นาฬิกาบ้านเลือกอย่างไร 6 เทคนิค เลือกให้สวย ติดตั้งแล้วปัง

นาฬิกาบ้านนับเป็นหนึ่งในเครื่องใช้ที่ทุกบ้านต้องมี ซึ่งนอกจากจะเอาไว้บอกเวลา นาฬิกาบ้านยังทำหน้าที่เป็นเครื่องประดับตกแต่งบ้าน และสำหรับสายมู การติดตั้งนาฬิกาบ้านไว้ถูกที่ถูกทางยังช่วยเสริมความปัง ความเฮงให้กับคนในบ้านได้อีกด้วย ซึ่งเทคนิคการเลือกนาฬิกาบ้านให้สวยให้ปัง มีอยู่ด้วยกัน 6 ข้อ ดังนี้

นาฬิกาบ้าน สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ

นาฬิกาที่แสดงเวลาผ่านระบบตัวเลขดิจิทัลบนหน้าปัด และบางรุ่นยังเสริมฟังก์ชันบอกอุณหภูมิและวันที่ด้วย มีทั้งแบบแขวนและตั้งโต๊ะ สามารถใช้พลังงานได้ทั้งจากถ่านและจากไฟฟ้า

ข้อดีคือง่ายต่อการดูเวลา ข้อเสียคือและใช้พลังงานค่อนข้างเยอะ และมีแบบให้เลือกค่อนข้างจำกัด เหมาะกับบ้านสไตล์โมเดิร์นหรือมินิมอล

เป็นนาฬิกาที่แสดงเวลาผ่านเข็มที่เดินผ่านตัวเลขบนหน้าปัดนาฬิกา ส่วนใหญ่ใช้พลังงานจากถ่าน AA หรือ AAA มีทั้งแบบแขวนและตั้งโต๊ะ

ข้อดีคือตอบโจทย์การมองเห็นจากระยะไกล ทนทาน ข้อเสียคือได้ยินเสียงเข็มเดินเป็นจังหวะ นาฬิกาแบบนี้สามารถใช้กับบ้านทุกสไตล์ เนื่องจากมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกตามความเหมาะสมกับสไตล์บ้าน

นาฬิกาบ้านที่แสดงเวลาผ่านเข็มที่เดินผ่านตัวเลขบนหน้าปัดนาฬิกาและเสียงตีของลูกตุ้มโดยใช้ระบบฟันเฟือง และอาศัยพลังงานผ่านการแกว่งลูกตุ้มหรือการไขลาน ตัวเรือนมักทำจากไม้ มีทั้งแบบตั้งพื้น และแบบแขวนผนัง และมีบ้างที่ทำจากวัสดุอื่น เช่น โลหะและหิน

ข้อดีคือสวยงาม ทนทาน ข้อเสียคือต้องคอยหมั่นแกว่งลูกตุ้มหรือไขลาน มีเสียงดังเวลาตีบอกเวลา มีขนาดใหญ่ และหากชำรุดเสียหาย ต้องซ่อมโดยช่างผู้ชำนาญ เหมาะกับบ้านสไตล์คลาสสิก

นอกจากจะมีหลายประเภท วัสดุที่นำมาใช้ทำตัวเรือนของนาฬิกาบ้านก็ยังมีความหลากหลาย โดยสามารถแยกออกเป็น 3 วัสดุหลักคือ

1. พลาสติก พบเห็นได้ตามท้องตลาดทั่วไป มีดีไซน์และสีสันที่หลากหลาย ราคาไม่แรงมาก ดูแลรักษาก็ง่าย แต่ไม่ควรติดตั้งในที่ที่มีแสงแดดส่องตลอดเวลา

2. โลหะ ให้ความรู้สึกหรูหรา วัสดุมีความแข็งแรงทนทาน แต่น้ำหนักเยอะ หากเลือกแขวนผนังควรคำนวณน้ำหนักให้ดีก่อน

3. ไม้ ให้ความรู้สึกเรียบง่าย ขณะที่ช่วยเสริมลุควินเทจได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการติดตั้งในที่ที่มีความชื้นสูง

จุดประสงค์หลักของการติดตั้งนาฬิกาบ้าน คือทำให้สามารถอ่านค่าเวลาได้อย่างชัดเจน รวดเร็ว โดยนาฬิกาบ้านควรมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 20 เซนติเมตรขึ้นไป

อย่างไรก็ตาม ควรเลือกนาฬิกาบ้านที่มีขนาดเหมาะสมกับสถานที่ติดตั้ง ไม่เล็กจนมองไม่เห็นเวลา และไม่ใหญ่มากจนทำให้ห้องนั้นดูอึดอัด

สำหรับผู้ที่คิดว่านาฬิกาบ้านขนาดใหญ่จะช่วยเสริมฮวงจุ้ยให้กับคนในบ้าน เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะฮวงจุ้ยนาฬิกาบ้านที่จะช่วยเสริมมงคลให้กับคนในบ้าน ควรเป็นนาฬิกามีขนาดพอดี ไม่เล็กจนมองเวลาลำบาก และไม่ใหญ่เกินไปจนพลังงานจากนาฬิกาส่งผลต่อพลังงานชี่ภายในบ้าน ซึ่งอำนาจและพลังของนาฬิกาอาจจะทำให้ชีวิตของคนในบ้านปั่นป่วน รู้สึกกดดัน

เทคนิคในการเลือกสีนาฬิกาบ้านง่าย ๆ คือ หากเป็นนาฬิกาแขวนผนัง ให้เลือกโทนสีของนาฬิกาบ้านตรงกันข้ามกับโทนสีของผนัง หากผนังเป็นสีโทนมืด ก็ควรเลือกนาฬิกาบ้านโทนสีสีสว่าง เช่น ขาว ครีม หรือคัลเลอร์ฟูล

ในทางกลับกันหากผนังเป็นสีโทนสว่าง ก็ควรเลือกนาฬิกาบ้านเป็นสีโทนมืด เช่น ดำ เทา ซึ่งนอกจากจะเพิ่มความโดดเด่นให้นาฬิกา ยังช่วยให้มองเห็นเวลาได้ง่ายอีกด้วย

สำหรับในกรณีของนาฬิกาบ้านแบบตั้งพื้นหรือตั้งโต๊ะ หลักการเลือกสีคือเลือกให้แมตช์กับเฟอร์นิเจอร์ภายในห้อง เช่น แต่งห้องสไตล์หรู ก็ควรเลือกนาฬกาสีทองหรือเงิน เพื่อเสริมความหรูหรา แต่งห้องสไตล์โมเดิร์นหรือมินิมอล ก็ควรเลือกนาฬิกาสีเรียบ ๆ อย่างสีขาวหรือดำ หากแต่งห้องสไตล์คลาสสิก ก็ควรเลือกนาฬิกาบ้านสีไม้หรือเอิร์ธโทน

ตามหลักฮวงจุ้ยและตามความเชื่อของคนไทย ตำแหน่งที่ใช้ติดตั้งนาฬิกาบ้านที่เหมาะสม จะช่วยเสริมความปังให้คนในบ้านได้ด้วย

1. ติดตั้งนาฬิกาทางทิศเหนือ เชื่อว่าจะช่วยส่งเสริมเรื่องการศึกษา ทำให้คนในบ้านเกิดความกระตือรือร้น ทะเยอทะยาน มุ่งมั่นที่จะศึกษาหาความรู้

2. ติดตั้งนาฬิกาทางทิศตะวันตก การติดตั้งนาฬิกาบ้านไว้ทางทิศตะวันตก เชื่อว่าจะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของคนในบ้านให้ดูดี มีความน่าเชื่อถือ

3. ติดตั้งนาฬิกาทางทิศใต้ เชื่อว่าจะช่วยส่งเสริมให้คนในบ้านมีชื่อเสียง อยู่ในตำแหน่งที่คนอื่นสามารถมองเห็นได้ชัดเจน

4. ติดตั้งนาฬิกาทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เชื่อว่าจะช่วยส่งเสริมยศถาบรรดาศักดิ์และความมั่นคงในหน้าที่การงาน

ทั้งนี้ เชื่อว่าไม่ควรติดตั้งนาฬิกาบ้านไว้ทางทิศตะวันออก เพราะจะส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อลูกชายหรือลูกสาวคนโต รวมทั้งมีผลต่อสุขภาพของคนในบ้านด้วย

1. ห้ามติดตั้งนาฬิกาบ้านบริเวณหัวเตียงหรือเหนือโซฟา เพราะอาจสร้างความรำคาญจากเสียงของนาฬิกา ทำให้การพักผ่อนไม่ดีพอ ส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม

2. มีนาฬิกาเพียง 1 เรือนต่อห้อง การมีนาฬิกามากกว่า 1 เรือนในห้อง เชื่อว่าจะส่งผลให้คนในบ้านมีแรงกดดัน และมีเหตุให้ต้องเหนื่อยหรือต้องดิ้นรนอยู่ตลอดเวลา

3. ไม่ปล่อยให้นาฬิกาชำรุดหรือหยุดเดิน เพราะเชื่อว่าจะส่งผลต่อการหยุดนิ่งของทุกอย่าง แม้กระทั่งชีวิตของคนในบ้าน

4. ไม่ติดตั้งนาฬิกาไว้เหนือประตูที่เดินเข้า-ออกอย่างสม่ำเสมอ เพราะเชื่อว่าจะนำโชคร้ายมาให้คนในบ้าน