3 ขั้นตอนขอมิเตอร์ไฟฟ้า ไม่มีเลขที่บ้าน จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

DDproperty Editorial Team
3 ขั้นตอนขอมิเตอร์ไฟฟ้า ไม่มีเลขที่บ้าน จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
เมื่อบ้านสร้างแล้วเสร็จก็ได้เวลาของการเข้าไปอยู่อาศัยในบ้านหลังใหม่สักที แต่จะอยู่ได้อย่างไรถ้ายังไม่ติดตั้งไฟฟ้า ลองมาดูว่าขั้นตอนและวิธีการขอมิเตอร์ไฟฟ้า ไม่มีเลขที่บ้าน จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีอะไรบ้าง รวมถึงการขอย้ายเสาไฟฟ้า สายไฟฟ้า และมิเตอร์ไฟฟ้า พร้อมมาตรการคืนเงินประกันมิเตอร์ไฟฟ้าต้องทำอย่างไร หาคำตอบทั้งหมดได้ที่นี่
อ่านหัวข้อที่คุณสนใจ

คุณสมบัติของผู้ที่จะขอมิเตอร์ไฟฟ้า ไม่มีเลขที่บ้าน

ผู้ที่จะขอใช้ไฟฟ้ามีดังนี้
1. เจ้าของที่ดิน หรือเจ้าของสถานที่ใช้ไฟฟ้า
2. ผู้ขอใช้ไฟฟ้ามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านที่ใช้ไฟฟ้า
3. ผู้เช่า หรือผู้เช่าซื้อสถานที่ใช้ไฟฟ้า
4. ผู้ประกอบการในสถานที่ใช้ไฟฟ้า

เอกสารที่ผู้ขอมิเตอร์ไฟฟ้า ไม่มีเลขที่บ้าน ต้องนำมาแสดง

ผู้ขอใช้ไฟฟ้าเตรียมเอกสารดังนี้ เพื่อใช้ยื่นประกอบคำร้องขอใช้ไฟฟ้ากับการไฟฟ้า

หลักฐานการขอมิเตอร์ไฟฟ้า ไม่มีเลขที่บ้าน

1. สำเนาทะเบียนบ้านที่ขอติดตั้งการใช้ไฟฟ้า และสำเนาทะเบียนบ้านที่อยู่ปัจจุบัน
2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
3. สัญญาซื้อขาย (กรณีซื้อขายบ้าน), สัญญาเช่า (กรณีเช่าบ้าน)
4. หนังสือมอบอำนาจพร้อมติดอากรแสตมป์ 10 บาท (กรณีเจ้าของบ้านไม่มาดำเนินการ)
5. สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ
6. สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านผู้ให้เช่า
7. ใบยินยอมผ่านที่หรือใบยินยอมในกรณีต่างๆ (กรณีผ่านที่ดินผู้อื่น), สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านขอผู้ยินยอม
8. ใบเสร็จค่าไฟฟ้าข้างเคียงของเสาที่จะติดตั้งมิเตอร์ (ถ้ามี)

หลักฐานการขอมิเตอร์ไฟฟ้าชั่วคราว (สำหรับใช้ในการก่อสร้าง)

1. สำเนาทะเบียนบ้านที่ขอติดตั้งการใช้ไฟฟ้า
2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
3. สำเนาใบอนุญาตก่อสร้าง (ถ้ายังไม่ได้ให้ถ่ายใบคำขอมาแทน)
4. โฉนดที่ดินสถานที่ขอใช้ไฟฟ้า
5. สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ
หมายเหตุ การขอมิเตอร์ไฟฟ้าชั่วคราวต้องเตรียมสายไฟฟ้าและคัทเอ้าท์หรือเบรกเกอร์ตามขนาดมิเตอร์มาในวันชำระเงินด้วย
เซอร์กิตเบรกเกอร์ อุปกรณ์ตัดวงจรไฟฟ้าเมื่อไฟฟ้าลัดวงจร

ขั้นตอนการขอมิเตอร์ไฟฟ้า ไม่มีเลขที่บ้าน

1. หลังจากได้รับคำร้องขอใช้ไฟฟ้า พร้อมเอกสารประกอบครบถ้วนแล้ว เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าจะเข้าไปตรวจสอบการเดินสายไฟในอาคาร หากยังไม่เดินสายไฟฟ้าให้เดินสายให้เรียบร้อยแล้วแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ
2. เมื่อตรวจสอบการเดินสายไฟฟ้าแล้วพบว่ามีการเดินสายไฟที่ถูกต้อง เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ผู้ขอใช้ไฟฟ้าชำระค่าธรรมเนียมต่าง ๆ แต่ถ้าการเดินสายไฟไม่ถูกต้อง ไม่ปลอดภัยก็จะแจ้งให้ดำเนินการแก้ไข และตรวจสอบอีกครั้ง โดยค่าธรรมเนียมนั้นการไฟฟ้าจะกำหนดไว้ตามประเภทและขนาดของมิเตอร์ที่ขอติดตั้ง
3. ผู้ขอใช้ไฟฟ้าชำระค่าธรรมเนียมและรับใบเสร็จไว้เป็นหลักฐาน

การขอย้ายเสา สาย และอุปกรณ์ระบบจ่ายไฟฟ้า

การขอย้ายเสา สาย และอุปกรณ์ระบบจ่ายไฟฟ้า จากข้อมูลการไฟฟ้านครหลวง มีหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข ในการยื่นคำขอ และในการพิจารณาอนุญาต ดังนี้
1. ปฏิบัติถูกต้องตามข้อบังคับการไฟฟ้านครหลวงว่าด้วยการใช้ไฟฟ้าและบริการ พ.ศ. 2535 และ พ.ศ. 2553 และข้อบังคับการไฟฟ้านครหลวงว่าด้วยอัตราค่าบริการการใช้ไฟฟ้า พ.ศ. 2536
2. ไม่มีปัญหาแนวเขตทางและการทำงาน รื้อถอนหรือปักเสาพาดสาย
3. ไม่เป็นการย้ายสายใต้ดิน
4. เสา สาย และอุปกรณ์ ที่ย้ายมีระยะรวมกันต้องไม่เกิน 25 ต้น
5. ไม่มีอุปสรรคจากสาธารณูปโภคอื่นที่ติดตั้งหรือพาดบนเสาไฟฟ้า
6. ถ้าเป็นการย้ายเสา สาย และอุปกรณ์ไฟฟ้า ของระบบสายส่ง ต้องไม่เกิน 2 ต้น
7. ผู้ขอย้ายชำระค่าใช้จ่ายครบถ้วนถูกต้อง
8. การปักเสาและ/หรือพาดสายไฟฟ้าและ/หรือย้ายเสาสายไฟฟ้าในที่ดินของผู้ยื่นคำขอ บุคคลอื่นหรือในที่ดินสาธารณะ หรือมีการพาดสายไฟฟ้าภายในของผู้ยื่นคำขอในที่ดินของบุคคลอื่น
ผู้ยื่นคำขอจะต้องนำเอกสารที่เกี่ยวกับการปักเสาพาดสายไฟฟ้ามาให้ก่อนการดำเนินการ ตามแบบฟอร์มที่การไฟฟ้านครหลวงกำหนด เช่น หนังสือรับรองการย้ายและติดตั้งอุปกรณ์ระบบจ่ายไฟฟ้า สัญญาอนุญาตให้ติดตั้งอุปกรณ์ระบบจ่ายไฟฟ้า หนังสือรับรองการปักเสาพาดสายไฟฟ้าในที่ดินสาธารณะ หนังสือยินยอมให้สายไฟฟ้าภายในผ่านที่
9. การไฟฟ้านครหลวงจะดำเนินการย้ายเสา สายไฟฟ้า ได้แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนด เมื่อได้รับเอกสารครบถ้วนถูกต้อง และไม่นับระยะเวลาระหว่างการรอดำเนินการของผู้ขอใช้ไฟฟ้า

ระยะเวลาในการดำเนินการขอย้ายเสา สาย และอุปกรณ์ระบบจ่ายไฟฟ้า

ระยะเวลาในการดำเนินการขอย้ายเสา สาย และอุปกรณ์ระบบจ่ายไฟฟ้า ระยะเวลาในการดำเนินการรวม 57 วันทำการ แบ่งเป็น
1. การตรวจสอบเอกสาร รับเรื่องขอย้ายเสา สาย และอุปกรณ์ระบบจ่ายไฟฟ้า พร้อมรายละเอียดตรวจสอบเอกสาร ระยะเวลา 1 วันทำการ
2. การพิจารณา สำรวจสถานที่ ทำผัง ออกแบบ และประมาณราคา ระยะเวลา 18 วันทำการ
3. การพิจารณา รวบรวมค่าใช้จ่าย ออกหนังสือแจ้ง ระยะเวลา 5 วันทำการ
4. การพิจารณา รับชำระค่าใช้จ่าย ออกคำสั่งงาน ระยะเวลา 9 วันทำการ
5. ดำเนินการสายนอก ระยะเวลาทำการ 24 วันทำการ

เอกสาร และหลักฐานประกอบในการขอย้ายเสา สาย อุปกรณ์ระบบจ่ายไฟฟ้า

1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 1 ฉบับ
2. สำเนาหนังสือรับรองนิติบุคคล 1 ฉบับ
3. สำเนาหนังสือเดินทาง 1 ฉบับ (กรณีคนต่างด้าว)
4. สำเนาทะเบียนบ้านาที่มีชื่อผู้ขอย้ายเสา สาย และอุปกรณ์ระบบจ่ายไฟฟ้า 1 ฉบับ
5. สำเนาโฉนดที่ดินบริเวณที่ขอย้ายเสา สาย และอุปกรณ์ระบบจ่ายไฟฟ้า 1 ฉบับ
6. แผนผังสถานที่ที่ขอย้ายเสา สาย โดยสังเขป ฉบับจริง 1 ฉบับ
7. หนังสือรับรองการย้ายและติดตั้งอุปกรณ์ระบบจ่ายไฟฟ้า ฉบับจริง 2 ฉบับ (ตามแบบฟอร์มของการไฟฟ้านครหลวง)
8. หนังสือมอบอำนาจ กรณีที่มีการมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแทน ต้องมีสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ ฉบับจริง 1 ฉบับ
9. สัญญาอนุญาตให้ติดตั้งอุปกรณ์ระบบจ่ายไฟฟ้า (กรณีปักเสาพาดสายในที่ดินเอกชน) ฉบับจริง 2 ฉบับ (ตามแบบฟอร์มของการไฟฟ้านครหลวง)
10. หนังสือรับรองการปักเสาพาดสายไฟฟ้าในที่ดินสาธารณะ (กรณีปักเสาพาดสายในที่ดินสาธารณะ) ฉบับจริง 2 ฉบับ (ตามแบบฟอร์มของการไฟฟ้านครหลวง)
ทำเรื่องโอนมิเตอร์ไฟฟ้าได้ที่การไฟฟ้านครหลวง

สถานที่ติดต่อเพื่อขอมิเตอร์ไฟฟ้า ไม่มีเลขที่บ้าน หรือขอย้ายเสา สาย และอุปกรณ์ระบบจ่ายไฟฟ้า

ผู้ขอใช้ไฟฟ้าสามารถติดต่อและยื่นคำร้องได้ที่สำนักงานการไฟฟ้าทุกแห่ง
– การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) โทร. 1130 หรือติดต่อสอบถามได้จากเว็บไซต์การไฟฟ้านครหลวง
– การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โทร. 1129 หรือติดต่อสอบถามได้จากเว็บไซต์การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

มาตรการคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า

มาถึงขั้นตอนของการขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า ซึ่งมาจากมาตรการพิเศษของรัฐที่ต้องการช่วยเหลือประชาชน สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าที่เป็นบ้านพักอาศัย และกิจการขนาดเล็ก ลองมาทำความเข้าใจรายละเอียดของมาตรการนี้กันก่อนว่า เงินประกันมิเตอร์ไฟฟ้าคืออะไร มีขั้นตอนอย่างไร และใครจะเป็นผู้ได้เงิน

เงินประกันการใช้ไฟฟ้าคืออะไร

เงินประกันการใช้ไฟฟ้า หรือที่เรียกติดปากว่า เงินประกันมิเตอร์ไฟฟ้า คือค่าธรรมเนียมในการขอใช้ไฟฟ้า โดยเงินก้อนนี้จะเสียครั้งแรกเมื่อยื่นขอใช้ไฟฟ้า ซึ่งการไฟฟ้าจะเรียกเก็บเงินประกันการใช้ไฟฟ้า และจะคืนให้เมื่อมีการยกเลิกการใช้ไฟฟ้า

ทำไมต้องเก็บเงินประกันการใช้ไฟฟ้า

เหตุผลที่ต้องมีการเก็บเงินประกันการใช้ไฟฟ้า เนื่องจากเป็นค่าธรรมเนียมในการเรียกเก็บเงินล่วงหน้า เพื่อเป็นเงินประกันการใช้ไฟฟ้า ยกตัวอย่างเช่น หากบ้านของเราไม่ยอมจ่ายค่าไฟฟ้า ทางการไฟฟ้าจะยึดเงินประกันการใช้ไฟฟ้านั้นแทน (ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย จะได้รับดอกเบี้ยออมทรัพย์ทุก 5 ปี โดยคิดในอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ของธนาคารกรุงไทย)
ขนาดมิเตอร์ไฟฟ้า
ขนาดมิเตอร์

เงินประกันการใช้ไฟฟ้าต้องเสียเท่าไหร่

ขนาดมิเตอร์ (แอมป์)เงินประกันที่ได้คืน (บาท)
5(15)300
15(45)2,000
30(100)4,000
15(45) เฟส 36,000
อัตราค่าธรรมเนียมเงินประกันการใช้ไฟฟ้าจะเสียตามขนาดมิเตอร์ไฟฟ้า โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. มิเตอร์ขนาด 5(15) เงินประกันการใช้ไฟฟ้า 300 บาท (บ้านพักขนาดเล็ก ที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่มาก)
2. มิเตอร์ขนาด 15(45) เงินประกันการใช้ไฟฟ้า 2,000 บาท (เป็นขนาดมิเตอร์ที่ครัวเรือนส่วนใหญ่ใช้กัน)
3. มิเตอร์ขนาด 30(100) เงินประกันการใช้ไฟฟ้า 4,000 บาท (บ้านพักขนาดใหญ่ มีเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิด)
4. มิเตอร์ขนาด 15(45) เฟส 3 เงินประกันการใช้ไฟฟ้า 6,000 บาท (บ้านพักส่วนใหญ่ไม่ค่อยใช้)

ขั้นตอนการคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า

หลักการคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าคือ จะคืนเงินหลักประกันเต็มจำนวน พร้อมดอกผล (หรือไม่รับคืนก็ได้ ก็ยังคงได้ดอกผลต่อไป) โดยต่อไปจะไม่มีการเรียกเก็บหลักประกันกับผู้ใช้รายใหม่ (เฉพาะประเภทที่ 1 บ้านอยู่อาศัย และประเภทที่ 2 กิจการขนาดเล็ก)
ขั้นตอนการคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า

การไฟฟ้านครหลวง

สำหรับการคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง เจ้าของหลักประกันการใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 1 บ้านอยู่อาศัย และประเภทที่ 2 กิจการขนาดเล็ก สามารถขอรับเงินคืนประกันการใช้ไฟฟ้าที่วางไว้ตามขนาดเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าหรือตามจำนวนเงินที่วางไว้กับการไฟฟ้านครหลวง โดยลงทะเบียนตรวจสอบสิทธิและแจ้งความประสงค์การขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า ได้ดังนี้

1. ลงทะเบียนออนไลน์

สามารถลงทะเบียนออนไลน์ ได้ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2563 ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านทาง
– แอปพลิเคชัน: MEA Smart Life
– เว็ปไซต์: www.mea.or.th
– Twitter: @mea_news
– Line: @meathailand
– สแกน QR Code ในใบแจ้งค่าไฟฟ้า (ใบแจ้งค่าไฟฟ้าวันที่จดเลขอ่านตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป)

ขั้นตอนการลงทะเบียนออนไลน์

กรณีบุคคลธรรมดา
ขั้นตอนการขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า
1. เลือก "บุคคลธรรมดา"
2. กรอกข้อมูล "เลขบัตรประชาชน 13 หลัก"
3. ยินยอมให้ตรวจสอบข้อมูล กรอกข้อมูล "ช่องทางติดต่อ"
4. เลือก "ช่องทางรับเงิน"
5. ลงทะเบียนใช้สิทธิ์เรียบร้อย
กรณีบุคคลธรรมดาที่ไม่พบเลขบัตรประชาชนในระบบ
ขั้นตอนการขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า
1. เลือก "บุคคลธรรมดา"
2. กรอกข้อมูล "เลขบัตรประชาชน 13 หลัก"
3. ยอมรับเงื่อนไขการคืนเงินประกันและยินยอมให้ตรวจสอบข้อมูล กรอกข้อมูล "เลขบัญชีแสดงสัญญา 9 หลัก" โดยดูได้จากใบแจ้งค่าไฟฟ้า
ขั้นตอนการขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า
4. เลือก "รายชื่อผู้วางหลักประกัน" (จะคืนเงินหลักประกันให้กับผู้ที่มีชื่อเดียวกับผู้วางเงินหลักประกันเท่านั้น)
5. กรอกข้อมูล "ช่องทางการติดต่อ"
6. เลือก "ช่องทางรับเงิน"
7. ลงทะเบียนใช้สิทธิ์เรียบร้อย
กรณีบุคคลธรรมดาที่ไม่พบเลขบัตรประชาชนในระบบ และไม่ทราบเลขบัญชีแสดงสัญญา
ขั้นตอนการขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า
1. เลือก "บุคคลธรรมดา"
2. กรอกข้อมูล "เลขบัตรประชาชน 13 หลัก"
3. ยอมรับเงื่อนไขการคืนเงินประกันและยินยอมให้ตรวจสอบข้อมูล
ขั้นตอนการขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า
4. กรอกข้อมูล "ลงทะเบียนบุคคลธรรมดา"
5. กรอกข้อมูล "ช่องทางการติดต่อ"
6. เลือก "ช่องทางรับเงิน"
7. ลงทะเบียนใช้สิทธิ์เรียบร้อย
กรณีนิติบุคคล
ขั้นตอนการขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า
1. เลือกนิติบุคคล
2. กรอกข้อมูล "นิติบุคคล"
3. กรอกข้อมูล "ช่องทางการติดต่อ"
4. เลือก "ช่องทางการรับเงิน"
5. ลงทะเบียนใช้สิทธิ์เรียบร้อย
ขั้นตอนการตรวจสอบเรื่อง
ขั้นตอนการขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า
1. เลือก "ตรวจสอบเรื่อง"
2. ค้นหาข้อมูล
– กรอกข้อมูล เลขรับเรื่อง 10 หลัก
– กรอกข้อมูล รหัสประจำตัวประชาชน รหัสประจำตัวผู้เสียภาษี
3. ตรวจสอบข้อมูลที่ได้ลงทะเบียนไว้

2. ลงทะเบียนผ่านทางโทรศัพท์

ลงทะเบียนผ่านทางโทรศัพท์ โทร. 0-2256-3333 จำนวน 50 คู่สาย ได้ตั้งแต่เวลา 8.00-15.30 น. โดยเจ้าหน้าที่จะขอข้อมูลชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน และหมายเลข CA (หมายเลขผู้ใช้ไฟฟ้า-ดูได้จากบิลเรียกเก็บค่าใช้ไฟฟ้า)

3. ลงทะเบียน ณ ที่ทำการของการไฟฟ้านครหลวง 18 เขต

เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 เดือนพฤษภาคม 2563 (เพื่อเลี่ยงภาวะเสี่ยงจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาด)
แนะนำให้ใช้บริการเฉพาะเจ้าของหลักประกันการใช้ไฟฟ้าที่มีปัญหาสิทธิต่าง ๆ เช่น เปลี่ยนชื่อ-นามสกุล เสียชีวิต หรือเป็นการวางหลักประกันการใช้ไฟฟ้าประเภทอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เงินสด ฯลฯ สำหรับเจ้าของหลักประกันที่ไม่มีปัญหาด้านสิทธิแนะนำให้ลงทะเบียนผ่านช่องทางออนไลน์จะได้รับความสะดวกกว่า

กฟน. เปิดให้รับเงินคืนผ่าน 3 ช่องทาง

ผู้ลงทะเบียนช่องทางออนไลน์จะได้รับเงินประกันการใช้ไฟฟ้าคืนตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป โดยสามารถเลือกช่องทางการคืนเงินได้ 3 ช่องทาง ดังนี้
ช่องทางที่ 1 คืนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ (Prompt Pay) เฉพาะที่ผูกกับหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลักเท่านั้น
ช่องทางที่ 2 คืนเงินเข้าบัญชีธนาคารพาณิชย์ที่เข้าร่วมโครงการเบื้องต้นมี 3 ธนาคาร ได้แก่ กรุงไทย ไทยพาณิชย์ กสิกรไทย ทั้งนี้ ต้องเป็นบัญชีของเจ้าของหลักประกันเท่านั้น ไม่สามารถใช้บัญชีเงินฝากของผู้อื่นได้
ช่องทางที่ 3 เคาน์เตอร์เซอร์วิส รับเงินสดผ่านร้าน 7-Eleven โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม (เงินประกันการใช้ไฟฟ้าต้องไม่เกิน 50,000 บาท) โดยใช้บัตรประชาชนยืนยัน
ขั้นตอนการขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

ด้านการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เปิดให้ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถตรวจสอบสิทธิเพื่อขอรับเงินค่าประกันการใช้ไฟฟ้าตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป ได้หลายช่องทาง ดังนี้

1. สแกน QR Code

สแกน QR Code ในใบแจ้งค่าไฟฟ้าประจำเดือนมีนาคม เมื่อสแกนแล้วให้กรอกชื่อ-นามสกุล หมายเลขบัตรประชาชนของผู้วางหลักประกันการใช้ไฟฟ้า จากนั้นระบบจะตรวจสอบให้ว่าตรงกับฐานข้อมูลของ กฟภ. หรือไม่ พร้อมบอกวงเงินที่จะได้รับคืน หากข้อมูลตรงกันจะได้รับเงินคืนภายในเวลารวดเร็ว
กรณีผู้วางเงินประกันเป็นคนอื่น แต่ผู้ใช้ไฟฟ้าเป็นอีกคนหนึ่ง สามารถอ่านคำแนะนำในแอปพลิเคชันเพื่อดำเนินการต่อไป ซึ่งก็จะมีกระบวนการตรวจสอบสิทธิ์ในแต่ละราย

2. ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์

สามารถคลิกลงทะเบียนได้ที่ http:///dmsxupload.pea.co.th/cdp โดยต้องกรอกรายละเอียดชื่อ-นามสกุล ผู้วางหลักประกันการใช้ไฟฟ้า, หมายเลขบัตรประชาชน, หมายเลขผู้ใช้ไฟฟ้า 12 หลัก หากลงทะเบียนสำเร็จจะมี SMS ยืนยันผลการลงทะเบียนและแจ้งผลการคืนเงินให้ทราบ

ขั้นตอนการลงทะเบียนออนไลน์

ขั้นตอนการขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า
1. เตรียมข้อมูล ชื่อ-สกุล หมายเลขผู้ใช้ไฟฟ้า และหมายเลขบัตรประชาชน
ขั้นตอนการขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า
2. เข้าเว็บไซต์ http:///dmsxupload.pea.co.th/cdp หรือสแกน QR Code
ขั้นตอนการขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า
3. กรอกข้อมูล ชื่อ-นามสกุล หมายเลขผู้ใช้ไฟฟ้า หมายเลขบัตรประชาชน แล้วคลิก "ตรวจสอบข้อมูล"
ขั้นตอนการขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า
4. ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องแล้วคลิก "ดำเนินการต่อ"
ขั้นตอนการขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า
5. กรอกเบอร์โทรศัพท์ เลือกช่องทางการรับเงิน และคลิก "ดำเนินการต่อ"
ขั้นตอนการขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า
6. กรอกหมายเลขบัญชี หรือหมายเลขพร้อมเพย์ที่เลือกไว้ แล้วคลิก "ยืนยัน"
7. จากนั้นจะมีข้อความว่า "ระบบได้ทำการลงทะเบียนให้ท่านแล้ว" พร้อมขึ้นหมายเลขอ้างอิง
ขั้นตอนการขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า
8. รอรับ SMS ยืนยันผลการลงทะเบียนและแจ้งผลการคืนเงินให้ผู้ใช้ไฟฟ้าทราบ

3. ติดต่อที่ทำการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

เพื่อเลี่ยงภาวะเสี่ยงจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาด แนะนำให้ไปติดต่อที่ทำการ เฉพาะกรณีวางหลักประกันการใช้ไฟฟ้าประเภทอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เงินสด หรือผู้ขอคืนเงินหลักประกันการใช้ไฟฟ้าประเภทเงินสดที่ติดปัญหา เช่น การโอนสิทธิ์ เปลี่ยนชื่อ-นามสกุล เสียชีวิต ฯลฯ

กฟภ. รับเงินคืนผ่าน 4 ช่องทาง

ในการลงทะเบียนผ่านออนไลน์ สามารถเลือกรับเงินคืนผ่าน 4 ช่องทาง ดังนี้
1. คืนเงินผ่านพร้อมเพย์ ต้องเป็นบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับหมายเลขบัตรประชาชนของผู้วางหลักประกันเท่านั้น
2. คืนเงินผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
3. คืนเงินผ่านบัญชีธนาคาร
4. รับเงินสดที่สำนักงานการไฟฟ้า
โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะเริ่มจ่ายเงินค่าประกันการใช้ไฟฟ้าคืนตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป
เนื่องจากมีผู้ได้รับสิทธิคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก การไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจึงเปิดให้สามารถลงทะเบียนตรวจสอบสิทธิและแจ้งความประสงค์การขอคืนเงินประกันได้ไปจนกว่าจะคืนเงินประกันครบทุกราย โดยไม่มีกำหนดวันปิดลงทะเบียน
ขั้นตอนการขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า

ชื่อไม่ตรงกันทำอย่างไร

คำถามที่หลาย ๆ คนสงสัย ชื่อผู้วางเงินประกันการใช้ไฟฟ้า กับผู้ขอรับเงินคืนไม่ตรงกันต้องทำอย่างไร
1. กรณีขายบ้านไปแล้ว หากผู้ที่วางเงินประกันการใช้ไฟฟ้าขายบ้านหลังนั้นไปแล้ว ยังถือว่าเป็นเจ้าของสิทธิ์ที่จะได้รับเงินประกันการใช้ไฟฟ้า (ยกเว้นบางกรณีที่มีการโอนมิเตอร์ไฟฟ้าแล้ว-อาจต้องดูเป็นรายกรณี)
2. กรณีเสียชีวิต หากผู้วางเงินประกันการใช้ไฟฟ้าเสียชีวิต แบ่งได้เป็น 2 แบบคือ
– มีการตั้งผู้จัดการมรดก ผู้จัดการมรดกจะเป็นผู้ได้รับเงินประกันการใช้ไฟฟ้าไป โดยต้องนำคำสั่งศาลมายืนยัน
– ไม่มีการตั้งผู้จัดการมรดก ให้ทายาทมารับเงินประกันการใช้ไฟฟ้าแทนได้ ทั้งนี้ หากมีทายาทหลายคน ต้องนำหลักฐานทั้ง 5 คนมาแสดง พร้อมระบุว่าใครจะเป็นผู้ได้รับเงินประกันการใช้ไฟฟ้าไป

ไขข้อข้องใจมิเตอร์เสียต้องจ่ายเองไหม

จากประเด็นข่าวที่มีการเผยแพร่กรณีผู้ใช้ไฟฟ้าสอบถามเกี่ยวกับการคืนเงินค่าประกันการใช้ไฟฟ้าสิทธิ ประกันมิเตอร์จะถูกยกเลิกหรือไม่ และได้มีการส่งต่อข้อความดังกล่าวผ่านช่องทางออนไลน์นั้น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้ชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้
1. เงินที่ประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้ามาลงทะเบียนขอรับเงินคืนนั้นเป็นเงินค่าประกันการใช้ไฟฟ้าไม่เกี่ยวกับมิเตอร์
2. จากเดิม ประชาชน มาขอใช้ไฟฟ้า จะมีค่าใช้จ่าย 2 ส่วน คือ ค่าติดตั้งมิเตอร์ และค่าประกันการใช้ไฟฟ้าล่วงหน้าที่จะเรียกเก็บตามขนาดของมิเตอร์ เช่น มิเตอร์ขนาด 5 แอมป์ประเภทบ้านอยู่อาศัย จะมีการจ่ายค่าประกันการใช้ไฟฟ้าล่วงหน้า 300 บาท เพราะการที่จะเรียกเก็บเงินผู้ใช้ไฟฟ้าได้ต้องใช้ไฟให้ครบเดือนก่อน และเมื่อถึงกําหนดผู้ใช้ไฟฟ้าไม่จ่ายเงินค่าใช้ไฟฟ้าประจําเดือนก็จะหักเงินส่วนนี้ไป
3. กรณีที่ผู้ใช้ไฟฟ้าค้างชำระ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะมีกระบวนการและขั้นตอนการแจ้งเตือนเป็นระยะเวลา 28 วันเช่นเดิม หากไม่มีการชําระค่าใช้ไฟฟ้าประจําเดือนจึงจะเข้าสู่กระบวนการของการไฟฟ้า
4. แม้ว่าภายหลังที่คืนเงินค่าประกันการใช้ไฟฟ้าไปแล้วก็ตาม หากพบว่ามิเตอร์ไฟฟ้าของผู้ใช้ไฟฟ้านั้น ๆ มีปัญหา จากการใช้งานตามปกติ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะต้องไปดําเนินการแก้ไขหรือเปลี่ยนให้ใหม่เพราะมิเตอร์ไฟฟ้าเป็นทรัพย์สินของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
5. อย่างไรก็ตามขณะนี้มีประชาชนเข้าไปใช้งานเว็บไซต์ของ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อลงทะเบียนขอรับเงิน ค่าประกันการใช้ไฟฟ้าคืนเป็นจํานวนมากทําให้มีความหนาแน่นในการใช้งาน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ขอความร่วมมือให้ ประชาชนทยอยการเข้าไปลงทะเบียน โดยสามารถเข้าไปใช้งานได้โดยไม่มีกําหนดเวลาสิ้นสุดแต่อย่างใด
สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า

คำนวณยอดผ่อนต่อเดือนตามระยะเวลากู้

เพียงใส่ยอดเงินกู้ที่คุณต้องการ เราจะคำนวณให้คุณเห็นถึงยอดผ่อนชำระต่อเดือนตามระยะเวลาผ่อนและอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน

คำนวณยอดผ่อนต่อเดือน

คำนวณยอดผ่อนชำระต่อเดือนตามอัตราดอกเบี้ยของคุณด้วยเครื่องมือคำนวณสินเชื่อนี้

คำนวณวงเงินกู้สูงสุด

คำนวณสินเชื่อบ้าน ยอดวงเงินกู้บ้านใหม่ที่คาดว่าจะได้รับจากแบงก์และยอดผ่อนชำระในแต่ละเดือน