บ้าน คือ ความมั่นคง และความก้าวหน้าในชีวิต

เราเกิด และเติบโตจากที่ จ.เชียงราย การที่ได้อยู่กับสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย คนที่รัก บรรยากาศดี ๆ นี่คือกำไรชีวิตอย่างหนึ่ง ข้อคิดดี ๆ จาก คุณ จีระศักดิ์ หลักเมือง หนุ่มชาวเหนือที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่ต้องการสร้างบ้านด้วยตนเองบนที่ดินที่เรียกว่า "บ้านเกิด"

คุณจี เริ่มสร้างบ้านหลังนี้ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคม 2559 ควบคุมการก่อสร้างเองทั้งหมดทุก ๆ ส่วน ตั้งแต่วันที่ตั้งเสาเข็มเอก จนถึงวันที่นำเฟอร์นิเจอร์ลง แล้วเสร็จทั้งหมดในเดือนพฤศจิกายน 2559 อยู่บ้านหลังใหม่นี้มาราว 3 ปีกว่า ยิ่งอยู่ก็ยิ่งรักและผูกพัน

สิ่งที่ชอบมาก ๆ สำหรับบ้านหลังนี้ คือ เป็นบ้านที่ดีไซน์เป็นสไตล์ของเราเอง รู้สึกว่านี่คือบ้านในฝัน สมบูรณ์แบบในความรู้สึกของเรา ทุก ๆ อย่างตอบโจทย์ ห้องนอนกว้าง ๆ ห้องน้ำใหญ่ ๆ มีห้องแต่งตัวที่เป็น Walk-in closet ตื่นเช้าพร้อมเสียงไก่ขัน ลงมาดูต้นไม้ ดอกไม้ พืชผล แปลงเล็ก ๆ ที่เราปลูกไว้รอบรัวบ้าน อากาศสดชื่นมาก ๆ

เมื่อก่อนตอนเด็ก ๆ อยู่ตรงนี้ก็เหมือนอยู่ปริมณฑล คือไม่ได้เป็นตัวเมืองหลักที่จะมีผู้คนพลุกพล่าน ไม่ได้เป็นย่านเศรษฐกิจ แม้ว่าจะอยู่ไม่ห่างไกลจากใจกลาวเมืองก็ตาม แต่เดี๋ยวนี้มีทั้งห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล ศูนย์การแพทย์แม่ฟ้าหลวง เปลี่ยนจากทุ่งนา เป็นถนนบายพาส ภายนอกจะคึกคักเต็มไปด้วยผู้คน แต่พอกลับเข้าบ้านซึ่งระยะไม่ได้ห่างกันก็ยังรู้สึกอยู่สบาย มีความสงบ ไม่แออัด

“แม้ว่าวันนี้จะมีความเจริญด้านวัตถุ หมุนเวียนเศรษฐกิจเข้ามาในพื้นที่มากกว่าสมัยก่อน แต่ก็ไม่ทำให้ความสงบ ความรู้สึกอยู่สบายลดน้อยลงไปได้เลย ที่นี่ยังเป็นเหมือน Safe zone ของเราไม่เคยเปลี่ยนแปลง”

สิ่งที่ไม่ชอบคือเรื่องที่เราไม่สามารถควบคุมได้ คือเสียงนก นกเป็นหลักพันตัวที่บินอยู่รอบ ๆ ท้องนาใกล้บ้าน ความที่บ้านอยู่ใกล้นา ใกล้น้ำ เราก็จำเป็นต้องยอมรับเรื่องแบบนี้ ต้องปรับตัวอยู่กับธรรมชาติให้ได้ วันดีคืนดี ก็จะมีสัตว์เลื้อยคลานเข้ามาในบ้านบ้าง อย่างพวกจิ้งจก ตุ๊กแก แม้ว่าเราจะไม่ชอบ แต่ก็เข้าใจได้ เพราะสถานที่แบบนี้ คน สัตว์ ธรรมชาติ ก็ควรต้องอยู่ให้ได้อย่างพึ่งพากัน

“พออายุมากขึ้น เรารู้สึกว่าได้อยู่กับธรรมชาติมากขึ้นเป็นเรื่องดี เมื่อก่อนอยู่ในกรุงเทพฯ อยู่คอนโดก็สะดวกในเรื่องการทำงาน การเดินทางคล่องเพราะอยู่ใกล้รถไฟฟ้า แต่พอทำบ้านหลังนี้เสร็จ ตัดสินใจกลับมาอยู่ที่บ้านเป็นหลัก หากมีประชุมงาน หรือมีงานที่กรุงเทพฯ ก็ค่อยบินกลับไป”

แฟนเป็นคนไต้หวัน ได้รับใบอนุญาตทำงาน 1 ปี ก็เดินทางไป ๆ มา ๆ ตอนแรกก็คุยกันไว้ว่าอยากจะอยู่ยาว วางแผนกันเล่น ๆ ว่าจะทำร้านกาแฟริมแม่น้ำตรงที่ดินที่เพิ่งซื้อใหม่ ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กันกับบ้าน แต่พอสถานการณ์ทางครอบครัวเขาเปลี่ยน คือ พ่อ-แม่ เขาเริ่มเข้าสู่วัยผู้สูงอายุ เลยคิดว่าไป ๆ มา ๆ แบบนี้อาจจะดีกว่า เพราะเขาก็จะได้ดูแลพ่อ-แม่ได้สะดวกด้วย

“เวลาเขากลับมาที่บ้านนี้ก็จะเหมือนได้มาพักผ่อน มาใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ อยู่สบาย ๆ เพราะอากาศดี เมื่อก่อนอยู่คอนโดก็ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นสถานที่สำหรับพักผ่อนได้เต็มที่แบบนี้ แต่พอมาอยู่นี่ พื้นที่เรามีมากขึ้น ได้เล่นกับน้องหมา ได้ให้อาหารปลา และได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ”

เมื่อก่อนทำงานในกรุงเทพฯ เป็นหลัก ก็อยู่คอนโด จำได้ว่าตอนนั้นใช้เว็บไซต์ DDproperty หาคอนโดสำหรับเช่าเป็นหลักเลย เพราะสะดวกที่สุดแล้ว ดีกว่าเราจะไปขับรถตระเวนดูเอง ในนั้นมีข้อมูลที่ต้องการครบถ้วน มีรูป มีพิกัด แต่ว่ายังมีสิ่งที่เราอยากได้อีกอย่าง และยังไม่ค่อยเห็นเว็บไซต์ไหนมีก็คือ แผนที่ ไม่ใช่แผนที่แบบที่เปิด Googlemap แต่เป็นแผนที่ที่จะบอกได้ชัด ๆ ว่า จากสถานีรถไฟฟ้าเดินมาระยะทางเท่าไหร่ ประมาณกี่ก้าว จะมาถึงที่คอนโด เราจะประเมินการเดินทางได้จริง ๆ โดยเฉพาะคอนโดที่มีจุดขายว่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า เดินทางง่าย หรือใกล้ห้างสรรพสินค้า สามารถเดินไปได้ แบบนี้หากมีรูปให้เห็นชัด ๆ ว่าเดินไปประมาณกี่ก้าวแล้วถึงจุดหมาย จะทำให้ตัดสินใจง่ายขึ้น

ตั้งแต่ได้อยู่บ้านหลังนี้ นิยามคำว่าบ้านในฝันที่เราเคยคิดไว้ว่า เป็นสถานที่ที่อยู่แล้ว นอกจากจะใช้กินอยู่หลับนอนแล้ว ยังได้ใช้ชีวิตในแง่มุมอื่น ๆ ได้อย่างมีความสุขสำหรับครอบครัวด้วย ดังนั้นบ้านนี้เป็นมากกว่าบ้านในฝันที่นิยามเอาไว้

อย่างเราเองจะชอบห้องนอน อยู่ในห้องนอนได้ทั้งวันไม่เคยเบื่อเลย พื้นที่ใหญ่ จะดูหนัง อ่านหนังสือ ก็สุขใจ แฟนก็จะชอบห้องนั่งเล่น เพราะเป็นจุดที่เค้าได้พักผ่อนสบาย ๆ นั่งเล่นคอมพิวเตอร์ ดูหนัง เล่นเกม อยู่ในส่วนนั้นได้เป็นเวลานาน ๆ

มีเรื่องหนึ่งที่อยากเล่า เป็นเรื่องที่ไม่เจอกับตัวก็คงไม่เชื่อ คือ เจ้าที่ที่บ้านดีมาก แรงมากด้วย จำได้ว่าตอนสร้างบ้านเสร็จใหม่ ๆ ตอนนั้นเงินใกล้จะหมดแล้ว แต่เราก็ตั้งใจว่าจะตั้งศาลพระภูมิให้เจ้าที่ คือเป็นความคิดที่วนเวียนอยู่ในหัว แต่เงินน้อยจะทำไงดี ก็เลยไปอธิษฐานบอกท่านว่า ขอโชคขอลาภหน่อย อยากมีเงินมาทำศาลให้ ปรากฏว่างวดนั้นก็ถูกหวย ซึ่งเงินที่ได้ก็พอดีกับราคาตั้งศาลเลย รู้สึกจะเหลือทอนมาหลักสิบบาทเท่านั้นเอง แล้วตั้งแต่อยู่มาเราก็รู้สึกร่มเย็น แม้จะไม่ได้อยู่บ้านเวลาลงมาทำงานที่กรุงเทพฯ ปิดบ้านไว้ก็ไม่เคยมีเรื่องโจรขโมยมากวนใจเลย

อีกความรู้สึกที่ไม่เคยคิดเลยว่าจะเกิดขึ้นได้ คือความรู้สึกมั่นคงทางจิตใจ อันนี้เป็นเรื่องพิเศษมาก เหมือนว่าเมื่อก่อนนี้ทำงานแล้วเช่าคอนโดอยู่ คนภายนอกที่มองกลับมาเหมือนเราก็ไม่ได้มีความน่าเชื่อถือทั้งทางด้านการงาน ธุรกิจ หรือกระทั่งเรื่องการเงิน แต่พอมีบ้าน ยิ่งคนที่รู้จักกันมานาน ๆ เขายอมรับเรามากขึ้น ทำให้เรารู้สึกเป็นนัย ๆ ว่า นี่คือรางวัลของความสำเร็จ จากการทำงาน จากการทุ่มเท การเอาจริงเอาจัง จนตั้งหลักปักฐานได้ มันเป็นภาพลักษณ์ที่หนุนให้เราดูเติบโต น่าเชื่อถือมากขึ้น สะท้อนตัวเราว่าเรามีความมั่นคงในชีวิตมากขึ้น มีทรัพย์สินที่จับต้องได้

“อนาคตอาจจะมีขยายพื้นที่บ้าง หรือซื้อเก็บบ้างในระยะทางที่ไม่ไกลจากที่อยู่เดิม ส่วนบ้านนี้คงไม่ได้ขยายแล้ว เพราะตอนนี้รู้สึกว่าบ้านหลังนี้ลงตัวที่สุดแล้ว”