เทรนด์ธุรกิจ ปี 2566 ธุรกิจไหนดาวรุ่ง-ดาวร่วง

ธุรกิจ ปี 2566 ธุรกิจไหนมาแรง หลังจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 (COVID-19) ผ่อนคลายไปอย่างมาก จนทำให้ภาคธุรกิจต่าง ๆ กลับมาให้ดำเนินกิจการเหมือนเดิม โดยมีทั้งธุรกิจหน้าใหม่และธุรกิจทำเงินใหม่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมาดูว่าธูรกิจไหนที่เป็นดาวรุ่ง น่าห่วงบ้างในปี 2566

ข้อมูลจากศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี (ttb analytics) ระบุว่า ในปี 2566 หลายธุรกิจยังคงมีความแรงต่อเนื่องจากปี 2565 โดยจะมีมุมในเรื่องของความยั่งยืน การรักษ์โลก และการรวมกันของธุรกิจซึ่งแยกออกจากกันไม่ได้แล้ว เช่น การค้าปลีกกับ e-commerce รวมถึงเรื่องราวของการกลับมาของการใช้ชีวิตอีกครั้งของผู้คน สำหรับเทรนด์ที่จะมาแรงในปี 2566 นี้ ได้แก่

1. สุขภาพ ความเป็นอยู่ที่ดี อาหารที่มีประโยชน์ ซึ่งก็คือ กลุ่ม Health & Wellness

2. การค้าปลีก รวมถึง e-commerce นี่คือเทรนด์ที่แน่นอนว่า การค้าปลีก และ e-commerce แทบไม่สามารถแยกออกจากกันได้แล้ว

3. นวัตกรรมประหยัดพลังงาน การประหยัดพลังงานยังคงมาแรง เนื่องจากความต้องการใช้พลังงาน และการเปลี่ยนแปลงของราคาทรัพยากร

4. Patriarchy หรือที่เรียกกันว่า “ทาสหมา ทาสแมว” ชัดเจนขึ้นต่อเนื่องเรื่อย ๆ จากในระยะ 2-3 ปีหลังมานี้ ซึ่งในปี 2566 นี้ จะมีความชัดเจนมากขึ้นอีก

5. การดำเนินชีวิตแบบอิสระ หลุดจากการที่ถูกจำกัดอยู่นาน เช่น การท่องเที่ยว และธุรกิจบริการอื่น ๆ เป็นเทรนด์พฤติกรรมต่อเนื่องจากการหลุดพ้นจากพันธนาการด้วยความกลัวต่อความไม่รู้ทันโรคอุบัติใหม่

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้จัดอันดับ 10 ธุรกิจดาวรุ่งและดาวร่วง ในปี 2566 โดยพิจารณาจากยอดขาย ต้นทุน กำไรสุทธิ ผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงและภาวะการแข่งขัน ความต้องการผู้บริโภคและกระแสนิยม

โดยปัจจัยบวกในปี 2566 มาจากสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้นแล้ว การกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยเฉพาะแรงหนุนเพิ่มเติมจากนักท่องเที่ยวจีนจากการผ่อนปรนมาตรการควบคุมโควิด รวมทั้งการเลือกตั้งในปี 2566

ส่วนปัจจัยลบการดำเนินธุรกิจ ปี 2566 ธนาคารกลางทั่วโลกเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อลดภาวะเงินเฟ้อ ส่งผลต่อการกู้ยืมเงินของภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น ทำให้คนมีเงินเหลือจับจ่ายน้อยลง ขณะที่สงครามรัสเชีย-ยูเครนยืดเยื้อ กระทบซัพพลายเชนโลก วัตถุดิบมีราคาผันผวน ปัญหาค่าครองชีพ หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น ภาวะส่งออกมีแนวโน้มชะลอตัว ความไม่แน่นอนทางการเมือง และไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่

1. ธุรกิจการแพทย์และความงาม

2. ธุรกิจ e-commerce (ธุรกิจที่ทำการซื้อขายผ่านอิเล็กทรอนิกส์)

3. ธุรกิจ Social Media และ Online Entertainment / ธุรกิจด้าน fintech และการชำระเงินผ่านระบบเทคโนโลยี / ธุรกิจงานคอนเสิร์ต มหกรรมจัดแสดงสินค้า ธุรกิจอีเวนต์

4. ธุรกิจจัดทำคอนเทนต์ ธุรกิจ Youtuber การรีวิวสินค้า และ Influencer / ธุรกิจโฆษณาและสื่อออนไลน์

5. ธุรกิจแพลตฟอร์ม (ธุรกิจตัวกลางหรือตลาดกลางด้านอิเล็กทรอนิกส์) และธุรกิจ Matching เช่น platform หาคู่, สั่งอาหาร, เรียกรถและอื่น ๆ

6. ธุรกิจประกันภัย ประกันชีวิต / ธุรกิจบันเทิงยามค่ำคืน ผับ, บาร์, คาราโอเกะ

7. ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ทัวร์ และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง / Modern Trade ร้านค้าปลีกสมัยใหม่

8. ธุรกิจโลจิสติกส์ Delivery และคลังสินค้า/ ธุรกิจตู้ยอดเหรียญ เช่น น้ำ, เครื่องซักผ้า, อาหาร และอื่น ๆ

9. ธุรกิจ e-sport และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง / ธุรกิจอาหารเสริม / ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (ที่ไม่มีแอลกอฮอลล์)

10. ธุรกิจยานยนต์ / ธุรกิจความเชื่อ (สายมู, หมอดู, ฮวงจุ้ย) / ธุรกิจบันเทิง เช่น ละครหนังซีรีส์ Y และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง / ธุรกิจเกี่ยวกับกัญชา, ใบกระท่อม

ธุรกิจดาวรุ่งอันดับ 1 อย่างธุรกิจการแพทย์และความงาม มาจากการเติบโตของสังคมผู้สูงอายุ ทำให้ความต้องการใช้บริการด้านการแพทย์สูงขึ้น จากนโยบายเปิดประเทศคาดว่าท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จะทยอยกลับมาใช้บริการมากขึ้น โดยเฉพาะชาวจีน, ตะวันออกกลาง และยุโรป

ส่วนธุรกิจดาวรุ่งปี 2566 ที่น่าสนใจ อย่างธุรกิจความเชื่อความศรัทธา หรือสายมูเตลู มาจากความไม่มั่นคงของสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง ทำให้ประชาชนเกิดความกลัว จากความไม่แน่นอนในชีวิต ความศรัทธาจึงเข้ามามีบทบาทและอิทธิพลเป็นที่พึ่งกับชีวิต

1. ธุรกิจฟอกย้อม / ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์และวารสาร หนังสือพิมพ์ที่เป็นรูปแบบกระดาษ

2. ธุรกิจรับส่งสื่อสิ่งพิมพ์ตามบ้านและสถานที่ทำงาน / ธุรกิจโรงพิมพ์ / การพิมพ์ เช่น หนังสือ, แผ่นพับ

3. ธุรกิจคนกลาง

4. ร้านขายหนังสือ

5. ธุรกิจเครื่องปั้นดินเผาและเซรามิก

6. ธุรกิจร้านถ่ายรูป / ธุรกิจหัตถกรรม

7. ธุรกิจผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ไร้ฝีมือ หรือเสื้อผ้าโหล

8. ธุรกิจคริปโต

9. โรงเรียนเอกชน

10. ธุรกิจร้านโชห่วย

มีหลายภาคธุรกิจที่จะเป็นธุรกิจดาวร่วง ปี 2566 โดยเฉพาะธุรกิจร้านโชห่วยเนื่องจากปัจจุบันร้านค้าโชห่วยยังคงเป็นโชห่วยในรูปแบบดั้งเดิมทำให้ยากที่จะแข่งขันกับร้านมินิมาร์ท หรือร้านสะดวกที่มีสินค้าที่ครบครัน และมีระบบการบริหารจัดการที่ดีกว่า ส่งผลให้ร้านโชห่วยอาจจะไม่ได้รับความนิยม เช่นเดียวกับธุรกิจคลิปโตที่ปัจจุบันความนิยมเริ่มลดลงเนื่องจากกระแสข่าวต่าง ๆทำให้ความเชื่อมั่นของธุรกิจคริปโตลดลง

จะเห็นได้ว่า ธุรกิจ ปี 2566 มีหลายภาคธุรกิจที่เป็นธุรกิจทางด้านออนไลน์ ตอบรับผู้บริโภคที่หันมาใช้ช่องทางออนไลน์มากขึ้นนั่นเอง ซึ่งไม่ได้รวมถึงแค่เฉพาะการซื้อของกิน หรือของใช้เท่านั้น ยังรวมถึงที่อยู่อาศัยทั้งบ้าน และคอนโดด้วย ซึ่งมีทั้งหาข้อมูลราคาขายบ้าน, ขายคอนโด หรือรีวิวโครงการใหม่อีกด้วย