5 ขั้นตอนแต่งตัวธุรกิจยังไงให้กู้ผ่านฉลุย

12 เม.ย. 2562

เมื่อคุณต้องการเงินมาลงทุนสักก้อนหนึ่งเพื่อทำธุรกิจ ความคิดที่จะไปขอสินเชื่อกับธนาคารมักจะเกิดขึ้น เพราะถือว่าเป็นแหล่งให้สินเชื่อที่น่าเชื่อถือและมีระบบที่สุด

หลายคนน่าจะเคยผ่านประสบการณ์การขออนุมัติสินเชื่อจากธนาคารต่าง ๆ เพื่อนำเงินทุนที่ได้มาเติมเต็มความฝันของตนเอง แต่บางครั้งอาจมีทั้งสมหวังและผิดหวัง เพราะธนาคารก็ต้องพิจารณาสถานะทางการเงินของผู้ขอสินเชื่ออย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันการผิดนัดชำระหนี้จนเกิดหนี้เสียตามมาเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ธนาคารก็มีกฎเกณฑ์ในการให้สินเชื่อด้วยเช่นกัน โดยธนาคารจะพิจารณาจากองค์ประกอบหลายด้านก่อนการอนุมัติ ซึ่งถ้าหากรู้ล่วงหน้าก่อนที่จะไปขอสินเชื่อและดำเนินการในส่วนที่ยังไม่สมบูรณ์ให้ครบถ้วน การขอสินเชื่อก็มักจะผ่านการพิจารณาได้ง่าย เราลองมาเตรียมความพร้อมในการขอสินเชื่อให้ผ่านการอนุมัติกัน ซึ่งวันนี้ทาง K-Expert มี 5 ขั้นตอนแต่งตัวธุรกิจยังไงให้กู้ผ่านฉลุย มาฝากกัน

1. เตรียมเอกสารทางการเงินให้พร้อม

ในการขอสินเชื่อนั้น สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเอกสารทางการเงิน ซึ่งจะต้องเตรียมอะไรบ้างนั้น ขึ้นอยู่กับประเภทของสินเชื่อ เราสามารถโทรไปสอบถามจากเจ้าหน้าที่ของธนาคารก่อนได้ เพื่อที่เมื่อไปถึงธนาคารแล้ว เอกสารจะได้ไม่ขาดตกบกพร่องเป็นเหตุให้ต้องกลับไปบ้านเพื่อนำมายื่นอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้เสียเวลาและยืดเวลาในการอนุมัติออกไป เอกสารทางการเงินจะเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นประวัติทางการเงินที่ดีทั้งในแง่ของรายได้และความมั่นคง

โดยพิจารณาจากหลักฐานที่มาของรายได้ เอกสารแสดงการเดินบัญชี (Statement) เพื่อดูรายการเดินบัญชีว่าเคลื่อนไหวปกติหรือไม่และดูปริมาณเงินเข้าเงินออก มีเงินออมฝากไว้มากขึ้นอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอหรือไม่ โดยควรมีบัญชีเงินฝากกับทางธนาคารแห่งนั้น ๆ เพื่อให้สามารถตรวจสอบประวัติทางการเงินก่อนการขอสินเชื่ออย่างน้อย 6 เดือนถึง 1 ปีได้

2. เอกสารทางการค้าต้องเก็บไว้ให้ครบ

เอกสารที่แสดงถึงการประกอบธุรกิจ ทั้งนี้เพื่อเป็นการยืนยันความมีตัวตนในการประกอบธุรกิจและเพื่อแสดงถึงความน่าเชื่อถือของการทำธุรกิจ รวมถึงหลักฐานการรับจ่ายเงินจากธุรกรรมการค้าปกติ เช่น สำเนาใบทะเบียนพาณิชย์ / ทะเบียนการค้า หรือเอกสารอื่นที่แสดงว่าประกอบธุรกิจ เช่น สัญญาเช่าสถานประกอบการ บิลใบสั่งซื้อสินค้า แบบแสดงรายการภาษีเงินได้ ฯลฯ (ถ้ามี) เอกสารเหล่านี้มีความสำคัญมากสำหรับผู้ประกอบการ SME

3. รักษาเครดิตและประวัติการชำระหนี้ให้ดี

Businessman hands pulling red folder DEBT concept on brown walle

ต้องไม่ลืมว่า ก่อนที่ธนาคารทุกแห่งจะอนุมัติสินเชื่อให้กับใครก็ตามจะต้องตรวจสอบข้อมูลสินเชื่อของบุคคลนั้นๆ ผ่านบริษัท ข้อมูลเครดิต แห่งชาติ จำกัด หรือเครดิตบูโร ซึ่งจะมีรายงานประวัติการขอสินเชื่อและการชำระหนี้จากสถาบันการเงินต่าง ๆ ดังนั้น สำหรับผู้ที่เคยมีประวัติการขอสินเชื่อก็ควรแสดงให้ธนาคารเห็นว่า เรามีประวัติการชำระหนี้ที่ดีมาโดยตลอด ไม่เคยจ่ายช้า ค้างจ่าย หรือหลีกเลี่ยงการจ่าย เพราะจะแสดงถึงการมีวินัยทางการเงินสูง ดังนั้น ก็มีแนวโน้มที่จะชำระหนี้ให้แก่ธนาคารอย่างครบถ้วนและตรงเวลาได้

ซึ่งเราสามารถตรวจสอบเครดิตของตัวเองได้ง่าย ๆ ด้วยการยื่นขอตรวจสอบเครดิตบูโรผ่านทางช่องทางต่าง ๆ  การตรวจสอบเครดิตเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทุกธนาคารต้องใช้ในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ คนที่มีประวัติค้างชำระควรเคลียร์ให้เรียบร้อยก่อนที่จะไปขอสินเชื่อจะเป็นผลดีกว่า

4. ประเมินสัดส่วนรายได้ให้เหมาะสมกับวงเงินสินเชื่อ

ธนาคารจะดูความสามารถในการหาเงิน หมายถึงความสามารถที่เราจะสร้างรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะสร้างความเชื่อถือให้กับธนาคารว่าเราสามารถผ่อนชำระเงินกู้ได้ทุกงวด โดยทั่วไปธนาคารจะประเมินสถานะของผู้ขอสินเชื่อจากรายได้ ความมั่นคงของกิจการ ภาระหนี้สินเดิม และวงเงินที่ขอสินเชื่อ

ซึ่งหลักสำคัญคือต้องขอสินเชื่อให้เหมาะสมกับความต้องการซึ่งจะพิจารณาจากยอดขาย เครดิตเทอม ปริมาณสต๊อก และต้องสอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ ทั้งนี้เป็นปกติที่ผู้ขอสินเชื่อต้องเตรียมใจไว้ว่า ธนาคารมักจะไม่ได้อนุมัติวงเงินให้เต็ม 100%

ดังนั้น เราต้องวางแผนเตรียมออมเงินของเราเองไว้ด้วย แต่หากเรามีภาระหนี้สินเดิมมากอยู่แล้ว ธนาคารก็อาจจะปล่อยสินเชื่อให้ยากหน่อย ทางที่ดีก็ควรพยายามลดหนี้ที่มีอยู่ เพื่อเพิ่มความสามารถในการชำระหนี้ของเรานั่นเอง ดังนั้น ก่อนที่เราจะเข้าไปขอสินเชื่อกับทางธนาคารควรตรวจสอบความสามารถทางการเงินของเราให้ดีเสียก่อนด้วยการสร้างกระแสเงินสดเข้าสู่กิจการอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ผ่านการอนุมัติสินเชื่อได้ง่ายขึ้น

5. การหาผู้ค้ำประกันหรือหลักทรัพย์ค้ำประกัน

ในการอนุมัติสินเชื่อนั้น ธนาคารจำเป็นต้องขอหลักทรัพย์ค้ำประกัน หรือบุคคลค้ำประกันที่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งผู้ขอสินเชื่อต้องหาหลักทรัพย์ที่เหมาะสมกับวงเงินที่จะขอสินเชื่อ หากหลักทรัพย์นั้นยังไม่เพียงพอก็ต้องหามาเพิ่มเติม รวมถึงบุคคลค้ำประกันหรือผู้กู้ร่วมต้องมีความน่าเชื่อถือ จะช่วยให้ธนาคารดำเนินการอนุมัติผ่านให้ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

โดยปกติแล้วคนที่ตั้งใจจะไปขอสินเชื่อกับธนาคารก็มักจะมีความคาดหวังว่าวงเงินที่ขอไปของตนจะได้รับการอนุมัติ แต่หลังจากได้รับการอนุมัติสินเชื่อเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องไม่ลืมว่าเรามีภาระผูกพันกับธนาคารทันทีที่จะต้องผ่อนชำระหนี้สินตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด หากไม่เป็นไปตามที่ตกลงก็อาจจะทำให้เสียค่าปรับและคิดดอกเบี้ยในอัตราที่สูงขึ้นหรือถึงขั้นยึดหลักประกันก็เป็นไปได้

การเตรียมตัวขอสินเชื่อกับธนาคารไม่ใช่เรื่องยากเลยหากเรามีการเตรียมพร้อมเป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องของความมั่นคงของรายได้ ประวัติความเคลื่อนไหวทางการเงิน และการชำระหนี้ที่ดี ไม่เคยมีหนี้เสียมาก่อน ธนาคารก็จะพิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้เราได้ง่ายขึ้น เมื่อได้รับเงินกู้มาแล้วต้องอย่าลืมรักษาวินัยทางการเงิน เพื่อให้สามารถชำระหนี้ได้ครบถ้วน และยังช่วยให้มีโอกาสในการขอสินเชื่อได้ง่ายขึ้นในอนาคตอีกด้วย สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการขอสินเชื่อบ้านได้ด้วย

เพิ่มเติมความรู้ คู่มือซื้อ ขาย เช่าบ้าน-คอนโดฯ พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ และสามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย ธเนศ นวะบุศย์ K-Expert ฝ่ายพัฒนาการให้คำปรึกษาลูกค้า ธนาคารกสิกรไทย  หากมีข้อสงสัยหรือต้องการปรึกษาวางแผนเพิ่มเติม สามารถปรึกษากับ K-Expert ธนาคารกสิกรไทย ได้ที่ K-Expert@kasikornbank.com

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

ผลสำรวจชี้ 7 ประเด็น: ผู้มีรายได้น้อย วอนรัฐ-เอกชนช่วยมีบ้านหลังแรก

การมีบ้านสักหลัง อาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น

อ่านต่อ2 เม.ย. 2562

จับตาราคาประเมินที่ดินรอบใหม่ เพิ่มเฉลี่ย 10-20%

ล่าสุด ทางกรมธนารักษ์ได้เผยถึงราคาประเมินที่ดินรอบใหม่ ที่เตรียมจะปร

อ่านต่อ10 เม.ย. 2562