คิดใหม่! เลือกบ้าน-คอนโดฯ ใกล้รถไฟฟ้าสะดวกจริงหรือ?

แน่นอนว่าหัวใจหลักของผู้ที่คิดจะซื้อคอนโดฯ สักห้องหรือบ้านสักหลัง มักเลือกปัจจัยของทำเลการเดินทาง ความสะดวกสบายเป็นหัวใจหลักสำคัญ เหตุนี้จึงทำให้ที่อยู่อาศัยติดหรือใกล้รถไฟฟ้า ได้รับความนิยมสูงควบคู่ไปกับความหรูหราทั้งการดีไซน์และราคาอันแพงลิบลิ่ว ทั้งนี้เพื่อแลกกับค่าเสียเวลาไม่ต้องเผชิญกับปัญหารถติดในชั่วโมงเร่งด่วน กลุ่มคนจำนวนมากยอมจ่าย โดยที่ไม่ได้คิดคำนึงหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น จนทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาดังนี้

1. แม้ที่ตั้งของบ้าน-คอนโดฯ จะอยู่ใกล้รถไฟฟ้า แต่ถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝัน รถไฟฟ้าเสียรายวันแบบไม่รู้มาก่อน แน่นอนว่าข้อดีในเรื่องความสะดวกสบายหายวับไปในพริบตา

2. บ้าน-คอนโดฯ ใกล้รถไฟฟ้า ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในโซนเมือง หรือพื้นที่รายล้อมไปด้วยแหล่งงาน แน่นอนว่ามักพบกับปัญหารถติดในชั่วโมงเร่งด่วน โชคร้ายหน่อยหากอยู่ในเขต CBD อย่างอโศก ชิดลม หรือเส้นรัชดาภิเษก เพชรบุรี อาจต้องเผชิญรถติดซ้ำซากตลอดวัน

3. อีกหนึ่งปัญหาสำคัญ ที่หลายคนอาจมองข้าม นั่นคือ มลพิษทางอากาศ อย่างที่เพิ่งเกิดกวิกฤตเมื่อช่วงปลายปี 60 กับภาวะฝุ่นละอองในกรุงเทพฯ เกินมาตรฐานที่กำหนด จนทำให้เป็นภัยต่อสุขภาพคนเมืองกรุงฯ

จากหลากหลายปัญหาคนเมืองกรุงฯ ที่ต้องเผชิญทั้งรถติด รถไฟฟ้าเสีย หรือแม้แต่ภาวะฝุ่นละออง จึงทำให้คนที่กำลังคิดจะซื้อบ้านหรือคอนโดฯ อาจต้องทบทวนใหม่กับการพิจารณาทำเลที่ตั้งของที่อยู่อาศัยของตนเองในอนาคต ว่ายังมีความจำเป็นอยู่ใกล้รถไฟฟ้าอยู่หรือไม่ ทั้งนี้เพื่อเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ แนะนำว่าควรพิจารณาระบบขนส่งมวลชน รวมถึงเส้นทางการจราจรรอบด้าน เพื่อเป็นแผนสำรองยามเกิดเหตุฉุกเฉินดังนี้

1. บริเวณที่ตั้งโครงการบ้าน-คอนโดฯ มีระบบขนส่งมวลชนอย่างอื่น นอกเหนือจากรถไฟฟ้า เช่น มีป้ายรถเมล์ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง หรือระบบขนส่งทางน้ำ อย่างเรือด่วน

2. แม้บ้านหรือคอนโดฯ บางคน ไม่ได้อยู่ในเมือง ไม่ใกล้จุดให้บริการรถไฟฟ้า แต่ถ้าอยู่ใกล้ทางด่วน มีทางลัดเลาะไปเส้นถนนสายต่างๆ ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งข้อดี ที่สามารถทำให้เดินทางไปกิจธุระต่างๆ ได้สะดวกขึ้น

3. อีกทางเลือกสำหรับคนคิดจะอยู่คอนโดฯ ในเมือง หากต้องอยากฝากชีวิตของการเดินทางไว้กับรถไฟฟ้า แนะนำให้มองหาอยู่ใกล้ทั้ง BTS, MRT หรือ ARL เพราะถ้าอันใดอันหนึ่งเกิดขัดข้อง ยังมีตัวเลือกอื่นให้ใช้บริการ