ในช่วงที่เชื้อไวรัสโควิด-19 (COVID-19) แพร่ระบาด ทำให้หลาย ๆ คนเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการทำความสะอาดบ้านมากขึ้น โดยเฉพาะการทำความสะอาดแบบบิ๊กคลีนนิ่ง (Big Cleaning) ซึ่งแบ่งเบาในการทำความสะอาดทั้งก่อนย้ายเข้าบ้านใหม่ หรือบ้านที่ห่วงว่าการทำความสะอาดด้วยตัวเองอาจไม่เพียงพอ
ลองมาดูว่าการทำความสะอาดบ้านด้วยตัวเองเพื่อกำจัดเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้นทำได้หรือไม่ และมีวิธีการอย่างไร เมื่อเปรียบเทียบกับการจ้างบริษัทรับทำความสะอาดหรือบิ๊กคลีนนิ่งแบบไหนอุ่นใจได้มากกว่ากันได้ที่นี่
ทำไมการทำความสะอาดบ้านจึงเป็นเรื่องสำคัญ
การหมั่นดูแลรักษาบ้านให้สะอาดอยู่เสมอนั้นมีข้อดีหลัก ๆ อยู่ 2 ประการ ดังนี้
1. ทำให้บ้านใหม่อยู่เสมอ การทำความสะอาดบ้านเป็นประจำทำให้บ้านดูใหม่อยู่เสมอ เพราะทุกครั้งที่เราปัด กวาด เช็ด ถูก ก็ทำให้คราบสกปรกไม่ติดฝังลึกกับส่วนต่าง ๆ ของบ้านมากจนเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านหรือคอนโดที่เลี้ยงสัตว์ยิ่งต้องใส่ใจในเรื่องความสะอาด เพื่อไม่ให้เกิดคราบสกปรก หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นได้
ทั้งนี้ การที่เราใส่ใจกับการทำความสะอาดและทำให้บ้านดูใหม่ก็เอื้อต่อการปล่อยเช่าบ้าน หรือขายต่อ เพราะบ้านหรือคอนโดที่สะอาดนั้นก็ดึงดูดใจ หรือสร้างความประทับใจแรกให้กับผู้ซื้อหรือผู้เช่าตั้งแต่แรกเห็นนั่นเอง
2. บ้านสะอาดเพื่อสุขอนามัยที่ดีของคนในบ้าน แน่นอนว่าการทำความสะอาดจะช่วยขจัดเชื้อโรคต่าง ๆ ออกไป ซึ่งเชื้อโรคดังกล่าวส่งผลต่อสุขภาพของคนในบ้าน หากไม่นับรวมเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็มีเชื้อโรคมากมายที่เราสามารถกำจัดออกไปจากบ้านได้เพียงแค่ใส่ใจกับการทำความสะอาด โดยเฉพาะ 9 จุดสำคัญที่สะสมเชื้อโรคในบ้าน
หมายเหตุ: โควิด-19 หรือไวรัสโคโรนา มีชื่อเรียกในทางการแพทย์ว่า SARS-CoV-2 เนื่องจากมีลักษณะทางพันธุกรรมใกล้เคียงกับซาร์ส แม้จะเป็นไวรัสที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้ต่ำ และถูกทำลายได้ด้วยแอลกอฮอล์ แต่ไวรัสชนิดนี้ก็สามารถอยู่บนพื้นผิววัสดุได้อย่างน้อย 2-3 วัน

ทำความสะอาดบ้านอย่างไรให้ห่างไกลโควิด-19
ก่อนจะลงลึกไปถึงวิธีการทำความสะอาดบ้านเพื่อกำจัดเชื่อไวรัสโควิด-19 ลองมารู้กันก่อนว่าไวรัสชนิดนี้ติดผ่านกันทางไหนบ้าง ซึ่งหลัก ๆ แล้ว จะผ่าน 2 ช่องทางคือ
โควิด-19 ติดต่อกันทางไหน
1. การสูดลมหายใจเอาละอองน้ำมูกหรือน้ำลาย ซึ่งเกิดจากผู้ป่วยไอหรือจามใส่เรา หรือพูดคุยกับผู้ป่วยใกล้ ๆ เป็นระยะเวลานาน
2. ทางการสัมผัส เกิดจากเราไปหยิบจับของหรือพื้นผิวที่ผู้ป่วยสัมผัสไว้ เช่น ราวบันได ลูกบิดประตู ปุ่มกดลิฟต์ หรือสิ่งของอื่น ๆ แล้วนำมาจับบริเวณใบหน้า ตา จมูก หรือปาก จึงมีคำแนะนำให้ทุกคนล้างมือบ่อย ๆ ด้วยเจลแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้นอย่างน้อย 70% หรือฟอกสบู่แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด
การทำความสะอาดด้วยตัวเอง
มาถึงขั้นตอนการทำความสะอาดที่ทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเองเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งแนะนำโดยคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มีด้วยกัน 4 วิธี ดังนี้
1. สิ่งของเครื่องใช้ที่สัมผัสบ่อย
สิ่งของเครื่องใช้ที่สัมผัสบ่อย ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเลต
วิธีทำความสะอาด ให้เช็ดด้วยแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้น 70-90% แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง
2. พื้นผิวที่สัมผัสบ่อย
พื้นผิวที่สัมผัสบ่อย ได้แก่ เตียง โต๊ะ เก้าอี้ ของใช้รอบตัว รวมไปถึงห้องน้ำ
วิธีทำความสะอาด ให้ใช้น้ำยาฟอกผ้าขาว (3-6% โซเดียมไฮโปคลอไรท์) ผสมกับน้ำยา 1 ส่วน ต่อน้ำ 49 ส่วน ยกตัวอย่าง ไฮเตอร์ 1 ฝาขวด (ประมาณ 10 ซีซี) ผสมน้ำครึ่งลิตร เช็ดหรือแช่ทิ้งไว้ 10 นาที จากนั้นเช็ดออกด้วยน้ำสะอาด*
3. พื้นผิวโลหะ
วิธีทำความสะอาด ให้เช็ดด้วยแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้น 70-90% แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง* ห้ามใช้น้ำยาฟอกผ้าขาว เพราะมีฤทธิ์กร่อนโลหะ
4. ผ้า
ผ้าในบ้านที่เราใช้กันบ่อย ๆ ได้แก่ เสื้อผ้า ผ้าปูเตียง หรือผ้าขนหนู
วิธีทำความสะอาด สามารถซักได้ตามปกติ (ใช้ผงซักฟอกธรรมดาและน้ำ) หรือซักด้วยน้ำร้อนที่อุณหภูมิ 60-90 องศาเซลเซียส
*หรือหากหาแอลกอฮอล์ไม่ได้ สามารถใช้เดทตอล-น้ำยาฆ่าเชื้อโรค (รุ่นที่มีมงกุฎ ตัวยาคลอโรไซลีนอล) ผสมน้ำยา 1 ฝาขวด กับน้ำ 2 แก้วน้ำดื่ม และเช็ดหรือแช่ทิ้งไว้ 10 นาที
ทำความสะอาดเองหรือจ้างบริษัทรับทำความสะอาด
แม้ว่าวิธีการต่าง ๆ ข้่างต้น มองเผิน ๆ เหมือนจะดูง่าย แต่ถ้าทำจริง ๆ คงจะเหนื่อยมิใช่น้อย ลองมาเปรียบเทียบเหตุผลการดีกว่าว่าควรจะทำเองหรือจ้างผู้เชี่ยวชาญอย่างบริษัทรับทำความสะอาด ดังนี้
1. เวลา
หากคุณมีเวลาว่าง หรือเป็นพ่อบ้าน หรือแม่บ้าน อยู่แล้ว ข้อจำกัดนี้คงไม่มี เพราะหากจะทำความสะอาดบ้านหรือคอนโดแบบให้ห่างไกลเชื้อไวรัสโควิด-19 แบบที่สามารถไว้วางใจได้นั้นต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก พูดง่าย ๆ คือ ถ้าคุณไม่ว่างมากพอก็ควรจ้างบริษัทรับทำความสะอาดจะดีกว่า
2. แรง
การทำความสะอาดบ้านหรือคอนโดโดยปกติก็ใช้แรงมากอยู่แล้ว แต่การทำความสะอาดใหญ่หรือบิ๊กคลีนนิ่งนั้นยิ่งต้องพิถีพิถันและใช้แรงงานมาก หากมีคนช่วย 2-3 คน ก็ทุ่นแรงไปได้ แต่หากเป็นแค่คุณพ่อบ้าน หรือคุณแม่บ้าน เพียงคนเดียว รับรองว่าเหนื่อยแน่นอน ก็ต้องชั่งใจเอาว่าจะยอมเหนื่อย หรือจ้างบริษัทรับทำความสะอาด
3. อุปกรณ์
การทำความสะอาดบ้านหรือคอนโดเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ควรจะมีชุดหรืออุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ทำความสะอาดติดเชื้อนั้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือน้ำยาบางชนิดยังระคายเคืองผิวหนังด้วย จึงต้องมีอุปกรณ์ อาทิ
– หมวกคลุมผม
– แว่นใสขนาดใหญ่ (แว่นกันลม)
– หน้ากากอนามัย
– ผ้าพลาสติกกันเปื้อน
– ถุงมือยางชนิดยาว
– รองเท้าบู๊ต
– อุปกรณ์ทำความสะอาดที่มีด้ามจับ เช่น ที่โกยผง หรือไม้ถูพื้น
หากไม่มีอุปกรณ์เหล่านี้ หรือไม่อยากยุ่งยากจัดเตรียมเพราะถ้าทำหลาย ๆ คนก็ต้องมีอุปกรณ์เหล่านี้หลาย ๆ ชุด ถ้าจ้างผู้เชี่ยวชาญอย่างบริษัทรับทำความสะอาดมาก็จะคุ้มค่ากว่า ซึ่งยังไม่รวมไปถึงน้ำยาทำความสะอาดพิเศษ หรือเครื่องมือทำความสะอาดต่าง ๆ ที่บริษัทเหล่านี้มี ซึ่งช่วยให้การทำความสะอาดง่ายและเร็วขึ้น
4. ความเชี่ยวชาญ
แน่นอนว่าบริษัททำความสะอาด "ควร" จะต้องมีความเชี่ยวชาญในการทำความสะอาดมากกว่าเราอย่างแน่นอน รู้ว่าวัสดุพื้นผิวแบบไหนควรทำความสะอาดอย่างไร เช่น พื้นผิวโลหะไม่ควรใช้น้ำยาฟอกขาว หรือวิธีการทำความสะอาดพื้นผิวที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อน อาทิ หินอ่อน หรือไม้สักต้องทำอย่างไร เรื่องเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญทั้งสิ้น
ทั้งนี้ หากการทำความสะอาดก่อให้เกิดความเสียหาย บริษัททำความสะอาดส่วนใหญ่ก็จะมีวงเงินประกันความเสียหายให้ด้วย

บิ๊กคลีนนิ่งคืออะไร ควรทำเมื่อไหร่ดี
ในปัจจุบันมีผู้ให้บริการทำความสะอาดออกมาตอบโจทย์นี้มากขึ้น ทั้งแบบรายสัปดาห์ ทุก 2 สัปดาห์ หรือรายเดือน ซึ่งรายละเอียดแพ็กเกจของการให้บริการก็แตกต่างกัน แต่โดยพื้นฐานก็ได้แก่ การปัด กวาด เช็ด ถูห้องต่าง ๆ กำจัดหยากไย่ตามผนัง เพดาน
แต่มีการทำความสะอาดอีกรูปแบบหนึ่งคือ การทำความสะอาดครั้งใหญ่ หรือบิ๊กคลีนนิ่ง (Big cleaning) ซึ่งไม่ใช่งานที่จะทำเพียงคนเดียวได้ ส่วนใหญ่มักจะทำก่อนย้ายเข้าบ้านใหม่ บ้านที่เพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จ การทำความสะอาดประจำปี หรือแม้แต่การทำความสะอาดเพื่อกำจัดเชื้อไวรัสโควิด-19
ถ้าจะให้คำจำกัดความง่าย ๆ บิ๊กคลีนนิ่ง คือ การทำความสะอาดที่ผู้ให้บริการจะเดินทางไปทำความสะอาดเป็นทีม พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือทำความสะอาดขนาดใหญ่ ครอบคลุมการทำความสะอาดหลายด้าน อาทิ
– ขัดเก็บคราบกาว สี สนิม ปูน รอยเปื้อนตามพื้นให้สะอาด
– เช็ดขอบบัว จมูกบันได กระจก พื้นผิวโลหะ ผนังและมุมสูงของพื้นที่
– ดูดฝุ่นโซฟา พรม ผ้าม่าน ทำความสะอาดเหล็กดัดมุ้งลวด
– ขจัดคราบไขมันต่าง ๆ ที่สะสมภายในห้องครัว
– ทำความสะอาดห้องน้ำและสุขภัณฑ์ (โถปัสสาวะ อ่างล้างหน้า ชักโครก)
– เก็บขยะและรวบรวมนำไปทิ้งจุดที่ผู้ว่าจ้างจัดเตรียมไว้
จะเห็นได้ว่าการทำความสะอาดแบบบิ๊กคลีนนิ่ง ครอบคลุมแทบจะทุกห้องภายในบ้าน แต่แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายจะต้องเพิ่มขึ้นกว่าการทำความสะอาดปกติอย่างแน่อน เนื่องจากต้องใช้ทีมงานและอุปกรณ์มากกว่าการทำความสะอาดปกติ โดยทั่วไปจะเริ่มที่ประมาณ 3,500 บาท (จ้างแม่บ้านทำความสะอาดทั่วไปประมาณ 2 ชั่วโมง อยู่ที่ประมาณ 500 บาท)
แนะนำแอปพลิเคชันหาคนทำความสะอาด
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วอยากจะทำความสะอาดบ้านขึ้นมาตะหงิด ๆ แต่ไม่รู้จะเริ่มหาจากที่ไหนดี ปัจจุบันนอกจากจะสามารถหาข้อมูลผู้ให้บริการทำความสะอาดทางช่องทางออนไลน์ รวมไปถึง social media อย่าง facebook และ Line แล้ว ยังมีผู้พัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อตอบโจทย์การทำความสะอาดเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ยกตัวอย่างเช่น
Beneat
แอปพลิเคชันที่ช่วยคุณค้นหาแม่บ้านคุณภาพใกล้บ้านคุณ ข้อดีคือ
– แม่บ้านผ่านการตรวจสอบประวัติ ฝึกฝน และมีประกันคุ้มครอง
– จัดหาแม่บ้านแทน เมื่อแม่บ้านเกิดเหตุไม่สามารถไปให้บริการได้
– สามารถเปลี่ยนเวลานัดหมาย และจองเวลาทำความสะอาดเพิ่มได้
– ประกันความเสียหายสูงสุดถึง 100,000 บาท
การให้บริการ ทำความสะอาดทั่วไป, รีดผ้า, นวดแผนไทย, ครูสอนโยคะ รวมถึงบริการทำความสะอาดพิเศษ เช่น กำจัดไรฝุ่น และบิ๊กคลีนนิ่ง เริ่มต้นที่ประมาณ 4,000 บาท
ราคา ทำความสะอาดทั่วไป คอนโด 1 ห้องนอน ไม่เกิน 40 ตารางเมตร เวลาทำความสะอาด 2 ชั่วโมง ถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง ราคา 500 บาท ส่วนบิ๊กคลีนนิ่ง เริ่มต้นที่ประมาณ 4,000 บาท
Seekster
แอปพลิเคชันที่มีการให้บริการหลายหลากตั้งแต่การทำความสะอาดทั่วไป บิ๊กคลีนนิ่ง จนถึงต่อเติมและซ่อมแซมบ้าน ข้อดีคือ
– มีบริการที่หลากหลายมากกว่าการหาแม่บ้าน
– บริการทำความสะอาดมืออาชีพรูปแบบใหม่ จ่ายเท่าที่ใช้
– ผู้ให้บริการระดับมืออาชีพและผ่านการอบรมพิเศษโดยเฉพาะ
– ประกันความเสียหายสูงสุด 50,000 บาท
การให้บริการ ทำความสะอาดทั่วไป, ล้างแอร์, ซ่อมแอร์, ซัก รีด เดลิเวอรี่, บริการพ่นฆ่าเชื้อโรค, ทำความสะอาดห้องน้ำ, ล้างรถ, กำจัดไรฝุ่น, บิ๊กคลีนนิ่ง, ติดตั้งหรือย้ายแอร์, ทำสวน ตกแต่งสวน และจัดสวน, กำจัดปลวกและแมลง, การประปา และล้างเครื่องซักผ้า
ราคา ทำความสะอาดทั่วไป คอนโดขนาดสตูดิโอ หรือ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 25-40 ตารางเมตร เวลาทำความสะอาด 2 ชั่วโมง ราคา 549 บาท ส่วนบิ๊กคลีนนิ่ง เริ่มต้นที่ประมาณ 3,500 บาท
Fixzy
แอปพลิเคชันที่ให้บริการเกี่ยวกับบ้านครบวงจรที่หนักไปทางงานช่างเสียส่วนใหญ่ ข้อดีคือ
– ผู้ให้บริการผ่านการอบรมมาตรฐานบริการและตรวจสอบประวัติ
– เลือกบริการที่ต้องการ วันเวลา และเลือกช่างได้เองผ่านทุกอุปกรณ์
– ไม่บวกค่าบริการเพิ่ม และเลือกช่องทางการชำระเงินได้ตามความสะดวก
การให้บริการ การทำความสะอาดทั่วไป, ล้างทำความสะอาดถังดักไขมันและบ่อพักน้ำ, ล้างแอร์, ติดตั้งขาแขวนทีวี, งานท่อประปา, เดินสายไฟ, ล้างเครื่องซักผ้า และติดตั้งอุปกรณ์สุขภัณฑ์
ราคา ทำความสะอาดทั่วไป เวลาทำความสะอาด 2 ชั่วโมง ราคา 550 บาท
จะเห็นได้ว่าการทำความสะอาดบ้านนั้นสามารถทำได้ด้วยตนเองได้ แต่ถ้าไม่อยากเสียแรง เสียเวลา หรืออยากให้งานเนี้ยบด้วยการบิ๊กคลีนนิ่ง ก็สามารถใช้เงินแก้ปัญหาได้เช่นกัน แต่ไม่ว่าจะทำเองหรือจ้างบริษัทรับทำความสะอาดก็ไม่ควรละเลยการทำความสะอาดบ้านเป็นประจำเพื่อให้บ้านห่างไกลจากเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือเชื้อโรคต่าง ๆ เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีของผู้อยู่อาศัยในบ้านทุกคน
สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า