กู้นานสุดดีจริงหรือ?

หนึ่งในกลุ่มคำถามยอดฮิตในกลุ่มผู้ที่จะยื่นขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยก็คือ “ถ้าจะกู้ซื้อคอนโดฯ ควรจะกู้สักกี่ปี? กู้ 10 ปี, 20 ปี หรือ 30 ปีดี? กู้สั้นหรือกู้ยาวแบบไหนดีกว่ากัน?” ก็คิดง่ายๆ เลยครับว่าการเป็นหนี้หมายถึงมีภาระต้องจ่ายหนี้ที่คุณติดค้างจากคนที่คนไปกู้มา พร้อมกับค่าดอกเบี้ยจากการกู้ยืมตามที่ได้ตกลงกันให้กับเจ้านั่นเอง ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นเรื่องที่ทุกคนคงเข้าใจกันดี

ดังนั้นหากมีความสามารถที่จะชำระคืนเงินกู้ได้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น แต่ทางออกที่ดีที่สุดก็คือการเก็บเงิน และวางเงินดาวน์ให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ยอดเงินกู้น้อยที่สุด เพื่อให้คุณมีทางเลือกในการชำระเงินได้มากที่สุดนั่นเอง

มีผู้กู้อีกหลายรายที่ต้องการวงเงินกู้สูงที่สุดเพื่อให้พอกับอสังหาฯ ที่เราต้องการจะซื้อและค่าตกแต่ง แต่ความสามารถในการผ่อนชำระค่อนข้างต่ำ หรือสามารถชำระคืนได้น้อยนั่นเอง ทำให้การเลือกที่จะยืดระยะเวลาในการกู้ให้ได้นานที่สุด เพื่อให้ยอดในการผ่อนชำระหนี้ต่ำที่สุด นั่นคือขอผ่อนชำระยาวแบบ 30 ปีเต็ม ซึ่งสิ่งที่ต้องยอมรับนั่นคืออัตราดอกเบี้ยที่ตามมานั่นเอง

เหตุผลที่หลายคนเลือกระยะเวลาผ่อนชำระนาน ใช่ว่าจะมีกำลังผ่อนน้อยเสมอไป แต่หลังจากที่คำนวณภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ในแต่ละเดือนกับเงินออมที่ควรมีเก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉินแล้ว การที่กู้นานสุด ก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดี และปลอดภัยที่สุด ทั้งนี้ก็เพื่อจะได้ผ่อนเงินงวดให้น้อยที่สุดก่อน แล้วต่อมามีรายได้เพิ่มขึ้นสามารถชำระเงินงวดได้มากขึ้น หรือจะรีบโปะให้หมดก็สามารถทำได้

อย่างไรก็ดี การที่สถาบันการเงินจะอนุมัติให้ผู้กู้มีระยะผ่อนชำระหนี้ได้นานที่สุดนั้น ยังมีองค์ประกอบอื่นๆ ที่ต้องพิจารณาประกอบอีก อย่างในเรื่องอายุของผู้กู้ก็มีส่วนสำคัญ ตัวอย่างเช่น ธนาคารแห่งหนึ่งกำหนดว่า อายุของผู้กู้ เมื่อรวมกับระยะเวลากู้ต้องไม่เกิน 60 ปี ถ้าผู้กู้อายุ 40 ปี ก็เท่ากับสามารถกู้ได้สูงสุด 20 ปีเท่านั้น ไม่สามารถกู้ได้มากกว่านี้ แต่ในบางธนาคารก็จะให้รวมอายุของผู้กู้แล้วไม่เกิน 70 ปี นั่นก็จะเป็นไปตามข้อกำหนดของแต่ละธนาคาร

เพราะฉะนั้นหากคิดจะกู้ ไม่ว่าจะกู้สั้นหรือยาว ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ของผู้ที่กู้เป็นที่ตั้ง หากมีความสามารถในการจ่ายหนี้ได้ในระยะเวลาสั้นๆ คุณก็ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยให้กับแบงก์มาก แต่ต้องแลกกับการที่ต้องจ่ายเงินในแต่ละงวดต่อเดือนสูงขึ้น