แลนด์มาร์ค แอท แกรนด์สเตชั่น บาย ไซมิส แอสเสท (Landmark At Grand Station By Siamese Asset) เป็นโครงการมิกซ์ยูส บนทำเลศักยภาพ ตรงข้ามแฟชั่นไอส์แลนด์ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีวงแหวนรามอินทรา เพียง 400 เมตร ภายในห้องออกแบบเป็น 2 ชั้น เพดานสูง 4.15 เมตร เน้นความโปร่ง โล่ง พร้อมออกแบบห้องตามพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นห้องพักสำหรับผู้สูงอายุ คนที่มีสัตว์เลี้ยงหรือห้องพักในรูปแบบ Co-living และห้องพักแบบมาตรฐาน ภายในโครงการครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งพื้นที่พักอาศัย โรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร และสำนักงาน ราคาเริ่มต้นเพียง 2.90 ล้านบาท
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
ถนนวิภาวดีเป็นอีกทำเลหนึ่งที่มีศักยภาพของกรุงเทพฯโดยเฉพาะด้านการเดินทาง แต่บนถนนสายนี้แทบจะไม่มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดตัวบนถนนสายนี้เลยโดยเฉพาะโครงการที่เป็นตึกสูงและอยู่ติดถนน ปีนี้ แกรนด์ ยูนิตี้ฯ คว้าที่ดินแปลงสวยกว่า 6 ไร่ ติดถนนวิภาวดีฝั่งตรงข้ามวัดเสมียนนารีปักธงเปิดตัวโครงการ “ยู ดีไลท์ รัชวิภา” คอนโดมิเนียมไฮไรส์โครงการแรกติดถนนวิภาวดี โดยวันนี้ DDProperty จะพามารีวิวโครงการแบบเจาะลึกทั้งในแง่ทำเลและโปรดักส์เพื่อให้เห็นว่าโครงการนี้มีความโดดเด่นและน่าสนใจอย่างไร
เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 25 สิงหาคม 2558)
ชื่อโครงการ: ยูดีไลท์ รัชวิภา (U Delight Ratchavibha)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จํากัด
ทำเลที่ตั้ง: ถ.วิภาวดี แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
เว็บไซต์: http://grandu.co.th/udrv/webpage/
รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: 6 ไร่ 69 ตารางวา
รูปแบบ: คอนโดมิเนียม 23 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 875 ยูนิต
เจาะกลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่, คนทำงานในพื้นที่ใกล้เคียง
สถานะการก่อสร้าง: อยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จพฤศจิกายน 2559
ระบบความปลอดภัย: Keycard Access แบบเข้าออกได้เฉพาะชั้นที่พัก, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิด 24 ชั่วโมง
ส่วนพักอาศัย: ชั้นที่ 3-23
ส่วนกลาง: สระว่ายน้ำ, ห้องออกกำลังกาย, ห้องสมุด, ห้องซาวน่า, สวนส่วนกลาง, แปลงผักสวนครัว, ที่จอดรถจักรยาน, ร้านสะดวกซื้อ
ที่จอดรถ: 345 คัน (ไม่รวมซ้อนคัน) ค่าจอดรถ (แบบไม่กำหนดที่จอด) 400 บาท/เดือน/คัน ทุกยูนิตได้รับสิทธิ์ผ่านเข้าออกลานจอดรถยูนิตละ 1 คัน
ลิฟต์โดยสาร: 4 ตัว
ลิฟต์บริการ: 1 ตัว
สถานะการขาย: 42% (ข้อมูล ณ วันที่ 25 สิงหาคม 2558)
เงินกองทุนสะสม (Sinking fund): 500 บาท/ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง: 40 บาท/ตร.ม./เดือน
ราคาเริ่มต้น: 2.49 ล้านบาท หรือ 81,600 บาท/ตร.ม. (ข้อมูล ณ วันที่ 25 สิงหาคม 2558)
ราคาเฉลี่ย: 89,000 บาท/ตร.ม.
รูปแบบห้อง:
1 ห้องนอน 30.5-66.5 ตร.ม.
2 ห้องนอน 51.5-61 ตร.ม.
ทุกยูนิตตกแต่งแบบ Fully Furnished
รายละเอียดโครงการ
รีวิวภาพรวมโครงการ
โครงการ “ยู ดีไลท์ รัชวิภา” เป็นคอนโดมิเนียมไฮไรส์ในสไตล์โมเดิร์น จุดเด่นของโครงการอยู่ที่คอนเซ็ปต์ของการออกแบบเป็นคอนโดฯ กลางสวนป่าโดยอาศัยแนวคิดนิเวศวิทยาชุมชนเมือง (Urban Ecology) สร้างสภาพแวดล้อมรอบโครงการด้วยพื้นที่สีเขียวและต้นไม้ใหญ่กว่า 2 ไร่ โดยเน้นต้นไม้พันธุ์พื้นถิ่นที่เหมาะกับสภาพภูมิประเทศที่เป็นที่ตั้งของโครงการเพื่อเอื้อง่ายต่อการดูแลรักษาและเอื้อต่อสิ่งมีชีวิตโดยเฉพาะสัตว์พื้นถิ่นตัวเล็กตัวน้อย
รูปแบบห้อง:
1 ห้องนอน 30.5-66.5 ตร.ม.
2 ห้องนอน 51.5-61 ตร.ม.
มาสเตอร์แปลนของโครงการ ด้านหน้าของโครงการเป็นสวนป่าขนาดใหญ่และแปลงผักสวนครัวปลอดสารปลอดสารพิษซึ่งในอนาคตลูกบ้านสามารถปลูกผักสวนครัวและเก็บเกี่ยวผลผลิตสำหรับใช้ในครัวเรือนได้ขณะที่ด้านข้างติดกับตัวอาคารก็ออกแบบเป็นที่จอดจักรยานพร้อมเลนจักรยานและลู่จ็อกกิ้งยาว 250 เมตร
ตัวโครงการตั้งหันหน้าไปทางทิศตะวันตก ด้านหน้าโครงการเป็นวิวถนนวิภาวดี โทลล์เวย์และถนนประชาชื่น ด้านขวามือของโครงการเป็นโชว์รูมรถยนต์สยามนิสสัน ซึ่งลึกเข้าไปจะเป็นศูนย์บริการซ่อมรถยนต์ อาคารเป็นรูปแบบตึกเตี้ย ดังนั้นตัวโครงการฝั่งทิศเหนือชั้นจะติดบล็อควิวถึงประมาณชั้น 4 ส่วนด้านหลังมีอพาร์ทเมนต์ 7 ชั้น ซึ่งจะบล็อควิวของยูนิตที่อยู่บริเวณชั้น 6-8 อยู่บ้าง (ตัวอาคารฝั่งนี้จะรับแดดบ่ายเล็กน้อยและราคาฝั่งนี้จะต่ำกว่าฝั่งแดดเช้าประมาณ 1 แสนบาทต่อยูนิต) ขณะที่ทิศใต้ติดกับสำนักงาน 6 ชั้น เฉพาะด้านหน้า ตัวอาคารที่ออกแบบให้อยู่ลึกเข้าไปด้านในก็จะไม่ติดบล็อกวิวจากอาคารสำนักงาน (ด้านนี้เป็นด้านรับแดดเช้า) ขณะที่ทิศตะวันออกซึ่งอยู่ด้านหลังโครงการไม่ติดบล็อคเรื่องวิวเลย
ขณะที่ Facility ส่วนใหญ่จะอยู่บนชั้น 6 ประกอบด้วยสระว่ายน้ำกลางแจ้งระบบเกลือ (กว้าง 6 เมตร ยาว 25 เมตร ลึก 1.2 เมตร) ติดกับสระว่ายน้ำจะเป็นพื้นที่พักผ่อนและมุมอ่านหนังสือใกล้ๆ กันจะมีน้ำตกเล่นระดับเพื่อเพิ่มความผ่อนคลายให้ผู้อยู่อาศัยด้วย ขณะที่ฟิตเนสออกแบบให้โปร่งและสามารถเห็นวิวสวนและต้นไม้ใหญ่ภายในโครงการได้
Floor Plan ชั้น 7-23 ความหนาแน่นต่อชั้นค่อนข้างสูง เฉลี่ยประมาณ 45 ยูนิต/ชั้น มีลิฟต์โดยสาร 4 ตัวและเซอร์วิสลิฟต์อีก 1 ตัว
รีวิวห้องตัวอย่าง
ห้องของโครงการเป็นแบบตกแต่งพร้อมเฟอร์นิเจอร์บิลท์อินและลอยตัวซึ่งโครงการออกแบบเฉพาะและให้ Chic Republic เป็นผู้ผลิต เฟอร์นิเจอร์ที่ได้หลักๆ ก็จะเหมือนตามแบบในห้องตัวอย่าง ประตูทางเข้าขนาดกว้าง 90 ซม.และสูง 2.4 เมตร พร้อมตาแมวและมือจับแบบก้านโยก ตัวโครงการทำห้องตัวอย่างให้ดู 2 แบบ ได้แก่
1) ห้องแบบ 1 ห้องนอน 30.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท
ยูนิตขนาด 1 ห้องนอน 30.5 ตารางเมตรเป็นห้อง Type หลักขอบงโครงการ ห้อง Type นี้ถ้าอยู่บริเวณชั้น 6 ติดกับโซน Facility ก็จะมีระเบียงสวนเพิ่มอีก 10 ตารางเมตร โดยระเบียงดังกล่าวมีทางออกสู่ส่วนที่เป็น Facility ได้ทันทีโดยไม่ต้องอ้อมไปออกทางประตูหน้า ห้องสวนจะมีประมาณ 14 ยูนิต ซึ่งปัจจุบันปิดการขายเรียบร้อยแล้ว
รูปแบบของห้องเมื่อเปิดประตูเข้ามาจะพบกับโซนนั่งเล่น ขณะที่ห้องนอนกั้นผนังเป็นสัดส่วน ส่วนครัวเป็นแบบปิดกั้นด้วยบานเลื่อนอลูมิเนียมกระจกฝ้าแบบ 3 ตอน
โครงการจัดวางโซนนั่งเล่นกับโต๊ะทานอาหารไว้ด้วยกัน เฟอร์นิเจอร์ที่รวมอยู่ในแพ็คเกจที่โครงการแถมมาให้มีทั้งโซฟา สตูล โต๊ะกินข้าว เก้าอี้รวมถึงม้านั่งพร้อมที่เก็บของบริเวณโซนรับประทานอาหารด้วย
บิลท์อินชั้นวางรองเท้าและชั้นวางของอยู่ติดกับประตูทางเข้าห้องและบิลท์อินชั้นวางทีวีองโซนนั่งเล่น ลูกบ้านจะได้สเปคตามที่เห็นในห้องตัวอย่าง
ห้องน้ำตั้งอยู่บริเวณโซนนั่งเล่น พื้นห้องน้ำปูกระเบื้องกันลื่น ผนังปิดด้วยกระเบื้องเซรามิค แยกโซนเปียกแห้งด้วยบานเลื่อนกระจกใส อ่างล่างหน้าอะคริลิกแบรนด์ CHARMER มาพร้อมกับกระจกบานใหญ่ โถสุขภัณฑ์แบรนด์ American Standard ก็อกน้ำและราวสแตนเลสจาก VRH
ห้องนอนกั้นบานเลื่อนสไลด์ในภาพคือห้องนอนสำหรับยูนิตแบบสวนที่มีระเบียงพักผ่อนแต่สำหรับยูนิตทั่วไปจะกรุเป็นกระจกเข้ามุมบานใหญ่แทน ตัวกระจกเข้ามุมจะทำให้ห้องดูโปร่งและกว้างมากยิ่งขึ้น
บิลท์อินตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งจะได้สเปคตามภสาพ ส่วนเตียงเป็นแบบ 5 ฟุต มีลิ้นชักเก็บของด้านข้างเตียง หัวเตียงซ่อนไปสปคตามห้องตัวอย่าง
บิลท์อินชั้นวางทีวีตำแหน่งอยู่บริเวณปลายเตียง ด้านข้างติดตั้งราวไม้สำหรับแขวนหมวกหรือผ้าพันคอไว้ให้ด้วย
2) ห้องแบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 51.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 4.8 ล้านบาท
โซนแรกเมื่อเปิดประตูเข้ามาเจอจะเป็นโซนนั่งเล่น เฟอร์นิเจอร์ที่โครงการให้ก็ตามสเปคที่เห็น มีบิลท์อินชั้นวางรองเท้าและชั้นวางของตรงผนังด้านข้างของประตูทางเข้าด้วย
ส่วนมุมรับประทานอาหารอยู่ด้านในสุด ด้านหลังกรุกระจกเข้ามุมบานใหญ่ เฟอร์นิเจอร์ได้ตามเซ็ตอย่างที่เห็น
ห้องนอนเล็กบิลท์อินเตียง 3.5 ฟุต าพร้อมกับโต๊ะข้างเตียง กรุบานกระทุ้งบ้านใหญ่สำหรับระบายอากาศและให้แสงธรรมชาติเข้า
ตัวห้องน้ำกั้นกระจกผ้าแบ่งส่วนของห้องน้ำและห้องอาบน้ำออกจากกันเพื่อความสะดวกในการใช้ห้องน้ำในเวลาเร่งด่วน
สิ่งที่จะได้รับจากโครางการ
พื้น: ไม้ลามิเนตหนา 8 มม.
ผนัง: อิฐมอญฉาบเรียบทาสีขาว
เพดาน: สูง 2.6 เมตร
ประตูทางเข้า: ประตูกว้าง 90 ซม. สูง 2.4 เมตร พร้อมตาแมวและมือจับแบบก้าน
หลอดไฟ: หลอด LED
เครื่องปรับอากาศ:
ห้องแบบ 1 ห้องนอนเครื่องปรับอากาศ DAIKIN ขนาด 9,000 BTU 2 เครื่อง
ห้องแบบ 2 ห้องนอนได้เครื่องปรับอากาศ DAIKIN ขนาด 9,000 BTU 2 เครื่องและ 12,000 BTU 1 เครื่อง
เฟอร์นิเจอร์: แพ็คเกจเฟอร์นิเจอร์แต่ละห้องจะมีความแตกต่างกัน
ชุดครัว: เคาน์เตอร์ครัวบิลท์อินท็อปลามิเนต ซิงค์ล้างจานพร้อมก็อกน้ำแบรนด์ Hafele พร้อมเตาไฟฟ้า
ห้องน้ำ: ปูพิ้นด้วยกระเบื้องเซรามิคกันลื่น ปูผนังด้วยกระเบื้องเซรามิค กั้นกระจกแบ่งโซนเปียก-แห้ง อ่างล้างหน้าอะคริลิคแบรนด์ CHARMER โถสุขภัณฑ์แบรนด์ American Standard ก็อกน้ำและราวแขวนผ้าสแตนเลสแบรนด์ VRH
ทําเล & การเดินทาง
วิเคราะห์ศักยภาพทำเลถนนวิภาวดี
ถนนวิภาวดีเป็นอีกหนึ่งถนนสายสำคัญของกรุงเทพฯ เพราะนอกจากจะเป็นถนนที่เชื่อมการเดินทางจากกรุงเทพฯ สู่จังหวัดในภาคเหนือและภาคอีสานแล้วยังเป็นถนนที่เชื่อมต่อการเดินทางจากตัวเมืองกรุงเทพฯ ออกสู่ย่านชานเมืองเพราะเป็นจุดเชื่อมต่อของถนนสายสำคัญทั้งถนนรัชดาภิเษก ถนนพหลโยธิน ถนนงามวงศ์วาน ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนรามอินทรา ฯลฯ และเป็นที่ตั้งของสนามบินนานาชาติดอนเมืองซึ่งเชื่อมต่อการเดินทางจากรุงเทพฯ สู่ต่างจังหวัดและต่างประเทศด้วยสายการบินต้นทุนต่ำ
ถนนวิภาวดียังเป็นถนนที่อยู่ในแนวของรถไฟฟ้าอนาคตด้วย ปัจจุบันตามแนวถนนวิภาวดีอยู่ระหว่างการก่อสร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) ซึ่งเมื่อสร้างเสร็จในปี 2561 รถไฟสายนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกและย่นระยะเวลาการเดินทางระหว่างกรุงเทพฯ-รังสิต ถนนวิภาวดีจึงเป็นถนนที่มีศักยภาพและเป็นศูนย์กลางการเดินทางของกรุงเทพฯ
วิเคราะห์ทำเลที่ตั้งโครงการ
โครงการตั้งอยู่ติดถนนวิภาวดีฝั่งขาเข้า ฝั่งตรงข้ามกับวัดเสมียนนารี แม้โครงการจะตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ที่มีรถวิ่งผ่านตลอดทั้งวันแต่โครงการมีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่และแม้จะอยู่ติดถนนใหญ่ ลูกบ้านก็คลายกังวลเรื่องเสียงรบกวนและความเป็นส่วนตัวได้ เพราะโครงการโดยออกแบบสวนขนาดใหญ่กว่า 2 ไร่ไว้บริเวณด้านหน้าของโครงการ
ที่ตั้งของโครงการถือว่าสะดวกต่อการเดินทางเนื่องจากอยู่ติดถนนวิภาวดีที่เป็นถนนใหญ่และอยู่ก่อนทางเลี้ยวเข้าถนนรัชดาภิเษกและถนนพหลโยธินได้ อีกทั้งถนนวิภาดียังเป็นถนนที่มีรถสาธารณะให้บริการ มีรถแท็กซี่วิ่งผ่านตลอดทั้งวัน ขณะเดียวกันก็มีรถเมล์หลายสายวิ่งผ่าน ตัวโครงการตั้งอยู่ห่างจากป้ายรถเมล์ประมาณ 200 เมตร
จุดที่ตั้งของโครงการยังอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าทั้ง BTS และ MRT ที่เปิดให้บริการแล้ว ดังนั้นผู้อยู่อาศัยสามารถต่อรถไฟฟ้าทั้งบนดินและใต้ดินเพื่อเข้าเมืองได้ค่อนข้างสะดวก ในอนาคตจะมีรถไฟชานเมืองสายสีแดง (ช่วงบางซื่อ-รังสิต) เปิดให้บริการด้วย โดยโครงการอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสถานีวัดเสมียนนารีซึ่งสามารถเดินจากตัวโครงการข้ามสะพานลอยเพื่อไปใช้บริการได้ นอกจากนี้โครงการยังอยู่ไม่ไกลจากสนามบินดอนเมืองด้วย
แต่พื้นที่รอบๆ โครงการในปัจจุบันไม่มีร้านอาหารในระยะที่เดินได้สะดวก แต่เมื่อโครงการสร้างเสร็จจะมีร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมงอย่างเซเว่นฯ เข้ามาเปิดให้บริการภายในโครงการ นอกจากนี้พื้นที่รอบโครงการรัศมีไม่เกิน 5 กิโลเมตรก็มีห้างสรรพสินค้า ไฮเปอร์มาร์เก็ตและคอมมูนิตี้มอลล์อีกหลายแห่งให้เลือกใช้บริการ
การเดินทาง
รถยนต์: หากมาจากสนามบินดอนเมืองให้ขับตรงมาเรื่อยๆ ผ่านมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผ่านโรงพยาบาลวิภาวดี ขับตรงมาเรื่อยๆ จะเห็นตัวโครงการตั้งอยู่ทางซ้ายมือติดกับโชว์รูมสยามนิสสัน
หากมาจากห้าแยกลาดพร้าวให้ขับตรงมาเรื่อยๆ ตามแนวถนนวิภาวดี ผ่านวัดเสมียนนารี ผ่านสถานีรถไฟบางเขน ขับตรงไปอีกเล็กน้อยแล้วจึงขึ้นสะพานกลับรถลงหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ขับตรงมาเรื่อยๆ จะเห็นโครงการอยู่ทางซ้ายมือ
รถเมล์: สายรถเมล์ที่วิ่งผ่าน เช่น 29, 69, 191, 134, 206, 510
หากนั่งรถเมล์มาจาก BTS หมอชิต ให้ลงป้ายวัดเสมียนนารีแล้วเดินข้ามสะพานลอย เมื่อลงสะพานลอยแล้วให้เดินผ่านโชว์รูมสยามนิสสันก็จะถึงโครงการทันที
หากนั่งรถเมล์มาจากฝั่งสนามบินดอนเมืองให้ลงป้ายที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับวัดเสมียนนารี ป้ายรถจะอยู่หน้าโชว์รูมสยามนิสสันพอดี เมื่อลงรถแล้วเดินต่อมาเล็กน้อยก็จะถึงตัวโครงการ
รถไฟฟ้า (อนาคต): โครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) เป็นโครงการที่ต่อขยายมาจากสถานีบางซื่อโดยวางเส้นทางตามทางรถไฟสายเหนือผ่านเขตจตุจักร บางเขน หลักสี่ ดอนเมืองและสิ้นสุดที่สถานีรังสิต จ.ปทุมธานี ระยะทางรวม 26.3 กิโลเมตร เบื้องต้นวางสถานีหลักไว้ 5 สถานี แต่มีแนวโน้มจะเพิ่มสถานีย่อยอีก 4 สถานี โดยหนึ่งในนั้นคือ สถานีวัดเสมียนนารีซึ่งเป็นสถานีที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับโครงการพอดี ดังนั้นเมื่อรถไฟฟ้าก่อสร้างแล้วเสร็จตามกำหนดในปี 2561 การเดินทางเข้ามายังโครงการจะสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
ภาพ via railway.co.th/
สถานที่แนว Lifestyle
ตลาดบองมาร์เช่
ดิ อเวนิว รัชโยธิน
Box Space Ratchayothin
เซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว
ยูเนียนมอลล์
โลตัส ลาดพร้าว
ตลาดนัดจตุจักร
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทน
โครงการยูดีไลท์ รัชวิภาเป็นอีกหนึ่งโครงการที่อยู่ใกล้แหล่งงานหลายแห่งไม่ว่าจะเป็น ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ (ตึก SCB Park Plaza) โรงพยาบาลวิภาวดี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สำนักงานเขตจตุจักร สนามบินดอนเมือง ฯลฯ ทั้งยังเดินทางสะดวกเพราะอยู่ติดถนนวิภาวดี ศักยภาพของตัวโครงการจึงสามารถดึงดูดผู้เช่าที่กลุ่มคนทำงานในพื้นที่ได้ค่อนข้างดี
หากประมาณการจากค่าเช่าห้องแบบ 1 ห้องนอน 30 ตารางเมตรของโครงการยูดีไลท์โครงการอื่นๆ จะเห็นว่าที่ผ่านมาค่าเช่าที่ได้รับจะไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท/เดือน ดังนั้นคาดว่าเมื่อโครงการยูดีไลท์ รัชวิภาก่อสร้างเสร็จก็จะสามารถปล่อยเช่าได้ในอัตราที่ใกล้เคียงกัน อย่างไรก็ตามราคาต่อยูนิตของโครงการนี้ค่อนข้างสูงคือ เริ่มต้นที่ 2.49 ล้านบาท หากคำนวณจากราคาซื้อที่ 2.49 ล้านบาทและปล่อยเช่าในราคา 10,000 บาทต่อเดือนจะได้อัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าขั้นต่ำ 4.8% แต่หากซื้อในราคาที่สูงกว่านี้แต่ปล่อยเช่าได้ 10,000 บาท อัตราผลตอบแทนที่ได้ก็ลดลง ดังนั้นใครที่คิดจะซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่าก็คงต้องคิดถึงความคุ้มค่าในเรื่องผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าให้ดีด้วย
เปรียบเทียบโครงการใกล้เคียง
หากเปรียบเทียบโครงการไฮไรส์บนถนนวิภาวดีด้วยกันโครงการยู ดีไลท์ รัชวิภาจะไม่มีคู่แข่งเลย แต่ในละแวกดังกล่าวก็มีโครงการไฮไรส์ที่เป็นคู่แข่งของโครงการยู ดีไลท์ รัชวิภาอยู่ 3 โครงการ คือ
1.โครงการ The Niche Mono Ratchavipha
คอนโดมิเนียมไฮไรส์ของ บมจ.เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ ออกแบบเป็นอาคารสูง 27 ชั้น 2 อาคาร 840 ยูนิต บนที่ดินขนาด 6 ไร่ ตั้งอยู่บนนถนนรัชดาภิเษก ใกล้กับแยกประชานุกูล ปัจจุบันโครงการอยู่ระหว่างก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จต้นปี 2559 โครงการมียูนิตเหลือขายประมาณ 20% เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน 30 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.3 ล้านบาท ขณะที่ห้องแบบ 2 ห้องนอน 60 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 4.7 ล้านบาท
2.โครงการ Vantage by Eastern Star
คอนโดมิเนียมไฮไรส์จาก บมจ.อีสเทิร์นสตาร์ ออกแบบเป็นอาคารสูง 32 ชั้น 1 อาคาร 322 ยูนิต บนที่ดินขนาด 3 ไร่ 92 ตารางวา ตั้งอยู่บนถนนรัชดาภิเษก ใกล้แยกรัชโยธิน โครงการก่อวร้างแล้วเสร็จมาตั้งแต่ปี 2556 ปัจจุบันมีห้องเหลือขายประมาน 10 ยูนิต เป็นยูนิตแบบสตูดิโอ 30 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.35 ล้านบาทต่อยูนิต และแบบ 1 ห้องนอน 47 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 3.57 ล้านบาทต่อยูนิต
3.โครงการ Premio Vetro Kaset-Nawamin
คอนโดมิเนียมไฮไรส์ของบริษัทพรีเมียม เพลส ตั้งอยู่บนถนนงามวงศ์วาน ใกล้กับแยกเกษตร ออกแบบเป็นอาคารสูง 16 ชั้น 1 อาคาร 289 ยูนิต ปัจจุบันโครงการก่อสร้างเสร็จเมื่อช่วงต้นปี 2558 ปัจจุบันโครงการมียูนิตเหลือ 2 ยูนิต เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน 38 ตารางเมตร ราคา 4.2 ล้านบาท
สรุป
โครงการ “ยูดีไลท์ รัชวิภา” เป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจสำหรับคนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยเพื่ออยู่เองเนื่องจากเป็นโครงการที่อยู่ในทำเลที่มีศักยภาพและเอื้อต่อการเดินทางทุกรูปแบบทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถโดยสารสาธารณะรวมถึงรถไฟฟ้าในอนาคตและสนามบิน อีกทั้งบริเวณโดยรอบโครงการในรัศมีไม่เกิน 5 กิโลเมตรยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกและสถานที่เชิงไลฟ์สไตล์ให้เลือกใช้บริการไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ไฮเปอร์มาร์เก็ต ฯลฯ
ขณะเดียวกันรูปแบบและคอนเซ็ปต์สวนป่าของโครงการก็น่าสนใจ โดยโครงการออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียวและต้นไม้ใหญ่รวมพื้นที่กว่า 2 ไร่ Facility ภายในโครงการก็ครบถ้วนไม่แพ้โครงการอื่นๆ ตัวห้องให้พื้นที่ค่อนข้างใหญ่เริ่มต้นที่ 30 ตารางเมตร เลย์เอาท์ของห้องชุดแต่ละยูนิตออกแบบได้เป็นสัดส่วนและคำนึงถึงฟังก์ชั่นการอยู่อาศัยจริง ขณะเดียวกันโครงการก็ให้เฟอร์นิเจอร์ทั้งแบบบิลท์อินและลอยตัว รายการเฟอร์นิเจอร์ที่ให้ถือว่าครบชุดและมากกว่าโครงการอื่นๆ ในขณะที่ราคาขายเฉลี่ยทั้งโครงการอยู่ที่ 89,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งหากเทียบกับสิ่งที่จะได้รับจากโครงการก็ถือว่าสินค้าที่ได้กับราคาถือว่าสมเหตุสมผล
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ