ในยุคที่สังคมเมืองขยายตัวทั้งทางด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม สังคมเกษตรยังคงมีการเผาเศษซากพืชและวัชพืช ผลที่ตามมาคือ ท้องฟ้าเปลี่ยนจากสีฟ้าสดใสเป็นสีเทาปกคลุมด้วยฝุ่น PM 2.5 ทั่วทั้งประเทศ
ทุกวันนี้ก่อนออกจากบ้าน สิ่งที่หลายคนมักจะพกติดตัวคือ หน้ากากกันฝุ่น PM 2.5 และเช็กค่าฝุ่นจากแอปพลิเคชันวัดฝุ่น เช่น AirVisual และ Air4Thai ซึ่งองค์การอนามัยโรคชี้ว่า ผู้ที่ได้รับฝุ่น PM 2.5 มากเกินไป เป็นกลุ่มเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ โรคมะเร็งปอด และโรคทางเดินหายใจ
แล้วการซื้อเครื่องฟอกอากาศแต่ละที ต้องคิดให้เยอะหน่อยเพราะราคาก็ไม่ใช่น้อย ๆ ที่สำคัญต้องเลือกให้เหมาะกับ Lifestyle ไม่อย่างนั้น ซื้อมานอกจากไม่ใช้ฟอกอากาศแล้วยังอาจกลายเป็นโบราณวัตถุให้ฝุ่นเกาะที่บ้านก็ได้ วันนี้ K-Expert มีคำแนะนำมาฝาก
ไลฟ์สไตล์อย่างเราเหมาะกับเครื่องฟอกอากาศชนิดไหน
1. คนที่มีสมาชิกครอบครัวอยู่บ้านทั้งวัน
ยิ่งคนที่อยู่บ้านนั้นเป็นเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุด้วยแล้ว เครื่องฟอกที่ไม่มีไม่ได้น่าจะเป็น “เครื่องฟอกอากาศที่ใช้ในที่พักอาศัย” ที่เน้นประสิทธิภาพการฟอกเต็มที่ เหมาะสมกับพื้นที่ห้อง เครื่องใหญ่หน่อยไม่เป็นปัญหา สำหรับเครื่องแบบนี้
2. คนที่ต้องเดินทางบ่อย
วัน ๆ ใช้ชีวิตส่วนใหญ่บนรถ ต้องขับรถไปที่ต่าง ๆ ทั้งวัน เครื่องฟอกที่เหมาะน่าจะเป็น “เครื่องฟอกอากาศในรถ” ที่นอกจากประสิทธิภาพการฟอกแล้ว ยังต้องดูถึงเรื่องดีไซน์และตำแหน่งการติดตั้งด้วยว่าเหมาะกับของตกแต่งในรถหรือไม่ เพราะไม่แน่ว่าบางวันอาจมีใครมานั่งรถเรา จะได้ดูดีไม่เสียภาพลักษณ์ของเจ้าของรถ
3. คนที่ต้องออกนอกบ้านบ่อย ๆ
รู้สึกรำคาญตอนใส่หน้ากาก หรือสาว ๆ ที่แต่งหน้าอาจไม่ค่อยสะดวกที่จะใส่หน้ากากสักเท่าไร “เครื่องฟอกอากาศแบบพกพา” น่าจะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ได้ไม่น้อย
เครื่องฟอกอากาศสำหรับที่พักอาศัย แบบไหนที่เรียกว่าดี
หากดูด้านราคาแล้ว “เครื่องฟอกอากาศที่ใช้ในที่พักอาศัย” เป็นแบบที่ราคาโดยเฉลี่ยสูงกว่าเครื่องฟอกแบบอื่น ๆ หลักพันถึงหลายหมื่นบาทเลย ดังนั้น การซื้อเครื่องฟอกแบบนี้ ถ้าไม่ได้เป็นเศรษฐีเงินถุงเงินถังก็ต้องใส่ใจในรายละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อกันสักหน่อย
คุณสมบัติที่จำเป็น
|
|
ฟังก์ชันเพิ่มเติม
|
1. มีเทคโนโลยีพลาสม่าคลาสเตอร์ ช่วยฆ่าเชื้อไวรัส แบคทีเรีย สลายสารก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้และกลิ่นต่าง ๆ
2. มีตัวกรองที่มีความละเอียด 0.1 ไมครอนขึ้นไป ซึ่งสามารถกรองไวรัสได้
3. มีการปรับความแรงของเครื่องกรองอัตโนมัติ โดยมีเซนเซอร์ตรวจวัดค่าฝุ่น PM 2.5 หรือ สีที่แสดงลักษณะคุณภาพของอากาศ
4. มีฟังก์ชันการดักจับยุง โดยมีแสงยูวี พัดลมดูดอากาศ และแผ่นกาวจับยุง
|
ความน่าเชื่อถือของยี่ห้อ
|
1.มีการรับประกันสินค้าและบริการหลังการขายในประเทศไทย มีรีวิวสินค้าเชิงบวกจากผู้ใช้จริง
2.ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ เช่น มอก., ISO, IEC
|
ซื้ออย่างไรถึงคุ้มสุด
หลังได้คุณสมบัติเครื่องฟอกที่ต้องการแล้ว ก่อนซื้อก็ต้องมาดูเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ อีกสักหน่อย ซึ่งไม่ใช่แค่เลือกราคาถูกแล้วจะจบ แต่ยังต้องดูเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ด้วย
1. ซื้อให้เหมาะกับขนาดของห้อง
โดยอาจเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีขนาดใหญ่กว่าห้องจริงและมีกำลังดูดอากาศที่สูงขึ้น จะช่วยให้กรองอากาศได้ดีและเร็วขึ้นได้ แม้ราคาเครื่องสูงขึ้น แต่ก็อาจคุ้มกว่าได้
2. ค่าบำรุงรักษาและบริการหลังการขาย
เลือกตัวกรองที่เราสามารถถอดทำความสะอาดและเปลี่ยนไส้กรองได้เอง ราคาไส้กรองใหม่ไม่แพง หรือหากเครื่องฟอกอากาศมีปัญหา ก็มีศูนย์ซ่อมที่ส่งซ่อมได้สะดวก
3. ซื้อแบบมีโปรโมชัน
ลองเปรียบเทียบราคาหลาย ๆ ที่ก่อนตัดสินใจซื้อเครื่องฟอกอากาศ บางครั้งยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกัน แต่ราคาอาจแตกต่างกันมาก หากมีโปรโมชันจะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้
สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย ลออรัตน์ รักษ์บุญยวง CFP®ธนาคารกสิกรไทย หากมีข้อสงสัยหรือต้องการปรึกษาวางแผนเพิ่มเติม สามารถปรึกษากับ K-Expert ธนาคารกสิกรไทย ได้ที่ K-Expert@kasikornbank.com
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ