กู้ไม่ผ่าน ขอคืนเงินจองได้ไหม เชื่อว่าเป็นคำถามที่หลาย ๆ คนสงสัย โดยเฉพาะผู้ที่กำลังจะจองซื้อบ้าน ทาวน์โฮม หรือคอนโด หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันกับการกู้ซื้อบ้านขึ้น และต้องขอเงินจองคืนจะทำอย่างไร บทความนี้มีคำตอบ
ก่อนอื่นเลยหากคุณจะจองซื้อบ้าน ทาวน์โฮม หรือคอนโด แล้วต้องการจะแน่ใจว่าหากกู้ไม่ผ่านแล้วจะได้เงินจองคืน อันดับแรกคุณจะต้องตรวจสอบรายละเอียดและเงื่อนไขก่อนจองให้ดี มิฉะนั้นอาจจะชวดเงินจองที่มีมูลค่าไม่ใช่น้อยเลย
"การจะขอเงินจองคืนสำหรับบุคคลที่กู้ไม่ผ่าน ถือเป็นสิทธิที่ผู้ซื้อที่จะได้รับเงินจองคืน"
หากไม่สามารถรับเงินจองคืนได้เมื่อกู้ไม่ผ่าน สามารถดำเนินการตามกฎหมายได้ เนื่องจากกฎหมายระบุไว้ว่าเงินจองเป็นหลักฐานที่ใช้แสดงว่ามีการทำสัญญาซื้อไว้จริง และเป็นหลักประกันว่าผู้ซื้อที่เป็นผู้วางเงินมัดจำจะปฏิบัติการชำระหนี้ต่อผู้รับจองตามข้อตกลงในสัญญาจองซื้อตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 377 ว่าด้วย
"ในกรณีกู้ไม่ผ่านไม่สามารถโทษเป็นความผิดของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดได้ และไม่ใช่ความผิดของลูกหนี้ จึงถือเป็นการหลุดพ้นจากการชำระหนี้ซื้อบ้านกับทางโครงการ และโครงการย่อมไม่มีสิทธิที่จะรับชำระหนี้ตอบแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 219 และมาตรา 372"
มาตรา 219 ถ้าการชำระหนี้กลายเป็นพ้นวิสัยเพราะพฤติการณ์อันใดอันหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นภายหลังที่ได้ก่อหนี้ และซึ่งลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดชอบนั้นไซร้ ท่านว่าลูกหนี้เป็นอันหลุดพ้นจากการชำระหนี้นั้น ถ้าภายหลังที่ได้ก่อหนี้ขึ้นแล้วนั้น ลูกหนี้กลายเป็นคนไม่สามารถจะชำระหนี้ได้ไซร้ ท่านให้ถือเสมือนว่าเป็นพฤติการณ์ที่ทำให้การชำระหนี้ตกเป็นอันพ้นวิสัยฉะนั้น
มาตรา 372 นอกจากกรณีที่กล่าวไว้ในสองมาตราก่อน ถ้าการชำระหนี้ตกเป็นพ้นวิสัย เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งอันจะโทษฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดก็ไม่ได้ไซร้ ท่านว่าลูกหนี้หามีสิทธิจะรับชำระหนี้ตอบแทนไม่ ถ้าการชำระหนี้ตกเป็นพ้นวิสัย เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งอันจะโทษเจ้าหนี้ได้ ลูกหนี้ก็หาเสียสิทธิที่จะรับชำระหนี้ตอบแทนไม่ แต่ว่าลูกหนี้ได้อะไรไว้เพราะการปลดหนี้ก็ดี หรือใช้คุณวุฒิความสามารถของตนเป็นประการอื่นเป็นเหตุให้ได้อะไรมา หรือแกล้งละเลยเสียไม่ขวนขวายเอาอะไรที่สามารถจะทำได้ก็ดี มากน้อยเท่าไร จะต้องเอามาหักกับจำนวนอันตนจะได้รับชำระหนี้ตอบแทน
วิธีเดียวกันนี้ท่านให้ใช้ตลอดถึงกรณีที่การชำระหนี้อันฝ่ายหนึ่งยังค้างชำระอยู่นั้นตกเป็นพ้นวิสัยเพราะพฤติการณ์อันใดอันหนึ่งซึ่งฝ่ายนั้นมิต้องรับผิดชอบ ในเวลาเมื่ออีกฝ่ายหนึ่งผิดนัดไม่รับชำระหนี้
กู้บ้านไม่ผ่านเพราะอะไร
ดู 4 เหตุผลที่อาจทำให้คุณกู้บ้านไม่ผ่าน
จากการอ้างอิงข้อกฎหมายตามมาตรา 219 และ 372 สามารถอธิบายออกมาให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นว่า ในกรณีที่กู้ไม่ผ่านหรือพ้นวิสัยหนี้ได้ ทางโครงการจะต้องคืนเงินจองทั้งหมดให้กับผู้ซื้อ ซึ่งหากโครงการไม่ทำการคืนจะต้องมีการระบุในสัญญาให้ชัดเจนว่าจะไม่การคืนเงินจองหากกู้ไม่ผ่าน
ทั้งนี้ หากไม่มีการระบุในสัญญาและมีปากมีเสียงกันเกิดขึ้น อันเป็นเหตุมาจากทางโครงการไม่คืนเงินจอง ผู้ซื้อที่ทำการกู้ไม่ผ่านสามารถโต้แย้งสิทธิที่จะได้รับเงินจองคืนตามกฎหมาย และสามารถใช้สิทธิฟ้องคดีต่อศาลเรียกให้โครงการคืนเงินดังกล่าวได้ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 55
"เมื่อมีข้อโต้แย้งเกิดขึ้น เกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคลใดตามกฎหมายแพ่ง หรือบุคคลใดจะต้องใช้สิทธิทางศาล บุคคลนั้นชอบที่จะเสนอคดีของตนต่อศาลส่วนแพ่งที่มีเขตอำนาจได้ ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายแพ่งและประมวลกฎหมายนี้"
ดังนั้น จากข้อมูลและข้อกฎหมายต่าง ๆ ที่กล่าวมาสิ่งสำคัญในการทำการจองที่อยู่อาศัยไม่ว่าจะเป็นโครงการบ้านจัดสรร หรือคอนโดมิเนียม จำเป็นต้องตรวจสอบเงื่อนไขการจองในสัญญาให้ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม การเลือกซื้ออสังหาริมทรัยพ์สักแห่ง ถ้าไม่อยากเกิดปัญหาขึ้นมาในภายหลังผู้ซื้อก็จำเป็นต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการกู้ซื้อที่อยู่อาศัยด้วย และควรศึกษาหาข้อมูลก่อนซื้อว่าทำอย่างไรถึงจะกู้ซื้อบ้านได้ผ่านฉลุยและไม่มีปัญหา
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กิตติคม พจนี Content Writer ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kittikom@ddproperty.com
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ