“เลือกบ้านให้อยู่ในระดับที่ผ่อนไหว เพื่อป้องกันปัญหาผ่อนไม่ไหวที่อาจตามมา”
เมื่อเริ่มทำงานใหม่ๆ การได้เป็นเจ้าของคอนโดฯ สักห้องหนึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนใฝ่ฝัน และยิ่งคอนโดฯ นั้นเกิดจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง ยิ่งสร้างความภาคภูมิใจมากขึ้น แต่เมื่อเวลาผ่านไป หลายคนแต่งงานมีครอบครัว อาจจะคิดถึงการซื้อบ้าน หรือการซื้อห้องชุด เพราะเมื่อมีคนมาอยู่เพิ่ม คอนโดฯ ที่มีอยู่ก็ดูจะเล็ก คับแคบ หรือไม่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป แต่การขยับขยายที่อยู่อาจไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะภาระเดิมที่มีก็ยังผ่อนไม่หมด แล้วจะทำอย่างไรได้บ้าง K-Expert ธนาคารกสิกรไทย มีเทคนิคการขยับขยายครอบครัวมาฝาก
วิธีแรก: ขายคอนโดฯ ที่มีอยู่เดิม
เมื่อได้เงินจากการขายแล้ว ก็นำไปดาวน์บ้าน หรือห้องชุดที่ต้องการ การขายคอนโดฯ ช่วยให้เราไม่ต้องมีภาระผ่อนที่อยู่อาศัยถึงสองหลัง โดยผ่อนที่ใหม่เพียงที่เดียว แต่จะต้องเผื่อใจไว้ว่า อาจไม่สามารถปล่อยขายได้ง่ายๆ เพราะปัจจุบันมีคอนโดใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่หากคอนโดฯ ของเรานั้นตั้งอยู่ในทำเลสวยๆ ใกล้รถไฟฟ้า ก็อาจช่วยให้ขายง่ายขึ้น
เมื่อได้เงินจากการขายแล้ว ก็นำไปดาวน์บ้าน หรือห้องชุดที่ต้องการ การขายคอนโดฯ ช่วยให้เราไม่ต้องมีภาระผ่อนที่อยู่อาศัยถึงสองหลัง โดยผ่อนที่ใหม่เพียงที่เดียว แต่จะต้องเผื่อใจไว้ว่า อาจไม่สามารถปล่อยขายได้ง่ายๆ เพราะปัจจุบันมีคอนโดใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่หากคอนโดฯ ของเรานั้นตั้งอยู่ในทำเลสวยๆ ใกล้รถไฟฟ้า ก็อาจช่วยให้ขายง่ายขึ้น
วิธีที่สอง: ปล่อยเช่าคอนโดฯ เดิม
เพื่อนำเงินที่ได้จากการปล่อยเช่าไปผ่อนบ้านหลังใหม่ การปล่อยเช่าเท่ากับว่าเรามีคนช่วยจ่ายค่าเช่าให้ แต่รายได้ค่าเช่าจะต้องมากพอกับค่าผ่อนและค่าใช้จ่ายส่วนกลาง เพื่อลดภาระการผ่อนไป นอกจากนี้ เมื่อเปลี่ยนผู้เช่า อาจต้องมีการปรับปรุงห้องให้ดีขึ้น เพื่อหาผู้เช่ารายใหม่ เรียกได้ว่า แม้ภาระการผ่อนจะลดลง แต่ยังคงมีภาระที่ต้องดูแลคอนโดฯ เดิมต่อไป
เพื่อนำเงินที่ได้จากการปล่อยเช่าไปผ่อนบ้านหลังใหม่ การปล่อยเช่าเท่ากับว่าเรามีคนช่วยจ่ายค่าเช่าให้ แต่รายได้ค่าเช่าจะต้องมากพอกับค่าผ่อนและค่าใช้จ่ายส่วนกลาง เพื่อลดภาระการผ่อนไป นอกจากนี้ เมื่อเปลี่ยนผู้เช่า อาจต้องมีการปรับปรุงห้องให้ดีขึ้น เพื่อหาผู้เช่ารายใหม่ เรียกได้ว่า แม้ภาระการผ่อนจะลดลง แต่ยังคงมีภาระที่ต้องดูแลคอนโดฯ เดิมต่อไป
แต่ไม่ว่าจะขยับขยายครอบครัวใหม่ด้วยวิธีไหน สิ่งหนึ่งที่ต้องเตรียมตัวคือ “ภาระผ่อนที่มากขึ้น” แม้ว่าจะขายคอนโดฯ เก่าออกไปได้ แต่การซื้อบ้านใหม่หลังใหญ่ขึ้น ก็ทำให้มีจำนวนเงินผ่อนต่อเดือนที่สูงขึ้น เรียกว่าต้องมีรายได้สูงเพียงพอที่จะซื้อบ้านขนาดที่ต้องการได้ ยิ่งไปกว่านั้น หากเป็นการซื้อบ้านหลังใหม่เลย แล้วหาผู้มาเช่าคอนโดฯ เดิม อาจทำให้ขอกู้ซื้อบ้านหลังใหม่ได้ยาก เนื่องจากยังมีภาระผ่อนเดิมอยู่ นอกจากนี้ หากมีภาระผ่อนหนี้อื่นๆ อยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นผ่อนรถ หรือสินเชื่อบุคคลต่างๆ ก็จะทำให้ความสามารถในการก่อหนี้เพิ่มของเราลดลง เพราะโดยทั่วไปธนาคารจะให้มีภาระผ่อนหนี้ต่างๆ ไม่เกิน 40-60% ของรายได้
เมื่อกำลังหรือความสามารถในการชำระหนี้ของเรามีจำกัด การกู้ซื้อบ้านคนเดียวอาจเป็นไปได้ยาก ก็มีทางออกดังนี้
1. กู้ร่วม โดยทั่วไปจะกู้ร่วมกันได้ ต้องเป็นสามี/ภรรยา หรือญาติพี่น้องกัน ซึ่งการกู้ร่วมจะทำให้มีความสามารถในการขอวงเงินกู้มากขึ้น หรือมีความสามารถในการผ่อนมากขึ้น
2. ดาวน์มากขึ้น จะช่วยให้เหลือยอดกู้น้อยลง ทำให้มีความสามารถในการผ่อนต่อเดือนสูงขึ้น และทำให้เสียดอกเบี้ยจ่ายน้อยลง
ขอแนะนำเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่จะซื้อบ้านว่า หากอนาคตมีเงินก้อน ก็สามารถ “โปะบ้าน” เพื่อลดภาระดอกเบี้ย และทำให้เราเป็นเจ้าของบ้านที่ปลอดภาระหนี้ได้เร็วขึ้นด้วย
ก่อนการขยับขยายครอบครัว ต้องวางแผนให้ดี เพราะการซื้อบ้านไม่ใช่จะทำได้บ่อยๆ ยิ่งเป็นบ้านหลังใหญ่ก็ยิ่งมีมูลค่าสูง ภาระในการผ่อน และค่าใช้จ่ายในการดูแลบ้านก็จะสูงตามไปด้วย และที่แน่ๆ บ้านหลังใหม่หลังนี้จะต้องไม่ทำให้มีภาระหนักใจเพิ่มขึ้น
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย นิชฌานี ฉันทศาสตร์ CFP® K-Expert ฝ่ายวางแผนและให้คำปรึกษาลูกค้าบุคคล ธนาคารกสิกรไทย หากมีข้อสงสัยหรือต้องการปรึกษาวางแผนเพิ่มเติม สามารถปรึกษากับ K-Expert ธนาคารกสิกรไทย ได้ที่ K-Expert@kasikornbank.com