คนไทยยังเชื่อมั่นตลาดบ้าน คอนโด รอมาตรการหนุน

DDproperty Editorial Team
คนไทยยังเชื่อมั่นตลาดบ้าน คอนโด รอมาตรการหนุน
ตลาดที่อยู่อาศัยในช่วงที่ผ่านมา ต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงหลายด้านที่มากระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งล้วนแล้วแต่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเรื่องของการจับจ่ายใช้สอย โดยเฉพาะในการตัดสินใจซื้อบ้าน แม้จะมีความเชื่อมั่นขึ้นแล้วแต่ผู้บริโภคก็ยังคงอยู่ในสภาวะชะลอการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยจนกว่าสถานการณ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะสภาพเศรษฐกิจฟื้นตัว โควิด-19 คลี่คลาย และรอมาตรการภาครัฐที่เอื้อต่อการซื้อที่อยู่อาศัย

3 ปัจจัยหนุน ผู้บริโภคเชื่อมั่นต่อตลาดที่อยู่อาศัยในช่วงนี้

จากแบบสอบถาม DDproperty’s Thailand Consumer Sentiment Study รอบล่าสุด ซึ่งมีผู้เข้าร่วมจำนวน 936 คน ในประเด็นคำถามที่ว่า "ผู้บริโภครู้สึกอย่างไรต่อตลาดที่อยู่อาศัยในช่วงนี้" พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อตลาดที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 45 จุด จากการสำรวจในรอบก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 41 จุด
แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 ยังคงมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง และเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อ จากรายได้ลดลง ตกงาน หรือถูกเลิกจ้าง ผู้บริโภคส่วนหนึ่งยังคงชะลอการตัดสินใจซื้อออกไป ด้วยมองว่าอสังหาริมทรัพย์เป็นสินทรัพย์ที่มีราคาค่อนข้างสูง และมีภาระผูกพันนาน โดยเฉพาะที่อยู่อาศัย การเก็บเงินไว้โดยไม่ก่อหนี้เพิ่มน่าจะเป็นอะไรที่เหมาะสมกว่า
แต่จากแบบสอบถามฯ กลับชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคยังคงมองตลาดที่อยู่อาศัยเป็นบวก สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจาก 3 ปัจจัย ได้แก่
  1. ความพึงพอใจด้านที่อยู่อาศัยในปัจจุบันที่สูงขึ้น
  2. ความสามารถในการจ่ายได้
  3. แนวโน้มราคาที่อยู่อาศัยที่เป็นบวกมากขึ้น

ผู้บริโภคพึงพอใจราคาบ้าน-นโยบายเลื่อนชำระหนี้

ผู้บริโภคพึงพอใจราคาบ้าน-นโยบายเลื่อนชำระหนี้
เมื่อโฟกัสที่ความพึงพอใจต่อตลาดที่อยู่อาศัยของคนไทย พบว่า เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 53% จากรอบก่อนหน้าที่อยู่ที่ 43% โดยสาเหตุหลักที่ทำให้ความพึงพอใจของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น เป็นผลจาก
  • 35% ราคาบ้าน-คอนโด อยู่ในระดับที่คาดไว้ 35%
  • 32% นโยบายเลื่อนชำระหนี้ของสถานบันการเงิน ช่วยในการชำระคืนเงินกู้บ้าน
  • 27% มองเห็นผลตอบแทนระยะยาว จากการเพิ่มขึ้นของราคา 27%
ทั้งนี้ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ผู้พัฒนาโครงการทั้งรายใหญ่-รายเล็ก มีความกังวลต่อสถานการณ์ดังกล่าว ใช้กลยุทธ์ทางการตลาด ไม่ว่าจะเป็นการลดราคาขาย รวมถึงข้อเสนอพิเศษต่าง ๆ เพื่อเร่งระบายสต็อก และเร่งรัดการตัดสินใจซื้อ จึงทำให้ราคาบ้าน-คอนโดอยู่ในระดับที่ผู้บริโภคคาดหวัง และสามารถจ่ายได้
ประกอบกับมาตรการต่าง ๆ ของสถาบันการเงินที่ให้การช่วยเหลือ ในช่วงที่ผู้บริโภคต้องประสบปัญหาเศรษฐกิจ และได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นการพักชำระเงินต้น พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย เลื่อนงวดผ่อนชำระ รวมทั้งออกสินเชื่อเพื่อเอื้ออำนวยต่อการซื้อบ้าน-คอนโด
ขณะที่ผู้บริโภคจำนวนหนึ่ง มองเห็นโอกาสจากการราคาบ้าน-คอนโดที่ลดลง และนโยบายต่าง ๆ จากสถาบันการเงิน ทำให้ช่วงเวลานี้เป็นโอกาสทองของทั้งผู้ซื้อที่เป็นกลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง (Real Demand) และนักลงทุน ผู้บริโภคยังคาดหวังมาตรการรัฐเอื้อซื้อบ้าน-คอนโด
ในแง่ความไม่พึงพอใจต่อตลาดที่อยู่อาศัยของผู้บริโภค พบว่า
  • 33% มองว่ามาตรการรัฐยังไม่เอื้ออำนวยให้การซื้อบ้านง่ายขึ้น
  • 30% มองว่าราคาที่อยู่อาศัยยังไม่ลดลงตามที่ต้องการ
  • 28% อัตราดอกเบี้ยยังไม่เป็นไปตามที่คาด
จากตัวเลขจะเห็นได้ว่าแม้จะมีมาตรการออกมาช่วยเอื้อต่อการซื้อบ้านในช่วงโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ทั้งมาตรการลดค่าโอนกรรมสิทธิ์และจดจำนอง เหลือ 0.01% ครอบคลุมบ้านใหม่และบ้านมือสอง การผ่อนคลายมาตรการควบคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Loan to Value: LTV) เป็นการชั่วคราว ทำให้สามารถกู้บ้านได้ 100% รวมทั้งการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ต่อปี ซึ่งส่งผลดีต่ออัตราดอกเบี้ยที่ยังคงที่ของสถาบันการเงินให้เป็นไปตามกลไกของดอกเบี้ยนโยบาย
อย่างไรก็ดี ผู้บริโภคยังคงมีความความหวังว่าจะมีมาตรการรัฐอื่น ๆ ออกมาในช่วงระยะเวลาต่อจากนี้ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจ สถานการณ์โควิด-19 และหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ล้วนส่งผลต่อสภาพคล่องทางการเงิน ซึ่งส่งผลต่อการซื้อบ้านและผ่อนบ้านโดยตรง
นอกจากนี้ในส่วนของราคาที่อยู่อาศัย แม้จากแบบสอบถามฯ จะชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคส่วนหนึ่งมีความพึงพอใจ ราคาบ้าน-คอนโด อยู่ในระดับที่คาดไว้ที่ 35% แต่เนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคมีหลายเซ็กเมนต์ ความต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงแม้จะเป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการ แต่ก็ยังมีความคาดหวังทั้งมาตรการรัฐเพิ่มเติม ราคาขายที่ปรับลดลง รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่ช่วยเอื้อต่อการซื้อบ้าน-คอนโดได้มากขึ้น

ผู้บริโภคคาดราคาอสังหาฯ ในอนาคตยังคงเพิ่มขึ้น

ผู้บริโภคคาดราคาอสังหาฯ ในอนาคตยังคงเพิ่มขึ้น
ผู้บริโภคมีความคาดหวังว่าราคาที่อยู่อาศัยในช่วง 5 ปีข้างหน้า ยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยผลที่ได้รับจากแบบสอบถามฯ ระบุว่า ผู้บริโภค 69% มองว่าราคาที่อยู่อาศัยจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต เพิ่มขึ้นจากรอบที่ผ่านมาที่อยู่ที่ 60%
สะท้อนมุมมองของผู้บริโภคที่มีต่อหลาย ๆ ปัจจัยที่มีความเกี่ยวโยงกัน ทั้งการรับมือสถานการณ์โควิด-19 ที่ปัจจุบันมีแนวโน้มจะกลายเป็นโรคประจำถิ่นที่สามารถบริหารจัดการได้ในทุกมิติ ทั้งการเข้าถึงวัคซีนและการรักษาพยาบาล
ด้านสภาพเศรษฐกิจและการลงทุนเริ่มมีสัญญาณขยายตัว หลังจากการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจสามารถดำเนินไปได้ตามปกติ ความเชื่อมั่นและกำลังซื้อของผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศฟื้นตัวกลับมาเป็นบวก ความต้องการที่อยู่อาศัยยังคงมีต่อเนื่อง ล้วนส่งผลต่อการปรับขึ้นของราคาบ้าน-คอนโดที่สอดรับสถานการณ์ในช่วงเวลานั้น ๆ
ช่วงนี้จึงเป็นโอกาสของผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยที่มีความพร้อม เพราะยังอยู่ในช่วงที่ราคาที่อยู่อาศัยยังทรงตัว ก่อนที่ราคาที่อยู่อาศัยจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต
สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า

คำนวณยอดผ่อนต่อเดือน

คำนวณยอดผ่อนชำระต่อเดือนตามอัตราดอกเบี้ยของคุณด้วยเครื่องมือคำนวณสินเชื่อนี้

คำนวณวงเงินกู้สูงสุด

คำนวณสินเชื่อบ้าน ยอดวงเงินกู้บ้านใหม่ที่คาดว่าจะได้รับจากแบงก์และยอดผ่อนชำระในแต่ละเดือน

คำนวณสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน

เช็กยอดผ่อนชำระต่อเดือนอัตราใหม่และจำนวนเงินที่คุณสามารถประหยัดได้หลังจากการทำรีไฟแนนซ์