ปัจจุบันมีหลายคนตัดสินใจซื้อคอนโดมากขึ้น เพราะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตมากกว่า เช่น ใกล้รถไฟฟ้า ใกล้ที่ทำงาน หรือว่าราคาเอื้อมถึงได้ง่ายกว่า นอกจากนี้เมื่อเทียบกับการเช่าอยู่แล้ว การซื้อคอนโดยังได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ก็เหมือนจากการเปลี่ยนค่าเช่ามาเป็นค่าผ่อนคอนโดนั่นเอง แต่สิ่งหนึ่งที่คนส่วนใหญ่มองข้ามไปก็คือค่าใช้จ่ายในการอยู่อาศัยในคอนโดซึ่งแตกต่างไปจากการเช่าหอพัก หรือการอยู่อาศัยในบ้านเดี่ยว การอยู่คอนโดนั้นจะต้องเสียค่าใช้จ่ายหลายอย่าง ดังนี้
ค่าน้ำประปา
ค่าน้ำในคอนโดนั้นจะแตกต่างไปจากค่าน้ำของบ้านแนวราบ ได้แก่ บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ ซึ่งคิดในอัตราของการประปาโดยตรง หรือค่าน้ำของหอพักนั้นมักจะคิดค่าใช้จ่ายแบบเหมาจ่ายเป็นตัวเลขคงที่ แต่ค่าน้ำของคอนโดนั้นจะอ้างอิงตามราคาซึ่งกำหนดโดยนิติบุคคลของแต่ละโครงการ โดยนิติบุคคลจะประกาศให้ลูกบ้านได้ทราบว่าค่าน้ำยูนิตละกี่บาท
ค่าไฟ
เป็นค่าใช้จ่ายที่ผู้อยู่อาศัยในคอนโดต้องชำระตามปริมาณการใช้ไฟฟ้าจริง ซึ่งค่าไฟนี้เป็นค่าใช้จ่ายที่คิดในอัตราเดียวกับการไฟฟ้า จะเหมือนกับการอยู่อาศัยในบ้านเดี่ยวหรือทาวน์เฮ้าส์ แต่แตกต่างจากหอพักที่มีหน่วยและอัตราการคิดที่แตกต่างไป
ค่าอินเตอร์เน็ต
สำหรับบางโครงการนั้นไม่ใช่รวมค่าอินเตอร์เน็ตเข้าไปในค่าใช้จ่ายส่วนกลางที่เจ้าของคอนโดจะต้องเสียรายเดือน แต่เป็นค่าใช้จ่ายแยกต่างหาก ซึ่งเจ้าของบ้านจะต้องชำระเพิ่มเติม หากต้องการที่จะใช้งานอินเตอร์เน็ตด้วย ค่าใช้จ่ายนี้ขึ้นอยู่กับนิติบุคคลของโครงการเป็นผู้กำหนดเช่นกัน
ค่าเคเบิ้ลทีวี
หากเป็นบ้านเดี่ยวหรือทาวน์เฮ้าส์นั้น เจ้าของบ้านแต่ละหลังจะมีอิสระในการเลือกใช้บริการเคเบิ้ลทีวีหรือจานดาวเทียมได้ตามต้องการ แต่เมื่ออยู่อาศัยในคอนโดแล้วเจ้าของห้องไม่สามารถเลือกได้เนื่องจากนิติบุคคลจะไม่อนุญาตให้มีการเดินสายเคเบิ้ลผ่านส่วนกลาง หรือแม้แต่จะติดตั้งดาวเทียมเอาไว้ด้านนอกอาคารเพราะเหตุผลด้านความสวยงาม
ดังนั้น นิติบุคคลและโครงการจึงร่วมกันเลือกผู้ให้บริการดาวเทียมเข้ามาติดตั้งในโครงการ ทุกห้องจะต้องใช้ระบบเดียวกันไม่สามารถเลือกได้ ซึ่งจะเป็นค่าใช้จ่ายรายเดือนที่เพิ่มขึ้นมาสำหรับเจ้าของคอนโด ถ้าหากไม่ได้รวมเข้าไว้ในค่าส่วนกลาง
ที่กล่าวไปแล้วข้างต้นนั้นเป็นค่าใช้จ่ายที่ผู้อยู่อาศัยในคอนโดอาจพอที่จะคาดคิดเอาไว้แล้วล่วงหน้า โดยส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสาธารณูปโภค ซึ่งต้องจ่ายเป็นประจำรายเดือนอยู่แล้ว แต่ค่าใช้จ่ายต่อไปที่เราจะกล่าวถึงนี้เป็นค่าใช้จ่ายที่เจ้าของคอนโดมักมองข้ามไป และเป็นค่าใช้จ่ายที่มีจำนวนไม่น้อยเลย ได้แก่
ค่าส่วนกลาง
การอยู่อาศัยในคอนโดนั้นต้องพึ่งพาส่วนกลางของโครงการอย่างมาก ตั้งแต่ถนนทางเข้า ทางเดิน ลิฟต์โดยสาร ที่จอดรถ ระบบรักษาความปลอดภัย รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนสห้องสมุด ล็อบบี้ เป็นต้น
ทั้งหมดนี้มีค่าใช้จ่ายที่ลูกบ้านทุกคนจะต้องช่วยกันจ่ายเพื่อบำรุงรักษาทรัพย์สินส่วนรวมให้คงอยู่ พร้อมกับมีการบริการจากเจ้าหน้าที่ในโครงการ โดยค่าส่วนกลางนี้จะคิดในอัตราค่าใช้จ่ายต่อพื้นที่ของห้อง (บาท/ตารางเมตร) โดยทั่วไปแล้วจะเรียกเก็บเป็นรายเดือน แต่ในบางโครงการก็มีการเรียกเก็บเป็นรายปี เพื่อไม่ให้เกิดหนี้คงค้างจากการไม่ชำระของลูกบ้าน ซึ่งนโยบายนี้นิติบุคคลจะเป็นผู้กำหนด
ค่าประกันภัยส่วนกลาง
เป็นรายการค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นได้ แม้จะดูไม่คุ้นชื่อ ซึ่งโครงการสามารถเรียกเก็บเพิ่มเติมจากค่าใช้จ่ายส่วนกลางที่เจ้าของคอนโดจ่ายเป็นประจำอยู่แล้วก็ได้
ค่าใช้จ่ายยามฉุกเฉิน (Emergency Fund)
เป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉินต่าง ๆ ที่นิติบุคคลสามารถขอเรียกเก็บเพิ่มเติมได้ในรายกรณี เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมความเสียหาย เพื่อคืนสภาพการใช้งานของอาคารให้เหมือนเดิม ส่วนใหญ่เป็นความเสียหายโดยมีสาเหตุนอกเหนือการควบคุม เช่น ความเสียหายในอุปกรณ์ไฟฟ้าก็จะนำค่าใช้จ่ายยามฉุกเฉินนี้มาซ่อมแซมความเสียหาย เป็นต้น โดยจะเป็นค่าใช้จ่ายที่เกินมาจากเงินกองทุนส่วนกลาง (Sinking Fund) ที่สะสมไว้
แม้ว่าการอยู่อาศัยในคอนโดจะมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มากมาย แต่หากเจ้าของห้องชุดมีการเตรียมตัวเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายดังกล่าวแล้วก็ไม่จำเป็นต้องกลัว เพราะค่าใช้จ่ายที่เราเสียไปนั้นล้วนสำคัญต่อการใช้ชีวิตในคอนโดแทบทั้งสิ้น
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย เชษฐพล มานิตย์ นักเขียนออนไลน์ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kittikom@ddproperty.com
สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า