เปิดหน้าดินสุขุมวิท-เทพารักษ์ ทำเลน่าจับตาใกล้สายสีเหลือง

[บทความประชาสัมพันธ์พิเศษ] รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) เป็นอีกหนึ่งเส้นทางรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายที่น่าจับตามอง จากการที่รถไฟฟ้าเส้นทางนี้จะผ่านชุมชนขนาดใหญ่ 2 ฝั่งของกรุงเทพฯ ทั้งฝั่งลาดพร้าว และฝั่งสำโรง ซึ่งทั้ง 2 ฝั่ง ล้วนเป็นจุดศูนย์กลางขนาดย่อมในแต่ละพื้นที่นั้น โดยรถไฟฟ้าเส้นทางนี้เบื้องต้นจะเป็นระบบรางเดี่ยวหรือโมโนเรล เริ่มต้นบริเวณจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงินที่สถานีรัชดาภิเษก ซึ่งอยู่บริเวณแยกรัชดาฯ-ลาดพร้าว ไปตามถนนลาดพร้าวจนถึงแยกบางกะปิ ก่อนจะเลี้ยวเข้าถนนศรีนครินทร์ เชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มที่สถานีแยกลำสาลี ซึ่งอยู่บริเวณแยกลำสาลี

จากนั้นแนวเส้นทางต่อไปยังถนนศรีนครินทร์ผ่านศรีกรีฑา แยกพัฒนาการ พัฒนาการ ศรีนุช สวนหลวง ร.9 ศรีอุดม ศรีเอี่ยม ศรีลาซาล ศรีแบริ่ง ศรีด่าน จนถึงแยกศรีเทพา ต่อด้วยทิพวัล ก่อนจะเบนไปทางทิศตะวันตกตามถนนเทพารักษ์ และวิ่งไปจนถึงปลายทางย่านสำโรงในจ.สมุทรปราการผ่านจุดเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการที่สถานีสำโรง ระยะทางรวม 30.4 กิโลเมตร จำนวน 23 สถานี มูลค่า 5.47 หมื่นล้านบาท

ความคืบหน้าของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง (ข้อมูล ณ วันที่ 15 พ.ค. 2560) อยู่ระหว่างรอนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการพิจารณาอนุมัติวงเงินก่อสร้าง แต่ก่อนหน้านี้ได้เปิดประมูลผู้รับเหมาไปแล้ว โดยกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) ประกอบด้วย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS Group บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH และบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC เป็นผู้ชนะการประมูล

รถไฟฟ้าสายสีเหลืองฝั่งศรีนครินทร์มีส่วนสำคัญอย่างมากในการเปิดหน้าดินใหม่ๆ ให้กับโซนสุขุมวิท-เทพารักษ์ และจะทำให้พื้นที่บริเวณนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฝั่งศรีนครินทร์เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวบริเวณสถานีสำโรง ซึ่งปัจจุบันสถานีสำโรงเปิดให้บริการแล้วและเป็นเส้นทางที่วิ่งตรงเข้าใจกลางเมือง ใช้เวลาเพียงไม่นาน ก็สามารถเข้าถึงเอกมัย ทองหล่อ ชิดลม สยามได้อย่างสะดวกมาก

ปัจจัยดังกล่าวจะมีผลบวกกับพื้นที่บริเวณตอนต้นๆ ของรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฝั่งศรีนครินทร์ที่ใกล้กับสถานีสำโรง เช่น บริเวณสถานีทิพวัล เป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นสถานีรอยต่อก่อนที่จะเข้าสู่รถไฟฟ้าเส้นทางหลัก ซึ่งหากวิเคราะห์ภาพรวมทำเลบริเวณสถานีสำโรงและสถานีทิพวัล จะพบว่า พื้นที่รอบสถานีสำโรงคึกคักไปมากแล้วตั้งแต่ช่วงที่ตัวสถานีกำลังก่อสร้าง มีคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นจำนวนมากและราคาขยับขึ้นไปตามการเปิดใช้งานของรถไฟฟ้า

ขณะที่บริเวณสถานีทิพวัลถือว่าเป็นหน้าดินใหม่ที่ยังมีการพัฒนาคอนโดมิเนียมน้อยมาก จากการที่ยังไม่มีรถไฟฟ้าเส้นทางตรงผ่านย่านทิพวัล-เทพารักษ์ แต่ความต้องการที่อยู่อาศัยถือว่ามีสูงมาก เนื่องจากบริเวณเทพารักษ์เป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ทั้งนิคมอุตสาหกรรม ใกล้บริษัทรถยนต์ชั้นนำ ใกล้โรงพยาบาลหลายแห่ง รวมถึง ยังมีแหล่งไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่เปิดให้บริการมากขึ้นด้วย

อีกหนึ่งแหล่งไลฟ์สไตล์ที่รวบรวมความบันเทิงและตอบโจทย์การใช้ชีวิตทุกรูปแบบให้แก่คนในย่านดังกล่าว The JAS Urban Srinakarin

จากการที่พื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นศูนย์รวมแหล่งงานและการอยู่อาศัย ทำให้ราคาที่ดินค่อนข้างสูงในเชิงการพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบ หากอยู่ในทำเลที่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกมากๆ จะมีราคาที่ค่อนข้างสูง ทาวน์เฮาส์เริ่มต้นไม่น้อยกว่า 3.5-4.5 ล้านบาท ส่วนบ้านเดี่ยวจะหาค่อนข้างยาก เพราะที่ดินราคาสูง แต่กำลังซื้อคนย่านนี้ไม่สูงมากนัก ส่วนทาวน์เฮาส์ราคาไม่แพง เริ่มต้นราวๆ 1.6-1.7 ล้านบาท ก็จะอยู่ไกลออกจากสิ่งอำนวยความสะดวกพอสมควร

พื้นที่ย่านทิพวัล-เทพารักษ์ที่ติดริมถนน เดินทางสะดวก ส่วนใหญ่จึงจะเป็นอพาร์ตเมนต์ อัตราค่าเช่าประมาณ 5,000-6,000 บาท/เดือน รองรับกลุ่มคนทำงานมีเงินเดือนย่านนี้เป็นหลัก ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อไม่สูงมาก สามารถซื้อที่อยู่อาศัยได้ในราคาราวๆ 1-2 ล้านบาท จึงมีความเป็นไปได้ที่กลุ่มคอนโดมิเนียมระดับล้านต้นๆ จะเป็นทางเลือกใหม่ให้กับกลุ่มคนที่เคยเช่าที่อยู่อาศัยย่านนี้ให้เปลี่ยนมามีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง

สำหรับผู้ประกอบการที่เน้นการเปิดทำเลใหม่ๆ ติดเส้นทางรถไฟฟ้าในอนาคตอย่างค่ายออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เพื่อให้ได้ต้นทุนที่ดินที่สามารถพัฒนาคอนโดมิเนียมระดับราคาล้านต้นๆ ตอบโจทย์ความต้องการที่อยู่อาศัยให้กับคนที่กำลังซื้อไม่สูงนัก จึงไม่พลาดที่จะปักธงบนทำเลย่านทิพวัล-เทพารักษ์ ภายใต้ชื่อโครงการเคนซิงตัน สุขุมวิท-เทพารักษ์ (Kensington Sukhumvit-Thepharak) ติดรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีทิพวัล และใกล้กับสถานีสำโรงของรถไฟฟ้าสายสีเขียว

เคนซิงตัน สุขุมวิท-เทพารักษ์ (Kensington Sukhumvit-Thepharak) ในพื้นที่ 4 -2 – 24 ไร่ คอนโดมิเนียมความสูง 38 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 1,318 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,529 ล้านบาท ที่ตั้งอยู่ ต.เทพารักษ์ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างไตรมาส 2 ปี 2561 และคาดว่าแล้วเสร็จในไตรมาส 4 ปี 2563

นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวก อันได้แก่

– Double Volume Lobby Lounge (2 Lobby)
ล็อบบี้ 2 จุด สไตล์ Industrial British Loft การออกแบบที่เน้นความโปร่งโล่ง เพดานสูง

– Another Home Area & Co – Working Space
วิวสวน 180 องศา ฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งห้องประชุม มุมทำงาน มุมทำการบ้าน มุมอ่านหนังสือ ส่วนรับแขก และพื้นที่นั่งเล่น

– The Gym Club
ห้องฟิตเนสขนาดใหญ่ เครื่องออกกำลังกายครบครัน

– Deep Relaxing Pool & Garden
สระว่ายน้ำ ดีไซน์ทันสมัย ความยาวกว่า 30 เมตร และสวนพักผ่อนขนาดใหญ่ พร้อมศาลานั่งเล่น พื้นที่รวม 628 ตร.ม.

– สวน 4 แบบ 4 สไตล์ ชั้น G Panoramic Greenery , Playground Garden, Backyard Garden , ชั้น 35 และ 38  Double Skyline Roof Garden

Backyard Garden ผ่อนคลายที่สวนหลังบ้าน

ยังมีจำนวนที่จอดรถถึง 32% (ไม่รวมซ้อนคัน) ซึ่งทั้งหมดนี้ราคาเริ่มต้นเพียง 1.09 ล้านบาท และราคาเฉลี่ย 70,000 บาท/ตร.ม. เท่านั้น

จุดเด่นหลักของโครงการ นอกจากสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการที่เหนือความคาดหมาย Over Expectation ในราคาที่จับต้องได้แล้ว ยังมีจุดเด่นในด้านทำเลที่มีศักยภาพด้วยใกล้รถไฟฟ้า 2 สาย นั่นก็คือ 0 เมตรจาก BTS ทิพวัล ของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง) และ 1 สถานี ถึง Interchange สถานีสำโรงของสายสีเขียว ใช้เวลาเพียง 15 นาทีจากทองหล่อ

ในด้านไลฟ์สไตล์ ตัวโครงการยังใกล้ห้าง และแหล่งช้อปปิ้งมากมาย

– 1 นาที ถึง Palm Island mall & BigC mini
– 5 นาที ถึง The JAS Urban Srinakarin
– 8 นาที ถึง อิมพีเรียลสำโรง

อีกทั้ง ยังใกล้ Mega Bangna, Tesco Lotus ศรีนครินทร์ และสนามบินสุวรรณภูมิ เพียง 30 นาที

ภาพจาก thaimalldirectory.com

ด้านสุขภาพ ใกล้โรงพยาบาลหลายแห่ง

– 2.5 กม. จากโรงพยาบาล สำโรงการแพทย์
– 5 กม. จากโรงพยาบาล สินแพทย์ เทพารักษ์
– 7 กม. จากโรงพยาบาล ศิครินทร์
– 8 กม. จากโรงพยาบาล เปาโล สมุทรปราการ

ขอบคุณภาพ Asia Water Mart

ด้านแหล่งงาน
– 10 นาที ถึง แหล่งนิคมอุตสาหกรรมปู่เจ้า
– 25 นาที ถึง นิคมอุตสาหกรรมบางปู
– 30 นาที ถึง นิคมอุตสาหกรรมบางพลี

ทางเลือกใหม่ของคนอยู่อาศัย
ด้วยจุดเด่นทั้งภาพรวมโครงการ พิเศษด้วยราคา และอยู่บนทำเลที่ดี จึงถือเป็นทางเลือกใหม่ให้กับกลุ่มผู้เช่าที่อยู่อาศัยในย่านทิพวัล-เทพารักษ์และคนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยที่เดินทางสะดวก

เปิดทำเลใหม่ให้นักลงทุน
เช่นเดียวกับกลุ่มผู้สนใจลงทุน ก็เป็นทางเลือกที่ไม่ควรมองข้าม เพราะต้นทุนของราคาห้องชุดที่ยังไม่สูงมากจากการที่ตั้งบนทำเลใหม่ของตลาดคอนโดมิเนียม แต่ด้วยรถไฟฟ้าสายสีเหลืองในอนาคต จึงทำให้มีโอกาสที่ราคาจะปรับขึ้นในอัตราที่ค่อนข้างสูง ซึ่งหากเน้นการลงทุนระยะยาว ทำเลย่านนี้มีความต้องการเช่าสูงจากทั้งคนที่ทำงานในพื้นที่นี้และคนที่ทำงานในเมือง โดยหากเทียบอัตราค่าเช่าปัจจุบันที่ 5,000-6,000 บาท/เดือน กับต้นทุนห้องชุดเริ่มต้น 1.09 ล้านบาท จะมีโอกาสได้อัตราผลตอบแทนที่ 5-6% ต่อปี (Gross Yield)

คนที่สนใจที่จะซื้อเพื่ออยู่เอง และซื้อเพื่อลงทุนสามารถเข้าชมสำนักงานขาย เพื่อลงทะเบียนรับ Tag ที่จะสามารถใช้เป็นส่วนลดได้สูงสุด 80,000 บาท ในวันงาน VIP Pre-sale ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 17 มิ.ย. 2560 ที่สำนักงานขายได้

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน