คุณบี สุทธิพงศ์ โรจนวิภาต อายุ 36 ปี ปัจจุบันเป็นพนักงานประจำในตำแหน่ง Digital Marketing เป็นคุณพ่อลูก 2 สามีของบิวตี้บล็อกเกอร์ คุณนิ่ม พิมพ์พร เจ้าของเพจ NuNimo’s Beauty Diary ทั้งคู่ยังทำงานประจำ และที่ทำงานก็อยู่นอกเมืองออกไปโซนดอนเมือง-อยุธยา แต่ทั้งคู่ก็ยังเลือกที่จะอยู่คอนโดย่านบางกะปิ เนื่องจากคุ้นเคย และรู้สึกว่าเดินทางสะดวก ไม่เหนื่อยกับการเดินทางไปทำงาน หรือต้องใช้ชีวิตประจำวัน
“ผมมาดูที่คอนโดนี้ตั้งแต่ตอนที่เขา Pre Sale ในปี 60 มาดูที่นี่ 2 รอบ เหมือนอะไรดลใจสักอย่าง ก็ชวนแฟนมาดูด้วย เรารู้สึกว่าที่นี่เงียบ ใกล้ห้าง เดินทางสะดวก เราเป็นคนไม่ชอบขับรถเองอยู่แล้วจึงต้องการการเดินทางที่สะดวกที่สุด ฝั่งนิ่มเองทำงานอยู่บางปะอิน เราขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษกไปแป๊บเดียวก็ถึงเลย”
คอนโดนี้ช่วยกันผ่อนกับแฟน โดยเห็นตรงกันว่าชอบไอเดียการวางรูปแบบของโครงการ แม้ว่าจะไม่ได้แตกต่างจากโครงการอื่น ๆ อย่างฉีกแนวไปเลย แต่ก็ทำให้มีความลงตัวสำหรับอยู่อาศัย 1 ห้องนอน 30 กว่าตารางเมตร ภายในห้องมีประตู 2 ชั้นกั้นเป็นสัดส่วน มีความเป็นส่วนตัว

ก่อนหน้าที่จะตัดสินใจซื้อคอนโดเรายังมองหาที่อยู่ในรูปแบบอื่น ๆ เพราะไม่อยากได้ที่อยู่อาศัยที่กำแพงติดกัน หรือต้องใช้ขื่อคานเดียวกันอย่างเห็นได้ชัด แต่กลายเป็นว่าพอได้มาดูที่นี่ เราได้ห้องมุม มีระเบียงที่เปิดโล่ง พื้นที่ค่อนข้างมาก ราคาจาก 2.7 ล้านบาท ต่อรองราคาลงมาได้ 2.4 ล้านบาท ถือว่าราคาถูกมาก เมื่อประเมินจากรถไฟฟ้าที่กำลังสร้างอยู่รอบด้าน ใกล้ห้างสรรพสินค้าในระยะเดินไปได้แค่ 5 นาที อยู่ใกล้คลองแสนแสบซึ่งชาวต่างชาตินิยมใช้สัญจรเป็นหลักมากกว่าจะขับรถเอง ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก

ส่วนที่ชอบมาก ๆ ก็คือ ห้องตรงข้ามเจ้าของไม่ได้เข้าอยู่ ทำให้เราเป็นส่วนตัวมากขึ้น ประกอบกับเป็นห้องมุมจึงรับลมได้อย่างเต็มที่ แดดน้อย เพื่อนบ้านที่นี่ก็น่ารัก ทักทายพูดคุยกัน ช่วยเหลือกันดี มีความถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ซึ่งเรื่องแบบนี้ไม่ใช่ทุกที่จะมีให้เราได้ แต่ส่วนใหญ่ก็ทำงานประจำกันช่วงกลางวัน เจอกันบ้างตอนซักผ้า หรือลงลิฟต์ในช่วงวันหยุด
ซื้อคอนโดใหม่ ห้องตำแหน่งไหนที่ควรจับจอง
คอนโดที่นี่ส่วนใหญ่เป็นคอนโดปล่อยเช่า จะเห็นคนฮ่องกงมาอยู่กันมาก เพราะสะดวกกับการสัญจรทางเรือ ทำให้การคำนวณเวลาเดินทางไม่คลาดเคลื่อนมากนัก ไม่ต้องเจอรถติด และยังเป็นส่วนตัวอยู่ รวม ๆ คือประหยัดทั้งค่าเดินทาง และค่าครองชีพ

นอกจากที่อยู่ที่เป็นคอนโด ตอนนี้ก็มีบ้านอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ เป็นบ้านเดี่ยว ซึ่งตอนแรกที่ซื้อก็ไม่ได้คิดว่าวันหนึ่งทำเลจะดีขนาดนี้ เหมือนซื้อ ๆ ไว้ก่อน ทำเลอยู่หลังสถานีตำรวจแม่ปิง คือจากลำพูน เดินทางเข้าเส้นถนนต้นยางเชียงใหม่-หนองหอย-ลำพูน ข้ามถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ก็จะเจอสถานีตำรวจ ปัจจุบันด้านหน้าเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ ทุกอย่างเจริญขึ้นมาก มีกาดนัด มีร้าน 7-Eleven คนพลุกพล่าน
วางแผนไว้ว่า พออายุ 40 ปี จะไม่ทำงานเป็นพนักงานบริษัทแล้ว เพราะการทำงานในธุรกิจสายออนไลน์มาร์เก็ตติ้ง ทำให้เราทำงานที่ไหนก็ได้ คิดว่าจะออกมารับฟรีแลนซ์เต็มตัว จากนั้นจะขยับไปอยู่ต่างจังหวัดจะได้ใช้เวลากับครอบครัวมากขึ้นด้วย
“ตอนนี้ก็คิดว่ามีความพร้อมมากในระดับหนึ่งแล้ว แต่ยังอยากสร้างฐานลูกค้าอีกสักนิด เพื่อตอนที่ไม่ได้ทำประจำแล้ว จะได้ไม่กระทบกับรายได้ และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ”

การวางแผนการเงินกับอสังหาริมทรัพย์เป็นเรื่องที่ผมให้ความสำคัญมาก ๆ เพราะเรารู้ว่ามันมีมูลค่า และต้องใช้เวลา อย่างตอนนี้เราผ่อนคอนโดด้วยกัน 2 คน แต่อนาคตข้างหน้าก็คงต้องเป็นผมคนเดียว เพราะวางแผนว่าอยากให้แฟนดูแลลูก ๆ ให้เต็มที่
“คนอื่น ๆ อาจจะแบ่ง 30% ไว้สำหรับผ่อนบ้าน แต่ผมแบ่ง 50% ไปเลย โดยเป็นสำหรับการผ่อนบ้าน 3 หลัง ในคราวเดียวกัน เพราะเรารู้ว่า ตอนนี้ยังมีแรงทำงานได้ ยังเหนื่อยได้ และอยากจบให้ไวที่สุด เพื่อให้ชีวิตเราและครอบครัวมั่นคงที่สุด นั่นหมายความว่าผมจะต้องทำทั้งงานประจำ และงานเสริมเพิ่มเติม ที่สำคัญคือเราจะต้องไม่สร้างหนี้เพิ่มด้วย”
ผมมีกฏเกณฑ์กับตัวเองอย่างนึงคือเราจะไม่ลดสเปกเป้าหมายลง ยกตัวอย่าง บางคนอาจจะคิดไว้ว่าฉันต้องได้บ้านเดี่ยว 1 ไร่ แต่พอทำไปสักพัก ได้ 200 ตารางวา ก็พออยู่ได้เหมือนกัน แต่ผมไม่ใช่คนแบบนั้น ถ้าเราตั้งเป้าหมายไว้โดยการคิดคำนวณ วางแผนทุกอย่างมาดี ถี่ถ้วนแล้ว ตั้งเป้าหมายอะไรไว้ก็จะทำให้สำเร็จตามนั้น
โจทย์ของผมวันนี้คือ บ้านเดี่ยว หรือบ้านแฝด ที่อยู่กับครอบครัว มีพื้นที่พอสมควร และต้องเดินทางสะดวกจริง ๆ เราก็คอยหาข้อมูลอยู่เรื่อย ๆ เรียกว่าถนนคลองหลวงนี่ วิ่งดูมาแล้วทุกคลอง ลำลูกกาวิ่งดูมาแล้วทั้งเส้น
“อย่างตรงละแวกคลองสี่ตอนแรกก็คิดว่าโอเค ตรงกับงบที่มี พื้นที่อยู่สบาย แต่พอประเมินเรื่องการเดินทางแล้วถือว่าโหดเอาเรื่อง โดยเฉพาะช่วงที่มีคนเดินทางเยอะ ๆ ถือว่าเหนื่อยหนักเลย”
พอใช้วิธีตระเวนขับรถแล้วไม่ค่อยตอบโจทย์ แฟนจึงช่วยหาโดยการหาผ่านทางสื่อออนไลน์ เปิดเว็บหลัก ๆ เช่น DDproperty ก็สามารถได้เห็นข้อมูลสำคัญ สเปก และเปรียบเทียบการเดินทางได้เร็วขึ้น
บางคนที่มาโพสไว้เค้าให้ข้อมูลละเอียดหน่อย เราก็จะประเมินได้เลยว่า เราจะไปทำงาน ไปซื้อของ ไปหาเพื่อน ไปโรงเรียนส่งลูก ไหวไหม ใช้เวลาเท่าไหร่ สิ่งที่อยากให้มีมากขึ้นคือ
แต่สิ่งที่อยากให้มากขึ้นก็คือ อยากเห็นที่อยู่อาศัยอยู่บนแผนที่เลย จะได้รู้ได้ชัดเจนว่าที่อยู่อาศัยนั้น ๆ ดีไหม ตั้งอยู่ในพิกัดห่างจากโรงเรียนลูกเท่าไหร่ จะไปซื้อของในห้างนั้นเดินทางยากไหม ใช้เวลานานเท่าไหร่ ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้ยังไม่เห็นจากเว็บไซต์ไหนเลย และเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก เพราะการดูรูปภาพอย่างเดียวนั้นไม่ได้ตอบโจทย์เพียงพอ

นิยามคำว่าบ้านในฝันของผมนั้น ผมให้น้ำหนักไปที่การเดินทางสะดวก อยู่แล้วไม่มีอะไรมารบกวน เช่น เจ้าที่ วิญญาณไม่ดี อยู่แล้วต้องสบายใจ ปลอดภัย เป็นระเบียบไม่รกรุงรัง ไม่มีเรื่องรบกวนใจ เรื่องพวกนี้บางอย่างจับต้องไม่ได้ แต่พอเราได้ไปยืนอยู่ตรงนั้นเรารู้สึกได้จริง ๆ เช่น หมู่บ้านต้องมี รปภ. ที่ให้สำคัญกับความปลอดภัยของลูกบ้าน ไม่ใช่ใคร ๆ จะเข้ามาในหมู่บ้านเมื่อไหร่ก็ได้ หรืออยู่ ๆ หายไปจากป้อมไม่มีใครอยู่เลย เราก็รู้สึกว่า ไม่ปลอดภัย หรือไปเจอกับเพื่อนบ้านเห็นแก่ตัว ไม่น่ารัก ต้องมาคอยเขม่นกันแบบนี้ คืออยู่แล้วไม่มีความสุข
”คอนโดที่อยู่ตอนนี้ก็เหมือนเป็นบ้านนะ แต่ยังไม่ได้ถึงขนาดบ้านในฝัน เพราะว่ามันเป็นห้อง เป็นคอนโดที่มีสัดส่วน แต่ยังไม่เหมาะกับการอยู่ในรูปแบบครอบครัวใหญ่ พ่อ แม่ และลูกอีก 2 คน”

“ผมมีมุมพิเศษของตัวเองอยู่ตรงระเบียง วางเคาน์เตอร์บาร์ รับแสงกำลังดี ถ่ายรูปสวย แม้ว่าเราจะมองออกไปเห็นอีกตึก แต่มันมีสเปซ ให้เรามองออกไปข้างนอกได้ รู้สึกว่าสบายตา นั่งทำงานตรงนี้แล้วสบายใจ”
หากคุณมีประสบการณ์ที่อยากบอกเล่า-แชร์ต่อเพื่อเป็นกำลังใจให้กับทุก ๆ คนที่กำลังตามหาบ้านในฝัน ติดต่อเรา