี้เสีย ที่เกิดจากการผ่อนชำระไม่ตรงหรือเบี้ยวหนี้จากสถาบันการเงินอื่น เช่น ค่าผ่อนรถ ผ่อนบ้าน บัตรเครดิต เป็นต้น
จากลักษณะดังกล่าว สรุปได้ว่า
เหยื่อของเงินกู้นอกระบบนั้น หลักๆ คือ ผู้ที่มีโอกาสน้อยในการอนุมัติสินเชื่อเงินกู้จากสถาบันการเงิน นอกจากนี้ยังรวมถึงผู้ที่จำเป็นต้องใช้เงินด่วน ไม่สามารถรอขั้นตอนในการอนุมัติจากสถาบันการเงินได้ เช่น อาชีพพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องมีเงินหมุนเวียนตลอดเวลา รวมถึงไม่อยากเตรียมเอกสารยุ่งยาก
กลโกงและภัยเงินกู้นอกระบบที่คุณไม่คาดคิด
– ดอกเบี้ยสูง
ผู้ปล่อยกู้เงินกู้นอกระบบส่วนใหญ่มักจะหมกเม็ด แม้ว่าจะยื่นข้อเสนออัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ แต่เอาเข้าจริงแล้ว กลับไม่ได้บอกว่าดอกเบี้ยนั้นคิดเป็นรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน หรือรายปี เผลอๆ อาจถูกคิดเป็นรายวันก็ได้นะ อีกทั้งดอกเบี้ยดังกล่าวยังคิดในอัตราดอกเบี้ยคงที่ ไม่ใช่ดอกเบี้ยลดต้นลดดอกเหมือนเงินกู้จากสถาบันการเงิน เท่ากับว่าต้องจ่ายดอกเบี้ยในจำนวนเท่าเดิมทุกวันจนกว่าจะคืนเงินต้นหมด ลองหักลบดู สรุปดอกเบี้ยท่วมเงินต้น
– การทวงหนี้ด้วยวิธีการโหดร้ายที่สุดแสนจะบรรยาย
หากจ่ายช้ากว่ากำหนด เบี้ยวไม่จ่าย จะเจอกับสิ่งเหล่านี้ เช่น ใช้วาจาขู่กรรโชก, ประจานให้อับอาย (ซึ่งจริงๆ ลูกหนี้มีสิทธิ์ฟ้องได้ แต่ถามว่าคุ้มหรือไม่), ยึดทรัพย์สินไปเรื่อยๆ จนหมดตัว, ทำร้ายร่างกายผู้กู้ยืมและครอบครัว ไปจนถึงขั้นทำให้เสียชีวิตอย่างที่ข่าวออกมาในปัจจุบัน
– สัญญาอำพรางเงินกู้
ผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบบางราย มักจะหลอกให้เราใช้บัตรเงินผ่อนซื้อสินค้าในราคาที่สูงกว่าเงินกู้ที่เราต้องการ เพื่อนำของมาแลกเงินกู้ เช่น ต้องการกู้เงิน 30,000 บาท ถูกบังคับให้ซื้อสินค้าราคา 35,000 บาทเพื่อมาแลกกับเงินกู้จากผู้ปล่อยกู้จำนวน 30,000 บาท เท่ากับว่าเราได้เงินกู้ตามที่ต้องการก็จริงแต่ต้องแบกภาระค่าผ่อนสินค้ากับค่าธรรมเนียมอื่นๆ ในขณะที่ผู้ปล่อยเงินกู้ลอยตัวเพราะได้สินค้าไปแล้ว
– บีบให้ทำสัญญาที่ไม่เป็นธรรม
นอกจากสัญญาจะไม่โปร่งใส ผู้ปล่อยเงินกู้บางรายก็เขียนจำนวนเงินเกินจริงให้เห็นตำตา เช่น ขอกู้เงิน 20,000 บาท แต่ในสัญญาเขียนว่า 40,000 บาท คนที่เดือดร้อนจริงก็ต้องยอมไม่งั้นเขาไม่ให้กู้
อีกประเภทหนึ่ง ก็คือ ชาวบ้านตาดำๆ ที่ไม่รู้ประสีประสา อ่านหนังสือไม่ออก ก็ถูกหลอกให้เซ็นยินยอมตามระเบียบ
– เสี่ยงต่อการโดนยึดของมีค่าสูง
แม้บางรายจะไม่มีการทำสัญญากู้ยืมเป็นหนังสือ แต่ก็มีเงื่อนไข คือ ให้นำโฉนดบ้านหรือที่ดิน หรือสิ่งของมีค่ามาเป็นหลักประกัน และให้เซ็นใบมอบฉันทะ ถ้าหากผิดชำระหนี้ขึ้นมา สินทรัพย์ชิ้นนั้นตกเป็นของผู้ปล่อยเงินกู้อย่างไม่มีข้อโต้แย้ง
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คงจะเห็นได้ว่าถึงแม้เงินกู้นอกระบบจะเข้าถึงได้ง่ายกว่าเงินกู้จากสถาบันการเงิน แต่ในขณะเดียวกันก็เสี่ยงทีจะเจอกับผลลัพธ์ทางลบได้ง่ายกว่าเช่นเดียวกัน จึงแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการเงิน ไม่ว่าจะเพื่อ ซื้อบ้าน หรือ ซื้อคอนโดฯ หรือเพื่อธุรกิจ ฯลฯ คิดให้ถี่ถ้วนและศึกษาทางเลือกอื่นก่อนตัดสินใจกู้เงินแบบผิดกฏหมาย
ทั้งนี้ทั้งนั้นในปัจจุบันสถาบันการเงินหลายแห่งก็ได้เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงเงินกู้มากขึ้นและไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด เช่น ธกส. ,ธอส. เป็นต้น รวมถึงรัฐบาลก็สนับสนุนให้ประชาชนเลิกใช้วิธีกู้เงินนอกระบบ อย่างล่าสุด ก็ได้ออกนโยบายเพื่อช่วยเหลือคนจนต่างๆ มากมาย อาทิ สินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉิน ที่จะช่วยให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกรรายย่อยสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้ในกรณีมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินฉุกเฉิน หรือ สินเชื่อประชารัฐปล่อยกู้อาชีพอิสระ เป็นต้น
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน