บ้านไม้เก่า 3 เรื่องควรรู้ก่อนซื้อ และวิธีดูแลให้อยู่ได้นาน

DDproperty Editorial Team
บ้านไม้เก่า 3 เรื่องควรรู้ก่อนซื้อ และวิธีดูแลให้อยู่ได้นาน
บ้านไม้เก่า หรือบ้านไม้ที่หลายคนคุ้นตา เอกลักษณ์ของแบบบ้านที่พบได้บ่อยในประเทศไทย อาจจะเป็นบ้านในฝันของใครหลายคนที่อยากได้บ้านสไตล์อบอุ่น ซึ่งปัจจุบันก็มีการซื้อขายบ้านไม้เก่า เพื่อนำไปรีโนเวทหรือตกแต่งใหม่อยู่มากมาย
แต่ขึ้นชื่อว่าบ้านไม้เก่าก็มีหลายเรื่องที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ รวมถึงวิธีดูแลรักษาที่จะช่วยยืดอายุให้บ้านไม้เก่าให้อยู่กับคุณไปนาน ๆ โดยเราได้รวบรวมกลเม็ดเคล็ดไม่ลับที่คุณควรรู้ก่อนเลือกซื้อบ้านไม้เก่ามาให้แล้ว

บ้านไม้เก่ามีลักษณะอย่างไร

ก่อนอื่นต้องบอกว่า "บ้านไม้เก่า" ที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้ ไม่ได้หมายถึงพวกบ้านไม้ทรงไทยโบราณที่มักเห็นกันในละครย้อนยุค แต่จะโฟกัสไปที่บ้านไม้เก่าแบบสมัยปัจจุบัน ที่อาจจะมาในรูปแบบของบ้านไม้ครึ่งชั้น มีชั้นล่างเป็นปูนและชั้นบนเป็นบ้านไม้ หรือบ้านไม้เก่าที่ยังคงโครงสร้างส่วนใหญ่เป็นไม้ อาจจะมีบันไดนอกบ้าน ยกใต้ถุนสูงครึ่งหลัง ซึ่งเป็นลักษณะของบ้านไม้เก่าที่พบได้บ่อยในประเทศไทย
ข้อดีของบ้านไม้เก่าเหล่านี้ คือความเท่ของเนื้อไม้และแบบโครงสร้างที่สามารถต่อเติมได้ง่าย เปลี่ยนสไตล์ได้หลายแบบ เช่น จะต่อเติมให้กลายเป็นบ้านแบบโมเดิร์น กึ่งปูนกึ่งไม้ หรืออยากได้แนวคันทรี่ เติมไม้ระแนงและตกแต่งทาสีใหม่ และตัวไม้จากบ้านไม้เก่ายังสามารถขายได้ราคาดี
อีกทั้งบ้านไม้เก่าส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยเจอปัญหาไม้ยืดหดหรือบิดงอ บ้านไม้เก่าจึงเป็นหนึ่งในแบบบ้านที่มีการซื้อขายมือสองกันค่อนข้างมาก เนื่องจากซื้อมาแล้วสามารถต่อเติมได้ในราคาที่อาจจะประหยัดกว่าการซื้อบ้านหลังใหม่นั่นเอง
บ้านไม้สองชั้น และวิธีดูแลรักษา

บ้านไม้สองชั้น และวิธีดูแลรักษา

ก่อนเลือกซื้อบ้านไม้เก่า ต้องพิจารณาอะไรบ้าง

แนวทางการเลือกซื้อบ้านไม้เก่าให้คุ้มค่า ให้พิจารณาจาก 3 ปัจจัยง่าย ๆ นั่นคือ งบประมาณ สภาพบ้านไม้เก่า และอนาคตของบ้านไม้เก่าที่คุณต้องการ โดยเริ่มจาก

1. อย่าลืมเข้าไปตรวจเช็กสภาพบ้านไม้เก่าก่อนตัดสินใจ

โดยหลังจากเจอบ้านไม้เก่าหลังที่ถูกใจ ควรจะมีการเข้าไปตรวจสอบดูสภาพบ้านไม้เก่าจริง ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญที่จะตรวจสอบสภาพของบ้านไม้เก่า ทั้งโครงสร้าง สภาพเนื้อไม้ รวมถึงพื้นที่อยู่อาศัยโดยรอบ ร่วมกับการพิจารณาแปลนบ้านไม้เก่าที่อยากต่อเติม เพื่อหาความเป็นไปได้ของการรีโนเวท
นอกจากนี้ยังต้องตรวจสอบงานระบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานระบบไฟฟ้า ระบบน้ำ และระบบอื่น ๆ คือสิ่งสำคัญที่ห้ามละเลยในการตรวจสอบอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะอาคารเก่าที่มีอายุมากกว่า 10 ปี มักจะมาพร้อมกับระบบที่มีความทรุดโทรม
การตรวจสอบอุปกรณ์สายไฟและท่อน้ำว่าสภาพเป็นอย่างไร และหากอาคารมีอายุเก่าเกินกว่า 15 ปี การเปลี่ยนระบบใหม่ทั้งหมด อาจจะคุ้มค่ากว่าการต้องทุบเพื่อซ่อมแซมทีละจุด ยกตัวอย่างวิธีตรวจสอบระบบไฟเบื้องต้น ดังนี้
จุดที่ต้องตรวจสอบวิธีตรวจสอบหรือปรับปรุง
แผงไฟติดตั้งได้เหมาะกับการใช้งาน
จุดปล่อยกระแสไฟฟ้าใช้งานได้ดี หรือต้องติดตั้งเต้าเสียบเพิ่ม
หลอดไฟเปลี่ยนหรือติดเพิ่มเติมในบางจุด
สวิตช์ไฟทุกจุดต้องใช้งานได้ตามปกติ
การเดินสายไฟเพิ่มเติมในจุดที่อยากใช้ไฟ แต่สายไฟไปไม่ถึง
รวมถึงก่อนที่จะลงมือซื้อขายบ้านไม้เก่า อย่าลืมว่าบ้านมือสองแต่ละหลังอาจจะไม่ได้ผ่านการอยู่อาศัยแค่เจ้าของบ้าน แต่อาจจะเป็นบ้านที่เคยผ่านการปล่อยเช่า ดังนั้นอย่าลืมเช็กประวัติอยู่อาศัยให้เรียบร้อย รวมถึงตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น โฉนดที่ดิน เป็นต้น
ตรวจสอบโฉนดที่ดิน ค้นหาแปลงที่ดิน 77 จังหวัด

ตรวจสอบโฉนดที่ดิน ค้นหาแปลงที่ดิน 77 จังหวัด

2. บ้านไม้เก่าหลังที่ต้องการ ยังต้องต่อเติมเพิ่มอีกมากน้อยแค่ไหน

ต่อเนื่องจากการตรวจสอบสภาพบ้านไม้ ในขั้นนี้คุณอาจจะเห็นว่าบ้านไม้เก่าแต่ละหลังที่เล็งไว้อาจจะมีสภาพความเก่าต่างกันไป รวมถึงแต่ละบ้านไม้เก่าอาจจะมีการปรับปรุงจากเจ้าของแล้วบ้างบางส่วน ดังนั้นอย่าลืมเช็กให้ดีว่าบ้านไม้เก่าหลังที่คุณต้องการนี้ ยังต้องมีการต่อเติมเพิ่มอีกแค่ไหน คุ้มค่ากับที่ตั้งงบประมาณไว้หรือไม่

3. รวมกันแล้ว อยู่ในงบประมาณที่ตั้งไว้หรือเปล่า

สุดท้ายคือการพิจารณางบประมาณทั้งหมด อย่าลืมว่าการซื้อขายบ้านไม้เก่าแต่ละหลังไม่ได้มีแค่ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมเท่านั้น แต่ยังมีค่าดำเนินการอื่น ๆ รวมถึงงบประมาณส่วนที่จะใช้ในการต่อเติมบ้านไม้เก่าอีกด้วย
ดังนั้นควรตกลงค่าใช้จ่ายสำหรับการซื้อบ้านไม้เก่าให้ชัดเจน เพราะผู้ขายบางรายอาจจะมีสัญญาเพิ่มเติม เช่น จะเปลี่ยนหลังคาใหม่ให้ หรือจะช่วยออกค่าปรับปรุงบางส่วนให้
จุดนี้จะเป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นหรือไม่ ควรมีการทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรให้เรียบร้อย เช่น ใครเป็นผู้จ่ายอะไร รวมทั้งเงื่อนไขการจ่ายเงินมัดจำ เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดและข้อขัดแย้งกันในภายหลัง
บ้านไม้เก่า 3 เรื่องควรรู้ก่อนซื้อ และวิธีดูแลให้อยู่ได้นาน

วิธีการดูแลบ้านไม้เก่า

สำหรับใครที่ตัดสินใจเลือกซื้อบ้านไม้เก่าแล้ว อยากรู้ว่าจะต้องดูแลบ้านไม้เก่าแบบไหน ให้สามารถยืดอายุการใช้งานบ้านไม้เก่าได้นาน ๆ ขอบอกว่าไม่ยาก วิธีการดูแลรักษาบ้านไม้เก่านั้นง่ายมาก คล้ายกันกับการดูแลรักษาบ้านไม้ทั่วไป ดังนี้
1. ถ้าเนื้อไม้ของบ้านไม้เก่าภายนอกเกิดการหลุดร่อน มีรอยแตก สามารถขัดสีที่ลอกล่อนออกให้เห็นถึงเนื้อไม้ จากนั้นไสเนื้อไม้ให้เรียบแล้วลงสีย้อมไม้ใหม่ ประมาณ 2-3 ชั้น จะช่วยปกป้องเนื้อไม้ของบ้านไม้เก่าจากสภาพแวดล้อมเช่นแสงแดด ฝน และลมนอกบ้าน
2. อย่าลืมป้องกันมอด และปลวกขึ้นบ้านไม้เก่า ด้วยการทาน้ำยาป้องกันแมลงกินไม้ และหมั่นฉีดกำจัดปลวกอยู่เสมอ
วิธีกำจัดปลวกด้วยตัวเอง

วิธีกำจัดปลวกด้วยตัวเอง

3. รักษาสภาพพื้นไม้ภายในบ้านไม้เก่าจากรอยขีดข่วนต่าง ๆ ด้วยการทาน้ำยาเคลือบผิว ซึ่งอาจจะเลือกใช้แบบชนิดฟิล์ม จะเหลืองขุ่นน้อยกว่าการทาแล็กเกอร์
4. ทำความสะอาดพื้นไม้ภายในบ้านไม้เก่า ด้วยการปัดฝุ่น ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดถู และใช้ผ้าแห้งเช็ดให้สะอาด และหมั่นตรวจสอบสภาพของเนื้อไม้อยู่เสมอ
5. ดูแลโครงสร้างบ้านไม้เก่าภายนอกก่อนเสมอ และควรตรวจสอบสภาพรวมถึงซ่อมแซมต่าง ๆ ให้เรียบร้อยภายในฤดูร้อน เพื่อป้องกันเนื้อไม้ของบ้านไม้เก่าที่อาจจะโก่งตัว เมื่อฤดูฝนมาเยือน
เพียงเท่านี้การเลือกซื้อและเลือกอยู่อาศัยในบ้านไม้เก่าก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป และบ้านไม้เก่ายังเหมาะสำหรับใครที่ต้องการบ้านสไตล์อบอุ่น ที่สำคัญธรรมชาติของบ้านไม้เก่ายังมีข้อดี คือตัวบ้านสามารถ่ายเทอากาศได้สะดวก รวมถึงยังถ่ายเทความร้อนได้อย่างรวดเร็ว ทำให้บ้านไม้เก่ามักให้ความรู้สึกโล่งสบาย และไม้ยังง่ายต่อการซ่อมแซม รวมถึงเนื้อไม้เก่าส่วนที่ไม่ใช้ยังสามารถนำไปขายต่อได้อีกด้วย
ดังนั้นการเลือกซื้อบ้านไม้เก่าอาจจะไม่ใช่เรื่องน่ากังวลเสมอไป ตราบใดที่เราศึกษาข้อดี ข้อด้อย ได้ตรวจสอบสภาพบ้านไม้เก่าเสียก่อน เพียงเท่านี้ก็จะได้เป็นเจ้าของบ้านไม้เก่าหลังสวยที่จะอยู่กับคุณไปได้อีกนาน
สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า