การเลือกบ้านหรือคอนโดมิเนียมที่ถูกใจสักแห่งไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนอกจากผู้ซื้อจะต้องเปรียบเทียบทั้งทำเลที่ตั้ง ขนาดที่ดิน พื้นที่ใช้สอย สภาพของบ้าน สิ่งแวดล้อม การเดินทาง แม้กระทั่งสไตล์การตกแต่งแล้ว สิ่งสำคัญที่จะบอกว่าผู้ซื้อสามารถซื้อบ้านหลังดังกล่าวได้จริงก็คือวงเงินกู้และยอดผ่อนชำระสินเชื่อบ้านต่องวด แต่เรื่องตัวเลขนั้นไม่ได้เป็นเรื่องที่ยากและน่าปวดหัวอย่างที่คิด เพราะ DDproperty มีเครื่องคำนวณสินเชื่อเอาไว้บริการในตอนท้ายของแต่ละประกาศ การใช้งานก็ไม่ยุ่งยากซึ่งเราอยากชวนคุณมาทำความรู้จักไปพร้อมๆ กัน
องค์ประกอบของเครื่องคำนวณสินเชื่อ
เริ่มกันที่หน้าตาของเครื่องคำนวณสินเชื่อซึ่งออกแบบมาให้เข้าใจง่าย ด้านซ้ายมือคือรายการตัวเลขซึ่งจะนำเข้าไปคำนวณออกมาเป็นจำนวนเงินที่จะต้องชำระต่องวด ซึ่งได้แก่ ราคา วงเงินกู้ ระยะเวลากู้ และอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่ด้านขวามือคือกราฟวงกลม ตรงกลางคือประมาณการจำนวนเงินที่ผู้ซื้อจะต้องชำระในแต่ละงวด และวงกลมส่วนสีเทาและสีแดงจะแสดงสัดส่วนว่าในจำนวนเงินที่ต้องชำระต่องวดนั้นแบ่งเป็นชำระเงินต้น (หักออกจากยอดหนี้) และชำระดอกเบี้ยมากน้อยเพียงใด แสดงเป็นตัวเลขด้านล่างกราฟวงกลม
จากกราฟอธิบายได้ว่า เมื่อซื้อบ้านราคา 4,300,000 บาท โดยการขอสินเชื่อจากธนาคารได้วงเงินกู้ 90% ของราคาขาย จะได้ยอดหนี้ตั้งต้นเท่ากับ 3,870,000 บาท เมื่อกำหนดระยะเวลากู้ 30 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 6% ตลอดสินเชื่อ ผู้กู้จะต้องผ่อนชำระสินเชื่อบ้านเป็นเงิน 23,203 บาทต่องวด โดยในจำนวนนี้จะแบ่งไปชำระดอกเบี้ย 19,350 บาท และชำระเงินต้น 3,853 บาท
วิธีการใช้เครื่องคำนวณสินเชื่อ
ขั้นตอนการใช้เครื่องคำนวณสินเชื่อนั้นจะเริ่มต้นจากการปรับตัวเลขในช่องข้อมูลด้านซ้ายมือให้เหมาะสมและตรงกับความต้องการของผู้ซื้อมากที่สุด
1. ราคา เป็นข้อมูลที่เครื่องคำนวณนำมาใช้เป็นรายการแรกซึ่งไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ เนื่องจากตัวเลขนี้ยกมาจากตัวเลขราคาที่ประกาศขายตอนต้นของรายการอสังหาฯ ดังตัวอย่างอสังหาฯ รายการนี้ประกาศขายที่ราคา 4,300,000 บาท
2. วงเงินกู้ เครื่องคำนวณจะนำตัวเลขราคานี้มาคำนวณวงเงินกู้โดยอัตโนมัติ ตามหลักการทั่วไปที่ธนาคารจะอนุมัติวงเงินกู้ที่ 90% ของราคาประเมิน 3,870,000 ก็คือ 90% ของ 4,300,000 ซึ่งหากสามารถต่อรองราคาลงไปได้ หรือทราบราคาประเมินของอสังหาฯ ผู้ใช้สามารถตั้งวงเงินกู้มากกว่า 90% หรือต้องการกู้น้อยกว่าที่โปรแกรมแทนค่าไว้ โดยช่องนี้ผู้ใช้สามารถกรอกตัวเลขใหม่ลงไปได้ด้วยตนเองตามความเหมาะสม เช่น ถ้าอยากลดจำนวนเงินผ่อนต่องวดให้น้อยลงก็สามารถปรับลดวงเงินกู้ได้ เป็นต้น โดยหากลงวงเงินกู้เหลือเพียง 70% ของราคาขายจะเท่ากับ 3,010,000 บาท พบว่ายอดผ่อนชำระต่องวดลงลงจาก 23,203 บาท เป็น 18,046 บาทต่องวด
3. ระยะเวลากู้ เครื่องคำนวณสินเชื่อจะคำนวณครั้งแรกจากระยะเวลากู้สูงสุดที่ 30 ปี ซึ่งผู้กู้สามารถปรับเปลี่ยนระยะเวลากู้ที่ต้องการตามความเป็นจริงได้ เช่น ต้องการกู้นานที่สุดเพียง 20 ปีเท่านั้น ซึ่งระยะเวลาที่สั้นลงจะทำให้ยอดผ่อนชำระต่องวดเพิ่มขึ้น เป็นต้น เมื่อทดลองปรับลดระยะเวลากู้ลงเหลือ 20 ปี พบว่าจำนวนเงินชำระต่องวดเพิ่มขึ้นจาก 23,203 บาท เป็น 27,726 บาท
4. อัตราดอกเบี้ย เครื่องคำนวณสินเชื่อจะใช้อัตราดอกเบี้ยตั้งต้นที่ 6% ต่อปีในการคำนวณหาจำนวนเงินผ่อนสินเชื่อต่องวด ซึ่งในความเป็นจริงแล้วอัตราดอกเบี้ยโดยเฉลี่ยตลอดอายุสินเชื่อในปัจจุบันจะสูงกว่า 6% คุณก็สามารถกำหนดอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นใกล้เคียงกับความเป็นจริงได้ เช่น ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเป็น 6.5% ต่อปี การปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้นจะทำให้ยอดผ่อนชำระต่องวดสูงขึ้น เป็นต้น เมื่อลองปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเป็น 6.5% ต่อปี พบว่าจำนวนเงินชำระต่องวดเพิ่มขึ้นเป็น 24,461 บาท
ถ้าหากคุณไม่แน่ใจว่าจะสามารถกู้ได้เท่าใดสามารถกดที่ปุ่มด้านล่างขวา “คำนวณการชำระเงิน” เพื่อคำนวณหาความสามารถในการกู้ของตัวเองได้ โดยจะไปที่หน้าต่างดังปรากฎด้านล่าง
ซึ่งคุณสามารถกรอกข้อมูลส่วนตัวได้แก่ รายได้ต่อปี และรายละเอียดของการกู้ได้แก่ระยะเวลา อัตราดอกเบี้ย สัดส่วนหนี้ต่อรายได้ รวมไปถึงภาระหนี้ที่มีอยู่ ณ ขณะนี้ เพื่อหาวงเงินกู้สูงสุดที่คุณจะสามารถกู้ได้
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย เชษฐพล มานิตย์ นักเขียนออนไลน์ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อโดยตรงได้ที่ kittikom@ddproperty.com
หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการซื้อบ้าน คู่มือซื้อขาย สามารถเป็นตัวช่วยตอบได้ทุกคำถาม ในขณะเดียวกันสำหรับคนที่สนใจจะซื้อหรือเช่า เรายังมี ทำเลที่น่าสนใจอีกมากมายใน AreaInsider และมีโครงการบ้าน-คอนโดฯ ให้คุณค้นหา รวมถึงแนะนำให้ อ่านรีวิวโครงการ ก่อนตัดสินใจซื้อ
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ