นายหน้าด้านอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่จะเป็นมืออาชีพที่ผ่านการอบรมเรียนรู้งานมาอย่างดี จึงสามารถช่วยให้เรื่องที่ยากหรือสับสนของลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเรื่องง่ายได้ หากคุณไม่คุ้นเคยกับขั้นตอนทั้งหมด คุณควรจะขอความช่วยเหลือจากนายหน้ามืออาชีพ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจว่าระบบเป็นอย่างไร ตลอดจนสิ่งที่ควรคาดหวังเพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนและผิดหวังก็ถือเป็นเรื่องดีที่ควรทำ
บทบาทของนายหน้า
คุณอาจเลือกจ้างนายหน้ามาทำหน้าที่แทนคุณได้ทั้งในฐานะ ผู้ซื้อ/ผู้เช่า หรือในฐานะ ผู้ขาย/ผู้ให้เช่า ก็ได้ ในหลายครั้งจะพบว่า ทั้งสองฝ่ายเลือกใช้นายหน้าเป็นตัวแทนการทำธุรกรรมทั้งคู่
แล้วคุณจะคาดหวังอะไรจากนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ได้บ้างล่ะ?
สำหรับผู้ขาย/ผู้ให้เช่า นายหน้าที่ดีจะต้องช่วยคุณได้ในเรื่องเหล่านี้ :
- แนะนำเรื่องราคาตลาดของอสังหาริมทรัพย์ของคุณ
- สร้างแผนการตลาดเพื่อขาย/ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ของคุณแบบมืออาชีพ
- สามารถเข้าถึงระบบเครือข่ายนายหน้าที่จะช่วยทำการตลาดให้กับอสังหาริมทรัพย์ของคุณผ่านนายหน้าจากเอเจนซี่อื่น ๆได้
- ทำการตลาดทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ให้กับอสังหาริมทรัพย์ของคุณ โดยค่าใช้จ่ายจะตกอยู่ที่ตัวนายหน้าเอง
- คัดกรองผู้ซื้อที่ดีแทนคุณ
- จัดการ การนัดขอเข้าชมอสังหาริมทรัพย์แทนคุณ
- จัดการเอกสารสัญญาต่าง ๆ แทนคุณ
- ยินดีทำตามคำสั่งหรือข้อเรียกร้องอันสมเหตุสมผลที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรม
สำหรับผู้ซื้อ/ผู้เช่า นายหน้าที่ดีจะต้องช่วยคุณได้แบบนี้:
- ให้คำแนะนำแก่คุณว่า ควรซื้อ/เช่าที่อสังหาริมทรัพย์ประเภทใดที่อยู่ในงบประมาณของคุณ
- เสาะหาและคัดเลือกอสังหาริมทรัพย์ตามเกณฑ์ที่คุณต้องการ
- สามารถเข้าถึงระบบเครือข่ายนายหน้าที่จะช่วยคุณหาอสังหาริมทรัพย์แบบที่คุณต้องการผ่านนายหน้าจากเอเจนซี่อื่น ๆได้
- จัดการการนัดขอเข้าชมอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนไปชมอสังหาริมทรัพย์นั้น ๆ กับคุณ
- จัดการเรื่องการเจรจาต่างๆแทนคุณ (หากคุณอนุญาต)
- เตรียมเรื่องเอกสารสัญญาต่างๆแทนคุณ
จะเริ่มมีค่าคอมมิชชั่นทันทีที่มีการทำสัญญาตกลงระหว่างผู้ให้เช่าและผู้เช่า
ในกรณีที่ทั้งสองฝ่ายมีนายหน้าในการทำธุรกรรม นายหน้าของทั้งสองฝ่ายจะเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นจากลูกค้าของตนตามระบุข้างต้น หรือตามที่ตกลงกันไว้
6 ข้อที่ต้องพิจารณาในการเลือกนายหน้า

1. ความรู้เกี่ยวกับชนิดของอสังหาริมทรัพย์และพื้นที่
นายหน้าจำนวนมากมีความเชี่ยวชาญในพื้นที่และ/หรือประเภทของอสังหาริมทรัพย์ พวกเขาอาจมีผู้ซื้อพร้อมอยู่แล้ว หรือรู้จักนายหน้าอื่น ๆ ในพื้นที่ที่มีผู้ซื้อรออยู่ นอกจากนี้ พวกเขายังเชี่ยวชาญการประชาสัมพันธ์พื้นที่แก่ผู้ซื้ออีกด้วย
2. ประสบการณ์
นายหน้ามือใหม่มักจะทำพลาด ดังนั้น เลือกนายหน้าที่มีประวัติการทำธุรกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่คล้ายกัน
3. บุคลิกภาพ
คุณมักต้องทำงานร่วมกับนายหน้าอย่างใกล้ชิดเป็นระยะเวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน ดังนั้น นายหน้าคนนั้น ๆ จะต้องเป็นคนที่คุณสามารถไว้ใจ เข้ากันได้ ตลอดจนรับฟังและเข้าใจความต้องการของคุณ
4. การศึกษา/ประกาศนียบัตรรับรอง
การศึกษาและประกาศนียบัตรรับรองช่วยเพิ่มความมั่นใจว่า นายหน้าคนนั้นๆ มีความรู้เกี่ยวกับกระบวนการทั้งหมด รวมถึงมีความรู้ด้านกฎหมาย.
5. ความพร้อมให้บริการ
ตรวจสอบดูว่า นายหน้ามีเวลามากพอจะดูแลสัญญาของคุณ
6. แผนการตลาด
หากคุณต้องการให้เช่าหรือขายอสังหาริมทรัพย์ ต้องสอบถามให้แน่ใจว่าจะมี Online Strategy ที่เหมาะสมในแผนการตลาด นอกจากนี้ สอบถามดูว่า นายหน้ายินดีจะใช้เวลามากแค่ไหนในการเตรียมอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ซึ่งส่วนนี้รวมถึงการถ่ายภาพอสังหาริมทรัพย์ของคุณ คิดจุดเด่นและจุดดึงดูดของอสังหาริมทรัพย์เพื่อทำการตลาด และให้คำแนะนำเรื่องการทำความสะอาด/การตกแต่ง ฯลฯ
ทั้งนี้คุณควรใช้นายหน้าเพียงคนเดียวในการทำงานแทนคุณ โดยเฉพาะหากคุณต้องการขายหรือให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้เพราะนายหน้ามักมีรายชื่อผู้ซื้อเหมือนกัน และการใช้นายหน้าหลายคนอาจทำให้เกิดความสับสนหรือทำให้เกิดกรณีที่ผู้ซื้อคนเดิมมาเข้าชมอสังหาริมทรัพย์ซ้ำได้ นอกจากนี้ นายหน้าจะรู้สึกมุ่งมั่นในการทำงานให้คุณมากกว่า หากพวกเขาทราบว่า คุณเลือกใช้พวกเขาเพียงรายเดียวเท่านั้น
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน