ในปีหน้า 2560 นี้ อปท. (องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น) จะเริ่มเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่รัฐบาลประกาศใช้ในปีนี้ ไม่เฉพาะที่อยู่อาศัยแนวราบเท่านั้นที่ต้องเสียภาษี แต่ยังรวมไปถึงคอนโดมิเนียม หรือห้องชุดอีกด้วย แล้วคอนโดของคุณเข้าข่ายต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างหรือไม่ และหากต้องเสียภาษีจะต้องเสียภาษีเท่าไร พบคำตอบ พร้อมวิธีการคำนวณภาษีที่นี่ครับ
คอนโดแบบไหนเข้าข่ายต้องเสียภาษี
ที่อยู่อาศัยประเภทต่างๆ ทั้ง บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ รวมไปถึงคอนโดมิเนียม มีเงื่อนไขในการพิจารณาเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไม่ต่างกัน คือการเป็นบ้านหลังแรก และมูลค่าของบ้าน
บ้านหลังแรกที่มีมูลค่าเกิน 50 ล้านบาทขึ้นไป
คอนโดที่เป็นบ้านหลังแรกจะได้รับสิทธิ์ยกเว้นภาษีในกรณีที่คอนโดนั้นมีมูลค่าต่ำกว่า 50 ล้านบาท แต่หากคอนโดมีมูลค่าเกินกว่า 50 ล้านบาทก็จะต้องเสียภาษีโดยคำนวณจากมูลค่าของทรัพย์สินเฉพาะส่วนที่จาก 50 ล้านบาทขึ้นไป ตามหลักการของอัตราภาษีก้าวหน้า ตามอัตราภาษีที่แสดงด้านล่างนี้ครับ
บ้านหลังที่ 2 เป็นต้นไป
หากมีบ้านมากกว่า 1 หลัง บ้านตั้งแต่หลังที่ 2 เป็นต้นไปจะต้องเสียภาษีโดยไม่มีการยกเว้นใดๆ ไม่ว่าบ้านนั้นจะเป็นคอนโดหรือที่อยู่แนวราบก็ตาม ส่วนจำนวนภาษีที่ต้องเสียนั้นก็จะใช้หลักการอัตราภาษีก้าวหน้า โดยคอนโดที่มีมูลค่ามากกว่าก็จะเสียภาษีในจำนวนที่มากกว่า ตามอัตราภาษีที่แสดงในตารางด้านล่างนี้
วิธีการคำนวณภาษี
การคำนวณภาษีของที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดนั้นมีวิธีการที่แตกต่างจากที่อยู่อาศัยแนวราบ เช่น บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ซึ่งที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดหรือห้องชุดนั้นจะคำนวณภาษีจากมูลค่าห้องชุด
การคำนวณภาษีของที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดนั้นมีวิธีการที่แตกต่างจากที่อยู่อาศัยแนวราบ เช่น บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ซึ่งที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดหรือห้องชุดนั้นจะคำนวณภาษีจากมูลค่าห้องชุด
การคำนวณภาษีคอนโด
ที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดหรือห้องชุดคำนวณภาษีได้ ดังนี้
ภาระภาษี = มูลค่าห้องชุด x อัตราภาษี
มูลค่าห้องชุด ทราบได้จากการนำราคาประเมินทุนทรัพย์ห้องชุด (บาท/ตารางเมตร) มาคูณด้วยขนาดพื้นที่ห้องชุด (ตารางเมตร)
ตัวอย่างการคำนวณภาษีคอนโด
คุณมีบ้านสองหลังบ้านหลังแรก มูลค่า 8 ล้านบาท บ้านหลังแรกจึงได้รับการยกเว้นภาษีทั้งหมด แต่บ้านหลังที่ 2 มูลค่า 15 ล้านบาทนั้นคุณจะต้องเสียภาษีตามอัตราภาษีก้าวหน้า โดยบ้านหลังที่ 2 นั้นเป็นคอนโดที่มีพื้นที่ 60 ตารางเมตร ซึ่งมีวิธีการคำนวณภาษีดังนี้
คุณมีบ้านสองหลังบ้านหลังแรก มูลค่า 8 ล้านบาท บ้านหลังแรกจึงได้รับการยกเว้นภาษีทั้งหมด แต่บ้านหลังที่ 2 มูลค่า 15 ล้านบาทนั้นคุณจะต้องเสียภาษีตามอัตราภาษีก้าวหน้า โดยบ้านหลังที่ 2 นั้นเป็นคอนโดที่มีพื้นที่ 60 ตารางเมตร ซึ่งมีวิธีการคำนวณภาษีดังนี้
ขั้นที่ 1 คำนวณหามูลค่าห้องชุด
ราคาประเมินทุนทรัพย์ห้องชุด กรมธนารักษ์ (สมมติ) เท่ากับ 66,000 บาทต่อตารางเมตร ดังนั้นคอนโดที่มีพื้นที่ 60 ตารางเมตร จะมีมูลค่าห้องชุด 66,000 x 60 = 3,960,000 บาท
ขั้นที่ 2 คำนวณภาษีตามอัตราภาษี
นำมูลค่าห้องชุดที่คำนวณได้ในขั้นตอนที่ 1 คูณด้วยอัตราภาษี ซึ่งจากอัตราภาษีที่เรียกเก็บจริงของคอนโดที่มีมูลค่ามากกว่า 0 ล้านบาทแต่ไม่เกิน 5 ล้านบาทอยู่ที่ 0.03% จึงคำนวณภาษีได้ดังนี้
นำมูลค่าห้องชุดที่คำนวณได้ในขั้นตอนที่ 1 คูณด้วยอัตราภาษี ซึ่งจากอัตราภาษีที่เรียกเก็บจริงของคอนโดที่มีมูลค่ามากกว่า 0 ล้านบาทแต่ไม่เกิน 5 ล้านบาทอยู่ที่ 0.03% จึงคำนวณภาษีได้ดังนี้
3,960,000 x 0.03% = 1,188 บาท
ดังนั้นต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างสำหรับคอนโดที่เป็นบ้านหลังที่ 2 จำนวน 1,188 บาท
การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้นจะทำให้เกิดความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษี และกระตุ้นให้เกิดการกระจายการถือครองที่ดิน อีกทั้งยังส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ในการตรวจสอบการดำเนินงานขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่นอีกด้วย
รายการอ้างอิง: 20 คำถาม ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง http://www.thaigov.go.th/index.php/th/news-ministry/2012-08-15-09-16-10/item/103915-20-คำถาม-ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
Picture Reference: www.tracysnewyorklife.com
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย เชษฐพล มานิตย์ Online Writer ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ chetapol@ddproperty.com
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ