บ้านชานเมืองคำตอบที่ตรงใจมากกว่าบ้านในเมือง

คำบอกเล่าประสบการณ์จาก คุณพัลลภ เจ้าของธุรกิจสิ่งทอส่งออกญี่ปุ่น มากว่า 40 ปี ที่เพิ่งตัดสินใจเกษียณตัว

แม้หลายคนจะเชื่อว่า ทำเลใจกลางเมืองก็คือ ‘ทำเลทอง’ แต่ตรงข้ามกับ คุณนุ้ย กุนที โตวิทยาการ Financial Service Supervisor ของ ‘อนันตรา เวเคชั่น คลับ’ คลับสำหรับบ้านนักเที่ยว ที่พร้อมจะมาแชร์ประสบการณ์ว่า “บ้านชานเมืองดีกว่าบ้านในเมืองอย่างไร”

เมื่อพูดถึงบ้าน มักจะมีวลียอดฮิตที่ถูกหยิบมาพูดถึงบ่อย ๆ นั่นก็คือ “บ้านในฝัน” แต่จากสภาพเศรษฐกิจและปัจจัยรอบด้านทำให้บ้านในฝันอาจไม่กลายเป็นจริงสักที ด้วยความที่ ‘ราคา’ กลายเป็นสิ่งทำให้บ้านในเมือง ซึ่งเป็นบ้านในฝันของใครหลายคนจับต้องได้ยากในยุคนี้ คุณนุ้ยจึงตัดสินใจเลือกบ้านชานเมืองย่านบางนา-สุวรรณภูมิ แทนที่จะอยู่ในเมือง แม้ว่าสถานที่ทำงานจะอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ก็ตาม

“หากมีงบจำกัด แล้วต้องการซื้อบ้านในเมืองก็อาจต้องเลือกอยู่ห่างไกลจากตัวเมือง เมื่อเทียบระยะเวลาเดินทางมาทำงานแทบไม่ต่างจากการเริ่มต้นระยะทางจากบ้านชานเมืองเลย อีกทั้งหากประเมินระยะเวลาเดินทางผิดพลาด ก็มีโอกาสเจอรถติดมากเช่นกัน อย่างที่เขาพูดกันว่าว่า ‘ออกช้า 5 นาทีชีวิตเปลี่ยน’ เพราะในบางจุดมีช่วงการจราจรติดขัดที่ต้องใช้เวลาเดินทางมากกว่าระยะทางจากชานเมืองด้วยซ้ำ”

สำหรับบางคน ‘การได้ใช้ชีวิตภายในเมือง’ คำว่า ‘ระยะทาง’ อาจไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด เท่ากับ ‘ระยะเวลา’ แม้ว่า ต้องยอมเดินทางไกลมากกว่า แต่ระยะเวลาคือ สิ่งที่ซื้อกลับมาหรือขอเพิ่มเติมไม่ได้ เรื่องการใช้รถใช้ถนนเอง น่าจะทำให้ทุกคนเข้าใจตรงกันได้ว่า คนในเมืองส่วนใหญ่เสียเวลาชีวิตไปโดยเปล่าประโยชน์มากขนาดไหน การเลือกบ้านชานเมืองที่แม้จะมีระยะทางไกลจากสถานที่ทำงาน จึงกลายเป็นเป็นสิ่งที่ ‘ใช่’ และมีโอกาส ‘จับต้องได้’ มากกว่า เพราะความสะดวกสบายและความครับครันแทบไม่ต่างกัน

“บ้านชานเมือง เหมาะกับทุกคน และทุกไลฟ์สไตส์ เพราะสมัยนี้ย่านชานเมืองมีครบครัน ไม่ต่างจากในตัวเมือง อย่างเช่น บริเวณย่านบางนาจะมีห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารมากมาย อีกทั้งยังมีสวนสาธารณะสำหรับผู้ที่รักการออกกำลังกาย ฯลฯ สะดวกกับทุกเพศ ทุกวัย แต่ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละครอบครัวจะชอบโซนไหน อยากอยู่ใกล้ญาติพี่น้อง ใกล้ที่ทำงาน หรือใกล้เคียงกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง”

“แน่นอนว่า ราคา เป็นปัจจัยแรกที่ทำให้เลือกบ้านชานเมือง เพราะทำให้ได้พื้นที่ใช้สอยและบริเวณบ้านที่ใหญ่กว่าในเมือง ปัจจัยต่อมาคือ ทำเลดี เดินทางสะดวกไม่แพ้บ้านในเมือง สามารถเดินทางไปทำงานได้สะดวกสบาย และบริเวณรอบ ๆ บ้านยังมีห้างสรรพสินค้าเพื่อความสะดวกในการจับจ่ายใช้สอย ร้านอาหารที่มีให้เลือกออกไปสังสรรค์กับเพื่อน ๆ มากมาย โรงพยาบาลก็เป็นสถานที่หนึ่งที่จำเป็นจะต้องมี โรงเรียนสำหรับการสร้างครอบครัวในอนาคตก็ขาดไม่ได้ สุดท้ายคือ ใกล้บ้านของพี่สาว และด้วยความคุ้นเคยที่เคยอยู่บริเวณนี้มาก่อน จึงค่อนข้างชำนาญเส้นทางทำให้ไม่เป็นอุปสรรคในการเดินทางเข้าเมือง”

เหตุผลที่ทำให้คุณนุ้ยเลือกซื้อบ้านชานเมือง อาจสะท้อนภาพรวมของคนวัยทำงานและคนรุ่นใหม่ในยุคนี้ได้เลยว่า ทำเล ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดเสมอไป ลดเงื่อนไขจาก ‘ในเมือง’ ไป ‘ชานเมือง’ ด้วยงบประมาณที่จำกัด เพื่อหาตัวเลือกใหม่ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้ตรงใจไม่แพ้กัน แถมยังคุ้มค่าแก่การลงทุนมากกว่า เมื่อเทียบจากพื้นที่ใช้สอยภายในบริเวณบ้านที่เพิ่มมากขึ้น และปัจจัยพิเศษของตนเองที่เพิ่มขึ้นมา เช่น ใกล้บ้านอยู่ใกล้กับคนในครอบครัว และเป็นบริเวณที่มีความคุ้นชินมาก่อน เป็นต้น

“นอกจากทั้งสามปัจจัยข้างต้นแล้ว ข้อดีที่เห็นได้ชัดของบ้านชานเมืองคือ เงียบสงบ รถไม่ติด หากต้องการนัดพบปะสังสรรค์กับญาติ หรือเพื่อนสนิทมิตรสหายก็ไม่มีปัญหา และยังสามารถหาร้านอาหารอร่อย ๆ บรรยากาศดี ๆ จากร้านดังได้สะดวกไม่แพ้ในเมือง แต่อาจจะต้องบริหารเวลาในการเดินทางในแต่ละครั้ง หรือเผื่อเวลาสักเล็กน้อย”

เรื่องหลัก ๆ ที่ทำให้บ้านในเมืองได้เปรียบกว่าบ้านชานเมือง คือ ทำเล และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ซึ่งคนส่วนใหญ่จะหยิบไปเป็นข้อดี-ข้อด้อย แต่กลับกันคุณนุ้ยเลือกที่จะตัดเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกออก และไม่ได้มองว่าการเดินทางจากระยะทางที่เพิ่มขึ้น เป็นจุดด้อยแต่กลับมองเป็นเพียงเรื่องที่ต้องเตรียมตัวเตรียมใจเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อเทียบกับข้อดีทั้งหมดแล้ว ทำให้ไม่มีคำตอบไหนที่จะตรงใจไปมากกว่าบ้านชานเมืองอีก

“หลังจากที่เราพิจารณาได้แล้วว่า บ้านชานเมือง นี่แหละที่เป็นคำตอบ ก็มานั่งจดว่าจะเอาปัจจัยอะไรมาตัดสินใจในการเลือกซื้อบ้านบ้าง ส่วนตัวขอแนะนำ ให้พิจารณา 4-5 เรื่อง คือ ทำเลที่ตั้ง, เส้นทางจากบ้านที่จะเลือกซื้อไปจนถึงที่ทำงาน โดยสำรวจจากเวลาและการเดินทางจริง, ความน่าเชื่อถือของโครงการหมู่บ้าน ความปลอดภัย ความคุ้มค่า พื้นที่ใช้สอย และที่ตั้งของสถานที่สำคัญ ซึ่งจำเป็นต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกใกล้บ้าน”

จุดเริ่มต้นในการตามหาบ้านชานเมืองที่ใช่ ไม่จำเป็นต้องเริ่มจากการหาข้อมูลโครงการ หรือเดินทางไปตามโครงการต่าง และหมู่บ้านจัดสรรต่าง ๆ ก่อนเป็นอันดับแรก แต่อาจเริ่มจากการเรียบเรียงข้อมูลดูก่อนว่า คุณจะนำปัจจัยอะไรมาใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณานอกจากเรื่องของงบประมาณในการซื้อบ้านบ้าง เพราะจะมีบางสิ่งที่คุณต้องวางแผนให้ดีขึ้นไปอีกระดับ เช่น การวางแผนเส้นทางการเดินทางจากบ้านที่คิดว่าจะซื้อไปยังสถานที่ทำงาน

ตามที่คุณนุ้ยได้แนะนำ ปกติถ้าเลือกบ้านในเมืองคุณแทบไม่ต้องคิดเลย เพราะมีระบบการคมนาคมขนส่งให้เลือกหลากหลายวิธี เพียงแต่ต้องบริหารการจัดการระยะเวลาการเดินทางให้ดี ขณะที่การเลือกบ้านชานเมืองต้องคิดให้มากขึ้นว่า เดินทางแบบใดได้บ้าง ใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ มีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน เป็นต้น ถ้าตอบทุกคำถามที่ตัวเองตั้งไว้ได้ ย่อมเป็นไปได้ว่า บ้านหลังนั้นจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการคุณได้เช่นกัน

“แต่กว่าจะได้บ้านหลังนี้ ก็ต้องศึกษาหาข้อมูลอยู่สักพักเหมือนกัน ดีที่มาลองหาข้อมูลบนเว็บไซต์ เช่น DDproperty ที่มีข้อมูลครบ ทั้งคลิปพาสำรวจหมู่บ้านต่าง ๆ พร้อมแนะนำทั้งข้อดีและข้อด้อยต่าง ๆ จากหลายโครงการก่อนตัดสินใจเข้าดูโครงการจริง ช่วยทำให้ประหยัดเวลาในการหาข้อมูล พร้อมเพิ่มพูนความรู้พื้นฐานในการต่อรองหรือสร้างคำถามล่วงหน้าเมื่อเดินทางไปสถานที่จริง เพื่อให้ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจเพิ่มมากขึ้น จนสามารถพิจารณาและตัดสินใจได้ง่ายขึ้นก่อนตกลงเซ็นสัญญา”

หลังจากที่คุณนุ้ยได้ตอบตัวเองเบื้องต้นแล้ว ทำให้พบว่า บริเวณย่านบางนา-สุวรรณภูมิ ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะตอบโจทย์ได้ในหลายด้าน สามารถวางแผน บริหารการจัดการเวลา และไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ให้มีความสะดวกสบายได้ดี ไม่ต่างจากการอาศัยอยู่ในเมือง

แต่การที่จะหาข้อมูลของแต่ละโครงการหมู่บ้านด้วยการลงพื้นที่จริงก็คงไม่ไหว ด้วยความที่ค่อนข้างกว้าง โครงการหมู่บ้านเก่าก็ไม่น้อย ไหนจะโครงการใหม่ที่เปิดตัวขยายเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ อีก การค้นหาข้อมูลผ่านแพลตฟอร์มเกี่ยวกับบ้านโดยเฉพาะจึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ระยะเวลา และพลังงานชีวิตไปได้อีกมาก แถมได้ข้อมูลที่ครอบคลุมกว่าการลงพื้นที่ไปดูโครงการจริงแบบไม่มีข้อมูลพื้นฐานอีก

“มุมพิเศษในบ้านสำหรับนุ้ยคือ มุมห้องนั่งเล่นชั้นล่าง เพราะเป็นพื้นที่ใช้สอยที่รวมทุกอย่างในการใช้ชีวิต พักผ่อน สังสรรค์ นั่งทำงาน เวลามองผ่านกระจกบานใหญ่ที่สามารถมองเห็นต้นไม้ที่เขียวชะอุ่มร่มรื่นที่นุ้ยกับสามีพอมีเวลาว่างก็ได้ช่วยกันปลูก จึงทำให้ห้องนั่งเล่นชั้นล่างเหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างมาก”

บริเวณห้องนั่งเล่นของคุณนุ้ยจะอยู่ติดกับห้องครัว มีโต๊ะอาหารที่สามารถนั่งรับประทานอาหารด้วยกันได้ถึง 6 คน ทำให้กิจกรรมภายในบ้านมีความสะดวกสบาย เหมาะกับการสังสรรค์กับคนในครอบครัวและเพื่อน ๆ ไม่ว่าจะเป็นการนอนบนเก้าอี้นวดไฟฟ้า ดูหนัง ดูซีรีส์ผ่าน Netflix เล่นเกมส์ ทำให้มีการใช้ชีวิตในแบบเรียบง่าย ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่โดยที่ไม่ต้องรีบร้อนเหมือนใช้ชีวิตอยู่ในเมืองในวันธรรมดา

สำหรับใครที่กำลังสนใจและคิดว่า บ้านชานเมือง น่าจะตอบโจทย์ตัวเองได้เช่นกัน อาจเริ่มต้นจากการปรับมุมมองความคิดที่ว่า บริเวณแถบชานเมืองเดินทางลำบาก ไม่สะดวกสบายเพราะคุณนุ้ยได้ยืนยันด้วยตัวเองว่า “บ้านชานเมืองในยุคนี้สามารถตอบโจทย์ได้ครบครันมากกว่าที่คุณคิด” พร้อมฝากทิ้งท้ายเพิ่มเติมว่า “คนเราไม่ได้ซื้อบ้านกันได้บ่อย ๆ ดังนั้น จะตัดสินใจเลือกซื้อบ้านทั้งที ก็ควรศึกษาให้จริงจัง ทั้งข้อดี-ข้อเสีย เพื่อที่จะทำให้เราเลือกบ้านได้คุ้มค่าแก่เงินที่ได้ลงทุนและการดำเนินชีวิตในอนาคต”

ด้วยเหตุนี้ การซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่ใช้งานจริง จึงควรเลือกจากเกณฑ์การพิจารณาของตัวเอง หากไตร่ตรองถึงเรื่องการเดินทางและเรื่องอื่น ๆ แล้วพบว่า คุณเองยังสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายใกล้เคียงกับการดำเนินชีวิตตามปกติในแต่ละวัน สุดท้ายแล้ว คำว่า ‘ทำเลทอง’ หรือ ‘ในเมือง’ อาจไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อบ้านของคุณก็ได้