Grand Bangkok Boulevard เพชรเกษม-กาญจนา โครงการบ้านเดี่ยวระดับ Luxury 2 ชั้น กับสังคมส่วนตัวเพียง 62 ครอบครัว ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจาก St. Stephen’s Cathedral กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย รายล้อมด้วยสวนส่วนตัวขนาดใหญ่กว่า 2 ไร่ มอบความร่มรื่นและความสงบอย่างมีระดับ พร้อมคลับเฮาส์หรูดีไซน์ร่วมสมัย บนทำเลที่ศักยภาพบนถนนกาญจนาภิเษก ราคาเริ่มต้น 40-70 ล้านบาท
[Special Advertising Feature] เขาใหญ่ ถือเป็นทำเลที่ตอบโจทย์ทั้งด้านสภาพแวดล้อมที่ยังคงเป็นธรรมชาติ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน จึงทำให้มีผู้สนใจมองหาบ้านหลังที่ 2 หรือบ้านพักตากอากาศในทำเลเขาใหญ่เป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายรายต่างตอบรับความต้องการดังกล่าวเปิดโครงการทั้งแนวราบและแนวสูงเป็นจำนวนมาก ทำให้อสังหาริมทรัพย์ในทำเลเขาใหญ่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555 แม้ว่าปัจจุบันจะมีภาวะชะลอตัว แต่เป็นการชะลอแบบรอจังหวะทั้งจากสภาพเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการพัฒนาเมกะโปรเจกต์ของทางภาครัฐ เช่น โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง รถไฟทางคู่ และมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-นครราชสีมา ซึ่งจะช่วยผลักดันให้อสังหาริมทรัพย์ในทำเลเขาใหญ่มีความคึกคักมากขึ้น
โดยทำเลที่น่าสนใจของเขาใหญ่ไม่ใช่มีเพียงบน ถ.ธนะรัชต์ เท่านั้น แต่พื้นที่ใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมและมีความเจริญเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา คือตามแนว ถ.กุดคล้า-ผ่านศึก ซึ่งมีหลายโครงการทั้งที่กำลังพัฒนา และพัฒนามานานแล้ว โดยหนึ่งโครงการที่แตกต่างจากโครงการอื่นซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสงบ เป็นส่วนตัว รายล้อมด้วยภูเขา ผืนป่า และทะเลสาบขนาดใหญ่ถึง 4 แห่ง สังคมคุณภาพที่ทำให้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติมากที่สุดกับ โครงการภิรมย์ แอท วินยาร์ด โดย บริษัท ปิยะ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
เจาะลึกข้อมูลโครงการ
ชื่อโครงการ: ภิรมย์ แอท วินยาร์ด (Pirom at Vineyard)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท ปิยะ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
ทำเลที่ตั้ง: ถ.กุดคล้า-ผ่านศึก ต.พญาเย็น อ.ปากช่อง จ.นครนครราชสีมา
เว็บไซต์: www.piromatvineyard.com
โทร: 09-4985-8888
รายละเอียดโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 1/8/2560)
พื้นที่โครงการ: 800 ไร่
ลักษณะโครงการ: ที่ดินจัดสรร พร้อมบ้านพักตากอากาศระดับซุปเปอร์ลักซ์ชัวรี่แบ่งเป็นเฟส A เนื้อที่ 1.50-4 ไร่ จำนวน 22 แปลง เฟส B เนื้อที่ 340 ตารางวา-1.50 ไร่ จำนวน 50 แปลง
กลุ่มเป้าหมาย: เน้นกลุ่มคนไทยระดับ A+ ที่ต้องการอยู่อาศัยท่ามกลางอ้อมกอดของธรรมชาติ
สิ่งอำนวยความสะดวก: สวนป่าขนาดใหญ่ ทะเลสาบขนาดใหญ่ 4 แห่ง รอบโครงการ เลนจักรยาน ลู่วิ่ง สายไฟ สายเคเบิ้ล และสายโทรศัพท์ลงใต้ดินทั้งหมด
ระบบรักษาความปลอดภัย: ระบบกล้องวงจรปิดรอบโครงการ Double Security ทางเข้า-ออกโครงการ และทางเข้า-ออก แต่ละเฟส พนักงานรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
สถานะการขาย: ยอดขาย 50%
เงินกองทุนสะสม: 500 บาท/ตารางวา (จ่ายครั้งเดียว)
ค่าส่วนกลาง: 12 บาท/ตารางวา (จ่ายล่วงหน้า 3 ปี)
ราคาเริ่มต้น: เฟส A ราคา 45,000-50,000 บาท/ตารางวา เฟส B ราคาเริ่มต้นที่ 35,000 บาท/ตารางวา
รูปแบบบ้าน
แม้โครงการจะเปิดขายเป็นที่ดินจัดสรร ซึ่งลูกค้าสามารถสร้างบ้านได้ตามแบบที่ตนเองต้องการ (โดยต้องมีการขออนุมัติจากโครงการก่อน เพื่อให้ทุกหลังมีลักษณะกลมกลืนกับธรรมชาติ) แต่สำหรับลูกค้าที่ต้องการให้โครงการก่อสร้างบ้านให้ด้วย ทางโครงการก็มีแบบบ้านให้เลือกถึง 4 แบบ ดังนี้
เฟส A
1. Valley เนื้อที่ประมาณ 1.5-4 ไร่ พื้นที่รวม 893 ตารางเมตร พื้นที่ใช้สอย 495 ตารางเมตร ขนาด 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 2 ห้องแม่บ้าน 1 ห้องน้ำแม่บ้าน 5 ที่จอดรถ
2. Courtyard เนื้อที่ประมาณ 1.5-4 ไร่ พื้นที่รวม 830 ตารางเมตร พื้นที่ใช้สอย 477 ตารางเมตร ขนาด 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ห้องแม่บ้าน 1 ห้องน้ำแม่บ้าน 5 ที่จอดรถ
เฟส B
1. Barn เนื้อที่ประมาณ 340 ตารางวา-1.5 ไร่ พื้นที่รวม 689 ตารางเมตร พื้นที่ใช้สอย 380 ตารางเมตร ขนาด 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 1 ห้องน้ำแม่บ้าน 2 ที่จอดรถ
2. Horizontal เนื้อที่ประมาณ 340 ตารางวา-1.5 ไร่ พื้นที่รวม 597 ตารางเมตร พื้นที่ใช้สอย 289 ตารางเมตร ขนาด 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
ชม Virtual Tour
รายละเอียดโครงการ
รีวิวภาพรวมโครงการ
ผู้ออกแบบบ้าน: คุณบุญเลิศ เหมวิจิตรพันธ์ บริษัท บูรณ์ดีไซน์ จำกัด ผู้ออกแบบภูมิทัศน์: คุณวรรณพร พรประภา บริษัท พีแลนด์สเคป จำกัด
โครงการภิรมย์ แอท วินยาร์ด คือโครงการบนที่ดินกว่า 800 ไร่ บนเนินเขาน้อยใหญ่จรดทะเลสาบ ที่รายล้อมด้วยทิวเขาสลับกันไปมา ซึ่งเป็นผืนดินที่ถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีมาอย่างยาวนานโดยตระกูล “ภิรมย์ภักดี” ด้วยแรงบันดาลใจของคุณปิยะ ภิรมย์ภักดี ที่ต้องการสร้างให้ภิรมย์ แอท วินยาร์ด เป็นสังคมที่ดีหนึ่งเดียวที่พร้อมสรรพทั้งความเป็นส่วนตัว สงบ ร่มรื่น และกลมกลืนกับความงามของธรรมชาติ และภูมิทัศน์โดยรอบ
ด้วยเหตุนี้การออกแบบทางสถาปัตยกรรมไม่ว่าจะเป็นภายนอกและภายในบ้านจะผสมกลมกลืนไปกับธรรมชาติให้มากที่สุดโดยใช้แนวคิด ไม่ใช่เอาธรรมชาติมาเป็นส่วนหนึ่งของสถาปัตยกรรม แต่จะต้องเป็นโครงการที่นำสถาปัตยกรรมเข้าไปอยู่กับธรรมชาติอย่างกลมกลืน ซึ่งทำให้โครงการภิรมย์ แอท วินยาร์ด แตกต่างจากโครงการอื่นโดยสิ้นเชิง การวางแปลนบ้านแต่ละหลังจะไม่บังวิวกันเอง บ้านทุกหลังโดยเฉพาะบนเฟส A ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ดีที่สุดในโครงการ จะเห็นวิวทะเลสาบและภูเขาไปพร้อม ๆ กัน ทำให้บ้านทุกหลังสัมผัสทัศนียภาพแบบ 360 องศา ทั้งวิวภูเขา ต้นไม้ และทะเลสาบ
การออกแบบ Landscape รอบตัวบ้านมีการวางรูปแบบที่เน้นความเป็นธรรมชาติ คือมีความสูง-ต่ำ ไม่ได้ปรับให้เป็นพื้นราบเรียบเท่ากันทั้งโครงการเหมือนโครงการอื่นทั่วไป ทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนอยู่ในธรรมชาติอย่างแท้จริง เน้นใช้กระจกเทมเปอร์บานใหญ่ติดฟิล์มกรองแสงเพื่อกรองรังสียูวีเปิดรับแสงธรรมชาติ และเปิดรับลมเย็นได้อีกด้วย
วัสดุที่ใช้ทั้งภายนอกและภายในเน้นวัสดุจากธรรมชาติ อาทิ หิน อิฐ และไม้จริง ผลิตภัณฑ์ที่ตกแต่งภายในบ้านนอกจากจะเป็นวัสดุจากธรรมชาติ ยังเป็นวัสดุภายในประเทศที่สั่งทำพิเศษแทบทุกชิ้น อาทิ งานจักสาน งานทอต่าง ๆ รวมทั้งเน้นงานที่ทำด้วยมือ อาทิ ผนังภายในบ้านฉาบด้วยมือเพื่อให้เกิดลอนคลื่น และพื้นไม้โอ๊คผ่านการขัดให้เกิดลวดลาย สร้างมิติของความสวยงามที่ไม่เหมือนใคร
ใส่ใจในทุกรายละเอียดการก่อสร้างด้วยรูปแบบบ้านอัจฉริยะที่สามารถดูแลตัวเองได้ โดยพื้นมีการปูคอนกรีตก่อนหนึ่งชั้น และยกพื้นสูง 50 เซนติเมตร แล้วจึงวางแผ่นพื้น เพื่อให้อากาศไหลเวียน ป้องกันความชื้นจากดินเข้ามาภายในบ้าน และหมดปัญหาเรื่องปลวก ทั้งยังง่ายและสะดวกในการซ่อมบำรุง ด้านข้างทำรางน้ำเพื่อป้องกันมด แมลงเข้ามารบกวนภายในบ้าน
นอกจากนี้ยังให้ความพิเศษแบบ Double ในทุก ๆ ส่วนของโครงการ อาทิ กำแพงก่ออิฐโชว์แนวแบบ Double Wall ช่วยปกป้องบ้านจากอุณหภูมิภายนอก ทำให้บ้านเย็นอยู่เสมอ และป้องกันเสียง พื้นที่แบบ Double Space ความสูงจากพื้นถึงเพดานเฉลี่ย 3.50 เมตร หลังคา 2 ชั้น ชั้นแรกเป็นเมทัลชีท ส่วนชั้นที่สองเป็นไม้ซีดาร์ ซึ่งมีอายุการใช้งานถึง 50 ปี ง่ายต่อการบำรุงรักษา และต่อเติม
แม้ว่าลูกค้าจะซื้อที่ดินและสามารถออกแบบและสร้างบ้านได้เอง แต่ต้องมีการมาขออนุมัติแบบจากโครงการก่อนเพื่อให้บ้านทุกหลังเป็นไปในทางเดียวกัน และกลมกลืนกับธรรมชาติให้มากที่สุด อาทิ ต้องใช้สีเอิร์ธโทน แบบบ้านต้องไม่เกิน 2 ชั้น หรือสูงไม่เกิน 12 เมตร เพื่อไม่ให้บังวิวกัน รวมทั้งยังมีระเบียบต่างๆ เพื่อให้โครงการภิรมย์ แอท วินยาร์ด เป็นสังคมคุณภาพที่แตกต่างจากโครงการอื่น อาทิ จะต้องสร้างบ้านหลังจากวันโอนกรรมสิทธิ์ภายใน 3 ปี พื้นที่โดยรอบทะเลสาบเป็นพื้นที่ส่วนกลาง ลูกบ้านที่อยู่ติดทะเลสาบไม่สามารถสร้างสิ่งก่อสร้างรุกล้ำได้ พื้นที่สามารถตัดแบ่งให้กับลูกหลาน หรือผู้อื่นได้ แต่ต้องไม่ต่ำกว่า 300 ตารางวา ระยะร่นของแต่ละหลังต้องไม่ต่ำกว่า 6 เมตร เพื่อให้เกิดความสวยงาม ไม่บังวิว และไม่แออัด สร้างสังคมที่น่าอยู่ไปชั่วลูกชั่วหลาน
การวางทิศทางโครงการ
โครงการภิรมย์ แอท วินยาร์ด ถือเป็นโครงการจัดสรรที่มีเนื้อที่มากที่สุดในเขาใหญ่ ด้านหน้าโครงการหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ติด ถ.กุดคล้า-ผ่านศึก โครงการตั้งอยู่บนที่ดอนสูงกว่าที่ดินรอบข้าง จึงไม่มีโครงการไหนมาบดบังวิวได้ ด้านอื่นจะเป็นวิวภูเขาทั้งหมด สำหรับที่ดินในเฟส A จะได้วิวทะเลสาบ และภูเขาทุกหลัง โดยจัดวางแปลนบ้านแต่ละหลังไม่ให้บังวิวกันเอง
Master Plan
Unit Layout
แบบบ้าน Valley เนื้อที่ประมาณ 1.5-4 ไร่ พื้นที่รวม 893 ตารางเมตร พื้นที่ใช้สอย 495 ตารางเมตร ขนาด 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 2 ห้องแม่บ้าน 1 ห้องน้ำแม่บ้าน 5 ที่จอดรถ
แบบบ้าน Courtyard เนื้อที่ประมาณ 1.5-4 ไร่ พื้นที่รวม 830 ตารางเมตร พื้นที่ใช้สอย 477 ตารางเมตร ขนาด 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ห้องแม่บ้าน 1 ห้องน้ำแม่บ้าน 5 ที่จอดรถ
แบบบ้าน Barn เนื้อที่ประมาณ 340 ตารางวา-1.5 ไร่ พื้นที่รวม 689 ตารางเมตร พื้นที่ใช้สอย 380ตารางเมตร ขนาด 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 1 ห้องน้ำแม่บ้าน 2 ที่จอดรถ
แบบบ้าน Horizontal เนื้อที่ประมาณ 340 ตารางวา-1.5 ไร่ พื้นที่รวม 597 ตารางเมตร พื้นที่ใช้สอย 289 ตารางเมตร ขนาด 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
แม้ว่าด้านหน้าโครงการภิรมย์ แอท วินยาร์ด เขาใหญ่ จะเหมือนกับโครงการอื่นทั่วไป แต่ภายในโครงการกลับเพียบพร้อมไปด้วยธรรมชาติ จุดชมวิว ทะเลสาบถึง 4 แห่ง มีภูเขาและสวนป่าที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ล้อมรอบ จนทำให้เกิดคำพูดที่ว่า “โครงการภิรมย์ แอท วินยาร์ด เขาใหญ่ เป็นโครงการธรรมดาที่มีความพิเศษ ไม่ใช่เหมือนโครงการทั่วไปที่บอกว่ามีความพิเศษ แต่ที่จริงแล้วธรรมดา”
อุ่นใจมากขึ้นด้วยระบบรักษาความปลอดภัยแบบแยกเฟส Double Security มีป้อมพนักงานรักษาความปลอดภัยชั้นแรกบริเวณด้านหน้าโครงการ และชั้นที่สองแยกแต่ละเฟส รวมทั้งเฟส A ซึ่งมีทั้งสองฝั่งทะเลสาบก็แยกทางเข้าด้วยเช่นกัน พร้อมพนักงานรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง และกล้อง CCTV รอบโครงการ
โครงการตั้งใจสร้างสังคมที่ดี โดยเฉพาะความใกล้ชิดกันของครอบครัว จึงคงสภาพสิ่งแวดล้อมภายในโครงการให้คงไว้ซึ่งความเป็นธรรมชาติและเน้นความเป็นส่วนตัวให้มากที่สุด โดยถนนโครงการกว้างถึง 18 เมตร แบ่งเป็นเลนจักรยานด้านละ 1.50 เมตร มีลู่วิ่ง สองข้างทางของถนนเมนจะปลูกต้นซิลเวอร์โอ๊ค ส่วนภายในเฟสจะเน้นปลูกต้นไม้ท้องถิ่นเป็นหลัก อาทิ แต้ว กระพี้จั่น โดยสายไฟ สายเคเบิ้ล และโทรศัพท์ เดินสายลงใต้ดินทั้งหมด เพียงเสาไฟฟ้าให้แสงสว่างภายในโครงการเท่านั้นเพื่อไม่ให้บดบังสายตา และภายในสิ้นปี 2560 จะมีร้านกาแฟ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากพีบีวัลเล่ย์ บริเวณด้านหน้าโครงการ
วิวบริเวณทะเลสาบที่ 2 ปัจจุบันเป็น Sales Gallery แต่ปลายปี 2560 จะก่อสร้างเป็นร้านกาแฟ ผลิตภัณฑ์จากพีบีวัลเล่ย์
รีวิวภายในบ้านตัวอย่าง
สิ่งที่จะได้รับจากโครงการ
พื้น: ไม้โอ๊คขัดลาย หินธรรมชาติ
ผนัง: ก่ออิฐโชว์แนวแบบ Double Wall ผนังฉาบปูนเป็นลอนคลื่น
หลังคา: ชั้นแรกเป็นเมทัลชีท ชั้นนอกเป็นไม้ซีดาร์
พื้นจรดเพดานความสูง: เฉลี่ย 3.50เมตร ห้องอเนกประสงค์และห้องนอนใหญ่ประมาณ 4.50 เมตร
– บ้านตัวอย่างแบบ Valley เนื้อที่ 1.5-4 ไร่ พื้นที่รวม 893 ตารางเมตร พื้นที่ใช้สอย 495 ตารางเมตร ขนาด 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 2 ห้องแม่บ้าน 1 ห้องน้ำแม่บ้าน 5 ที่จอดรถ (ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนได้ทุกอย่างภายในบ้านทั้งเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่ง และวัสดุ)
โถงบันไดจากทางเชื่อมที่จอดรถ ซึ่งอยู่ระหว่างกลางของชั้นล่างกับชั้นบน ผนังอิฐโชว์แนว พื้นไม้โอ๊คขัดลาย และราวกันตกใช้แผ่นเหล็กทึบสีดำ กระจกเทมเปอร์บานใหญ่ เปิดรับวิวสวน
พาขึ้นมาดูชั้นที่ 2 กันก่อน โถงทางเดินเปิดรับวิวด้วยกระจกเทมเปอร์บานใหญ่ กรองรังสียูวีได้เป็นอย่างดี แต่สามารถรับแสงธรรมชาติ และวิวได้ดีเช่นเดียวกัน
ห้องอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ เพดานสูงโปร่ง หลังคาไม้จริง พื้นไม้โอ๊คขัดลาย เปิดรับวิวธรรมชาติด้วยหน้าต่าง และประตูกระจกเทมเปอร์บานใหญ่ ทั้ง 3 ด้าน
ถัดจากห้องอเนกประสงค์ มีทางเชื่อมระหว่างอาคาร ผนังทั้ง 2 ด้าน เป็นกระจกเทมเปอร์บานใหญ่ รับวิวและแสงธรรมชาติ มีประตูบานเลื่อนเพื่อออกไปรับอากาศบริสุทธิ์ที่สวนหินภายนอกทั้ง 2 ด้าน
ตกแต่งด้วยประติมากรรมไม้ และสวนหิน รองรับกิจกรรมอื่นๆ เช่น การปิ้งบาร์บีคิวคลายหนาว หรือนั่งสังสรรค์ ตากลมเย็น รับวิวภูเขาและทะเลสาบ
ทางเดินเชื่อมกับห้องนอนใหญ่ที่อยู่อีกอาคาร ห้องสูงโปร่ง เพดานกรุไม้จริง ให้ความเป็นส่วนตัวในการพักผ่อน แม้จะมีการจัดงานเลี้ยงบริเวณห้องอเนกประสงค์ เก็บเสียงด้วยกำแพงแบบ Double wall
ให้ความสำคัญกับการตกแต่งในทุกจุด อาทิ บานพับเปิด-ปิด สำหรับพรางจอโทรทัศน์ ซึ่งเป็นงานจักสานจากวัสดุธรรมชาติส่งทำพิเศษ
เชื่อมต่ออย่างเรียบง่ายกับ Walk in closet ขนาดใหญ่ ซึ่งมีตู้เสื้อผ้าทั้ง 2 ด้าน ปูพื้นด้วยหินธรรมชาติ
ห้องนอนชั้นล่างในโซนอาคารเดียวกับห้องนอนใหญ่ เพดานฉาบปูนให้เกิดเป็นลอนคลื่น หัวเตียงตกแต่งด้วยเชือกปอถักด้วยฝีมือช่างหัตถกรรมพื้นบ้าน
บานพับเปิด-ปิด สำหรับพรางจอโทรทัศน์ ซึ่งเป็นงานจักสานจากวัสดุธรรมชาติส่งทำพิเศษเช่นเดียวกับห้องนอนใหญ่
ชั้นล่างพื้นที่เชื่อมระหว่าง 2 อาคาร ออกแบบเป็นชานไม้โล่ง รับลมเย็น ใต้ร่มเงาของทางเชื่อมบนชั้นที่ 2
ตัวอาคารยกสูงจากพื้นดิน 50 เซนติเมตร พร้อมติดตั้งตะแกรงเหล็กฉีก เพื่อป้องกันความชื้นเข้าสู่ตัวบ้าน และง่ายต่อการซ่อมบำรุงในอนาคต ด้านข้างโรยหินธรรมชาติเพิ่มความสวยงาม
ทําเล & การเดินทาง
ทำเลเขาใหญ่มีอัตราการเติบโตสูงสุดเมื่อปี 2555-2556 ซึ่งเป็นช่วงหลังเกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่ในปี 2554 ทำให้คนกรุงเทพฯ มองหาบ้านหลังที่ 2 โดยเขาใหญ่เป็นทำเลที่ตอบโจทย์ทั้งด้านสภาพแวดล้อมที่ยังคงความเป็นธรรมชาติ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และไม่มีมลภาวะเหมือนจังหวัดท่องเที่ยวอื่นในประเทศไทย อาทิ เชียงใหม่ ที่มักมีปัญหาหมอกควัน ส่งผลให้มีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เข้ามาพัฒนาโครงการในทำเลนี้เพิ่มมากขึ้น โดยส่วนใหญ่เป็นโครงการคอนโดมิเนียม จากข้อมูลของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ พบว่า ในปี 2559 ทำเลเขาใหญ่มีอุปทานสะสมจำนวน 5,078 ยูนิต มียอดขายประมาณ 72% และคาดว่าในปี 2560 จะมีโครงการทั้งแนวราบและแนวสูง ทยอยก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 20 โครงการ
นอกจากนี้ จากผลการสำรวจของฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย พบว่า ทำเลตามแนว ถ.กุดคล้า-ผ่านศึก และพื้นที่ตามแนว ถ.เขาใหญ่-วังน้ำเขียว กลายเป็นพื้นที่ใหม่ที่ได้รับความนิยมในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สอดคล้องกับผลสำรวจของบริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ที่พบว่าพื้นที่ไข่แดงที่มีการกระจุกตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์สูงสุดคือ บริเวณโซนเขาใหญ่ จากกิโลเมตรที่ 15 บน ถ.ผ่านศึก-กุดคล้า ถึงเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ รองลงมาพื้นที่ไข่ขาวที่นิยมพัฒนาคือ ถ.ธนะรัชต์ โซนขนงพระ-โยธาธิการ ที่เหลือเป็นของโซนมิตรภาพ-ธนะรัชต์ และโซนมวกเหล็ก-ปากช่อง ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ทำเลเขาใหญ่ยังได้รับอานิสงส์จากเมกะโปรเจ็กต์ของทางภาครัฐ ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง รถไฟทางคู่ และมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-นครราชสีมา ซึ่งจะช่วยผลักดันให้อสังหาริมทรัพย์ในทำเลเขาใหญ่มีความคึกคักเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
ทำเลที่ตั้งโครงการ
โครงการภิรมย์ แอท วินยาร์ด ตั้งอยู่บน ถ.กุดคล้า-ผ่านศึก ต.พญาเย็น อ.ปากช่อง จ.นครนครราชสีมา ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 145 กิโลเมตร โดยถนนทางหลวงชนบท สาย นม.1016 หรือ ถ.กุดคล้า-ผ่านศึก เป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่าง ถ.ธนะรัชต์ และ ถ.มิตรภาพ ซึ่งถือเป็นจุดศูนย์กลางของโซนเศรษฐกิจเขาใหญ่ ที่ยังคงความเป็นธรรมชาติ สงบ เป็นส่วนตัว ไม่เหมือนกับโซน ถ.ธนะรัชต์ ที่มีความพลุกพล่านมากกว่า รองรับการเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูง ใกล้สถานีปากช่อง และมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-นครราชสีมา ซึ่งจะช่วยย่นระยะเวลาการเดินทางให้เหลือเพียงประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้น
โครงการห่างจากแยกต่างระดับมวกเหล็กประมาณ 10 กิโลเมตร ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูง สถานีปากช่อง ประมาณ 30 กิโลเมตร ห่างจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ประมาณ 18 กิโลเมตร ถือเป็นจุดศูนย์กลางสำคัญในการท่องเที่ยวในโซนเขาใหญ่ หรือ จ.นครราชสีมา และเป็นจุดแวะพักก่อนเดินทางไปต่างจังหวัด ในโซนภาคอีสาน ภาคเหนือ หรือกลับกรุงเทพฯ
โครงการตั้งอยู่บนที่ดอนโอบล้อมด้วยเทือกเขาดงพญาเย็น ที่สำคัญโครงการนี้ไม่มีปัญหาเรื่องเอกสารสิทธิ์ ทุกแปลงมีโฉนดหมดแล้ว ทั้งในเฟส A จำนวน 22 แปลง และเฟส B จำนวน 50 แปลง ซื้อแล้วสบายใจไม่มีปัญหาเรื่องรุกล้ำพื้นที่ป่าสงวน สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ทันที
แม้จะอยู่ในทำเลใจกลางธรรมชาติ แต่ไม่ไกลจากสิ่งอำนวยความสะดวก ในระยะขับรถยนต์ประมาณ 20 นาที อาทิ โรงพยาบาล ตลาด และห้างสรรพสินค้า ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยว อาทิ น้ำตกมวกเหล็ก น้ำตกเจ็ดสาวน้อย บ่อน้ำผุด เขาใหญ่อาร์ตมิวเซียม ฟาร์มโชคชัย ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ก รวมทั้งพลับพลาสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่วัดผ่านศึกอนุกูล
มอเตอร์เวย์บางปะอิน-นครราชสีมา หรือโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 6 สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา ซึ่งถือเป็นเส้นทางมอเตอร์เวย์ลำดับที่ 3 ของประเทศ และเส้นทางแรกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระยะทาง 196 กิโลเมตร ขนาด 4 และ 6 ช่องจราจร แนวเส้นทางเริ่มต้นที่จุดเชื่อมต่อบริเวณทางแยกต่างระดับบางปะอิน ขนานไปกับเส้นทางใหม่ ถ.พหลโยธิน และ ถ.มิตรภาพ มีจุดสิ้นสุดบรรจบกับทางเลี่ยงเมืองนครราชสีมา มีด่านเก็บค่าผ่านทางทั้งหมด 9 ด่านประกอบด้วย ด่านบางปะอิน ด่านวังน้อย ด่านหินกอง ด่านสระบุรี ด่านแก่งคอย ด่านมวกเหล็ก ด่านปากช่อง ด่านสีคิ้ว และด่านนครราชสีมา คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2563
รถไฟฟ้าความเร็วสูงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กิโลเมตร เป็นส่วนหนึ่งของโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ-หนองคาย มีสถานียกระดับ 6 สถานี ได้แก่ สถานีบางซื่อ, ดอนเมือง, อยุธยา, สระบุรี, ปากช่อง และโคราช ใช้ความเร็วที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยจากกรุงเทพฯ-นครราชสีมา จะใช้เวลาเพียง 1.17 ชั่วโมง ค่าโดยสารอยู่ที่ 535 บาท คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2564
การเดินทาง
การเดินทางมาโครงการปัจจุบันสามารถทำได้ถึง 3 เส้นทาง ดังนี้
1. จาก ถ.มิตรภาพ ผ่านโรงพยาบาลมวกเหล็ก จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้า อ.มวกเหล็ก (ทางที่จะไปน้ำตกมวกเหล็ก) กลับรถ แล้วมุ่งหน้าสระบุรี จะเป็นทางลอดใต้ ถ.มิตรภาพ กลับรถเข้า ถ.มิตรภาพ ฝั่งกลับกรุงเทพฯ ผ่านหน้าฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ก เลี้ยวซ้ายเข้าซอยเซอร์ เจมส์ คันทรี คลับ ก่อนเลี้ยวซ้ายตัดเข้า ถ.กุดคล้า-ผ่านศึกซึ่งเส้นทางนี้ถือว่าสะดวกมาก ไม่ต้องกลับรถไกล และเลี่ยงรถติดได้เป็นอย่างดี
2. จาก ถ.มิตรภาพ ผ่านโรงพยาบาลมวกเหล็ก ผ่านทางเข้า อ.มวกเหล็ก (ทางที่จะไปน้ำตกมวกเหล็ก) กลับรถบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 39 จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้า ถ.กุดคล้า-ผ่านศึก หน้าทางเข้าจะเป็นร้านแดรี่โฮม เส้นทางนี้กลับรถค่อนข้างไกล แต่หากจะแวะร้านแดรี่โฮม หรือสักการะพลับพลาสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่วัดผ่านศึกอนุกูล เส้นทางนี้ก็เป็นตัวเลือกหนึ่ง
3. จาก ถ.ธนะรัชต์ เลี้ยวขวาเข้า ถ.กุดคล้า-ผ่านศึก ในช่วงเทศกาลการจราจรค่อนข้างพลุกพล่านบน ถ.ธนะรัชต์
สถานที่แนวไลฟ์สไตล์
สถานที่สำคัญรอบโครงการ
พีบีวัลเล่ย์ เขาใหญ่ ไวน์เนอรี่ เริ่มให้บริการมาตั้งแต่ปี 2532 บนพื้นที่กว้างใหญ่กว่า 2,000 ไร่ ล้อมรอบด้วยหุบเขาที่มีสภาพภูมิอากาศเหมาะสมสำหรับเพาะปลูกองุ่น โดยมีพื้นที่ปลูกองุ่นทั้งหมดประมาณ 300 ไร่ ทั้งองุ่นรับประทานผลสดและองุ่นผลิตไวน์ มีร้านอาหารให้บริการชื่อว่า The Great Hornbill เมนูแนะนำคือ เมี่ยงใบองุ่น ซี่โครงหมู PB และพิซซ่าเตาถ่าน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมนำเที่ยว ชมความงามของไร่องุ่นอย่างใกล้ชิด ต่อด้วยการเยี่ยมดูโรงไวน์ที่ทันสมัย ปิดท้ายด้วยการชิมผลิตภัณฑ์คุณภาพจากทางไร่
ทาง พีบีวัลเล่ย์ เขาใหญ่ ไวน์เนอรี่ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น. ส่วนกิจกรรมชมไร่เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.00-16.00 น. ร้านอาหารและร้านค้าเปิดให้บริการทุกวัน โดยวันอาทิตย์-วันพฤหัสบดี เวลา 09.00-20.00 น. และวันศุกร์-เสาร์ เวลา 09.00-22.00 น. ตั้งอยู่บน ถ.กุดคล้า-ผ่านศึก ห่างจากโครงการประมาณ 3 กิโลเมตร
สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ
โรงพยาบาลมวกเหล็ก ห่างจากโครงการประมาณ 15 กิโลเมตร
โรงพยาบาลปากช่องนานา ห่างจากโครงการประมาณ 33 กิโลเมตร
ตลาดมวกเหล็ก ห่างจากโครงการประมาณ 14กิโลเมตร
โรบินสัน สระบุรี ห่างจากโครงการประมาณ 36กิโลเมตร
เทสโก้โลตัส ปากช่อง ห่างจากโครงการประมาณ 30 กิโลเมตร
นอกจากนี้ยังมีตลาดท้องถิ่นในโซนเขาใหญ่ ร้านอาหารชั้นนำ และสนามกอล์ฟระดับ 5 ดาว อยู่รอบโครงการในระยะเดินทางไม่เกิน 20 นาทีอีกหลายแห่ง
บทวิเคราะห์
เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
ชื่อโครงการ |
จำนวน |
เนื้อที่ |
พื้นที่ใช้สอย (ตร.ม.) |
ราคาขาย (บาท/ตร.ว.) |
ภิรมย์ แอท วินยาร์ด |
เฟส A 22 แปลง เฟส B 50 แปลง |
1.5-4 ไร่ 340 ตร.ว.-1.5 ไร่ |
830-893 597-689 |
45,000-50,000 35,000 ขึ้นไป |
ทอสคานา วัลเล่ย์ |
เฟสแรก 50 แปลง |
– |
303-615 |
เกือบ 100,000 |
เดอะ เครสตัน ฮิลส์ |
เฟสแรก 57 แปลง |
400 ตร.ว.-1 ไร่ |
600-800 |
65,000-85,000 |
ทอสคานา วัลเล่ย์
เจ้าของโครงการ: บริษัท ทอสคน่า วัลเล่ย์ จำกัด
ทำเลที่ตั้ง: ถ.ธนะรัชต์ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
โทร: 08-4581-6555, 08-683-6555
เว็บไซต์: www.toscanavalley.com
เนื้อที่โครงการ: 2,500 ไร่
รายละเอียดโครงการ: บ้านพักตากอากาศ สูง 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย303-615 ตารางเมตร
ราคาเริ่มต้น: เกือบ 100,000 บาท/ตารางวา
สิ่งอำนวยความสะดวก: สปอร์ตคลับ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ สนามเด็กเล่น สวนสาธารณะ
บ้านพักตากอากาศท่ามกลางขุนเขาที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแคว้นทัสคานี ประเทศอิตาลี พร้อมสนามกอล์ฟ และโรงแรม มีแบบบ้านให้เลือก 10 แบบ
เดอะ เครสตัน ฮิลส์
เจ้าของโครงการ: บริษัท ภูพบฟ้า จำกัด
ทำเลที่ตั้ง: ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมาห่างจาก ถ.ธนะรัชต์ 300 เมตร
โทร: 09-6145-5155
เว็บไซต์: www.crestonhills.com
เนื้อที่โครงการ: กว่า 200 ไร่
รายละเอียดโครงการ:
ราคาเริ่มต้น: 65,000-85,000 บาท/ตารางวา
สิ่งอำนวยความสะดวก: ทะเลสาบเนื้อที่ 31 ไร่ สโมสร และคอมมูนิตี้มอลล์
โครงการที่พักอาศัยหรูสไตล์ร่วมสมัยแบบอเมริกัน แบ่งการพัฒนาเป็น 3 เฟส เฟสแรก เนื้อที่ 99 ไร่ เป็นบ้านพักตากอากาศ มีแบบบ้านให้เลือก 4 แบบ พร้อมสระว่ายน้ำทุกหลังจำนวน 57 แปลง เฟส 2 จำนวน 18 ไร่ เป็นทาวน์โฮมประมาณ 73 ยูนิตและเฟส 3 ประมาณ 31 ไร่ เป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์อาคารละ 27-30 ยูนิต
เมื่อเปรียบเทียบกับอีก 2 โครงการ ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน พบว่า ทั้ง 2 โครงการอยู่ในทำเล ถ.ธนะรัชต์ ซึ่งค่อนข้างพลุกพล่าน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล นอกจากนี้ภายในโครงการยังมีทั้งโรงแรม และคอมมูนิตี้มอลล์ ทำให้บรรยากาศภายในโครงการไม่เป็นส่วนตัวเท่ากับโครงการภิรมย์ แอท วินยาร์ด รวมทั้งแนวคิดในการออกแบบบ้าน ทั้ง 2 โครงการเน้นสไตล์ต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอิตาลี หรืออเมริกา แตกต่างจากโครงการภิรมย์ แอท วินยาร์ด ที่ยังคงออกแบบโดยกลมกลืนกับธรรมชาติให้มากที่สุด
สรุป
โครงการภิรมย์ แอท วินยาร์ด รายล้อมด้วยทะเลสาบถึง 4 แห่ง และอยู่ในอ้อมกอดของเทือกเขาดงพญาเย็น บนเนื้อที่กว่า 800 ไร่ เป็นโครงการที่ออกแบบให้ใกล้ชิดและกลมกลืนกับธรรมชาติมากที่สุดแห่งหนึ่งในทำเลเขาใหญ่ ไม่ได้ปรับพื้นให้เท่ากันทั้งโครงการ แต่คงไว้ซึ่งพื้นที่สูง-ต่ำ เพื่อให้สัมผัสใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด โดยทุกแปลงจะไม่บังวิวกันเอง ทุกหลังโดยเฉพาะในเฟส A จะเห็นวิวทะเลสาบ และภูเขา
การออกแบบบ้านเน้นใช้สีเอิร์ธโทนไม่รบกวนและขัดกับความเป็นธรรมชาติ เน้นใช้วัสดุและเฟอร์นิเจอร์จากธรรมชาติ สั่งทำพิเศษ เน้นพื้นที่เปิดโล่ง ออกแบบให้คงไว้ซึ่งความเรียบง่าย แต่สามารถใช้ประโยชน์ได้จริง มีห้องอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ที่รองรับการพักผ่อนของครอบครัว และงานเลี้ยง โดยไม่รบกวนความเป็นส่วนตัวกับห้องอื่นภายในบ้าน ใส่ใจในรายละเอียดการก่อสร้างด้วยโครงสร้างบ้านยกสูงจากพื้น 50 เซนติเมตร ป้องกันความชื้นจากพื้นดินเข้าสู่ตัวบ้าน
เพิ่มความสะดวกสบายและจัดเต็มแบบ Double อาทิ กำแพงแบบ Double wall ป้องกันเสียงและความร้อนจากภายนอก ห้องแบบ Double Space ที่ให้พื้นที่ใช้สอย และความโปร่งโล่ง เพดานสูงเฉลี่ย 3.50 เมตร Double Security อุ่นใจด้วยระบบรักษาความปลอดภัยถึง 2 ชั้น จากทั้งทางเข้า-ออก โครงการ และทางเข้า-ออก ของแต่ละเฟส
โครงการตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพของการใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ บน ถ.กุดคล้า-ผ่านศึก เดินทางมาโครงการได้สะดวกทั้งจาก ถ.มิตรภาพ และ ถ.ธนะรัชต์ ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 145 กิโลเมตร รองรับการเดินทางในอนาคตที่จะสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-นครราชสีมา และรถไฟฟ้าความเร็วสูง กรุงเทพฯ-นครราชสีมา
ที่สำคัญโครงการนี้ ไม่มีปัญหาเรื่องเอกสารสิทธิ์ ทุกแปลงมีโฉนดหมดแล้ว ทั้งในเฟส A จำนวน 22 แปลง และเฟส B จำนวน 50 แปลง ซื้อแล้วสบายใจ ไม่มีปัญหาเรื่องรุกล้ำพื้นที่ป่าสงวน สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ทันที
ราคาต่อตารางวาไม่แพงเหมือนกับโครงการอื่นในระดับเดียวกัน แต่ให้ความเป็นส่วนตัว สงบ และใกล้ชิดธรรมชาติซึ่งเหมาะสำหรับเป็นที่บ้านพักหลังที่ 2 บนโครงการที่สวยงามและเป็นธรรมชาติที่สุดแห่งหนึ่งของเทือกเขาดงพญาเย็น