เพื่อนบ้านถ้ามาดีก้ถือว่าโชคดีแต่ถ้ามาร้ายก็ต้องถือว่าเข้าขั้นซวย เพราะก่อนที่จำทำการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยทางโครงการบ้านจัดสรรต่าง ๆ ก็ไม่ได้มีให้เลือกนิสัยเพื่อนบ้านไว้ด้วย ดังนั้นทางที่ดีที่สุดเมื่อมีเพื่อนบ้านย้ายเข้ามาหรือเราย้ายไปอยู่ในโครงการบ้านจัดสรรก็คือการสมานฉันท์กันด้วยการพูดคุย รอยยิ้ม และการซื้อของฝาก เป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน
แต่สำหรับใครที่ปฏิบัติตนกับเพื่อนบ้านมาอย่างดีตลอด แต่กับเจอปัญหาที่เพื่อนบ้านกระทำและส่งผลกระทบมาถึงบ้านของเราไม่หยุดหย่อน ตั้งแต่การจอดรถขวางหน้าบ้าน กระทำการที่มีการส่งกลิ่นอันไม่พึงประสงค์มาในบ้านของเรา ตลอดจนการส่งเสียงดังรบกวนคนอื่น ซึ่งขั้นต้นอาจจะมีการพูดจาตักเตือนด้วยความสุภาพอ่อนน้อมกันไปบ้างแล้ว แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้พฤติกรรมแย่ ๆ ของเพื่อนบ้านลดลงเลยก็ต้องเอากฎหมายเข้ามาช่วยเตือนสติเพื่อนบ้านกันหน่อย
ปัญหาเพื่อนบ้าน: รถ กลิ่น เสียง 3 ปัญหาที่จัดการได้ด้วยกฎหมาย
เพื่อนบ้านที่ชอบจอดรถขวางทางเข้า–ออกบ้านคนอื่น
แน่นอนเมื่อเจอปัญหานี้สิ่งแรกที่เกิดขึ้นคือเดินไปหาเพื่อนบ้านเจ้าของรถแล้วขอให้เพื่อนบ้านช่วยเลื่อนรถออกจากประตูทางเข้า – ออก บ้าน
แต่รู้ไหมการไปเตือนครั้งแรกก็หมายถึงการห้ามไม่ให้มาจอดขวางทางหน้าบ้านของเรา ถ้าเพื่อนบ้านยังทำครั้งที่ 2 แสงดงว่าเขาเริ่มที่จะเห็นว่าหน้าบ้านเราสามารถจอดรถได้ และก็จะมีครั้งที่ 3 และ 4 ต่อมาเรื่อย ๆ จนกลายเป็นที่จอดประจำ
ดังนั้นหากใครที่เจอปัญหานี้อันดับแรกให้พูดคุยเจรจาเพื่อให้เพื่อนบ้านที่มีพฤติกรรมดังกล่าวเข้าใจ แต่ถ้าการพูดคุยไม่สามารถแก้ไขนิสัยของเพื่อนบ้านที่ชอบจอดรถขวางทางได้ก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานท้องถิ่นได้เลย โดยอ้างอิงประมวลกฎหมายอาญาตามมาตรา 397 หมวดลหุโทษว่า
“ผู้ใดในที่สาธารณสถานหรือต่อหน้าธารกำนัล กระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นที่การรังแกหรือข่มเหงผู้อื่น หรือกระทำให้ผู้อื่นได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
เพื่อนบ้านที่ชอบส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์รุนแรงไปสู่บ้านคนอื่น
อีกหนึ่งปัญหาที่ต้องบอกว่าหลีกเลี่ยงได้ยากมากสำหรับบ้านจัดสรรแนวทาวน์โฮมหรือบ้านแฝดที่มีรั้วติดกัน เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้ง่ายมาก ๆ จากการทำอาหารที่ครั้วหลังบ้าน
ซึ่งในปัจจุบันเราก็น่าจะเคยเห็นข่าวอันเป็นที่น่าสลดใจจากการทะเลาะกันและมีผู้เสียชีวิตโดยมีต้นเหตุมาจากกลิ่นของการประกอบอาหารด้วย ดังนั้นเมื่อเกิดปัญหาที่ป้องกันไม่ได้ เราควรจะเริ่มจากตนเองด้วยการติดตั้งครัวนอกบ้านให้มีความมิดชิดไม่รบกวนผู้อื่น แต่ถ้าเพื่อนบ้านยังคงต้ม ผัด พริก แกง ตลอดจนมีการปรับปรุงต่อเติมบ้านด้วยการใช้สารเคมีที่มีกลิ่นรุนแรง อันตรายต่อสุขภาพ
อารมณ์ยิ่งเตือนยิ่งทำ ยิ่งว่ายิ่งประชด ก็คงต้องใช้กฎหมายเข้ามาครอบคลุมในเรื่องนี้ด้วยการร้องเรียนเหตุรำคาญ โดยอ้างอิงพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 ตามบทบัญญัติมาตราที่ 25 กำหนดว่า
“ในกรณีที่มีเหตุอันอาจก่อให้เกิดความเดือดร้อน แก่ผู้อยู่อาศัยบริเวณใกล้เคียง หรือผู้ต้องประสบกับเหตุนั้น ดังต่อไปนี้ ให้ถือว่า เป็นเหตุรำคาญ เช่น แหล่งน้ำ ทางระบายน้ำ ที่อาบน้ำ ส้วม หรือที่ใส่มูล หรือเถ้า การเลี้ยงสัตว์ในที่ หรือวิธีใด หรือมีจำนวนเกินสมควร การกระทำใด ๆ อันเป็นเหตุให้เกิดกลิ่น แสง รังสี เสียง ความร้อน สิ่งมีพิษ ความสั่นสะเทือน ฝุ่นละออง เขม่า เถ้า”
เพื่อนบ้านที่ชอบส่งเสียงรบกวนน่ารำคาญไปสู่บ้านคนอื่น
“ที่เดียวไอ้น้อง คืนนี้พี่จองโต๊ะมุมด้านใน” หนึ่งเพลงฮิตในวงเหล้านามว่า ราชันย์ฝันสลาย ของพี่แอ๊ด คาราบาว ยังคงเป็นเพลงฮิตตลอดการในวงปาร์ตี้ของกลุ่มเพื่อน และเสียงเพลงนี้คงไม่ไพเราะเสนาะหูเท่าไรหากออกมาจากปากของกลุ่มเพื่อนบ้านขี้เมาที่จัดปาร์ตี้กันเป็นประจำทุกวันและส่งเสียงดังรบกวนเวลาหลับเวลานอน
ครั้นจะเดินไปเตือนก็จะเสี่ยงอันตรายจากบุคคลที่ขาดสติจากสุรา หรือ หากมีการเตือนบ่อยครั้งแล้วแต่ยังมีการทำอีก การจะไปเตือนเมื่อเกิดเหตุน่ารำคาญแบบนี้ทุกวันก็คงจะไม่ไหว ควรมีการให้ความรู้แก่เพื่อนบ้านด้านกฎหมายไว้ติดตัวบ้างเพื่อไม่ให้ละเมิดสิทธิของผู้อื่น
ซึ่งทั้งนี้เอง กฎหมายจะระบุเวลาเงียบสงบ เพื่อไม่เป็นการรบกวนเพื่อนบ้านตั้งแต่ในช่วงระหว่างเวลา 22.00 น. จนถึง 07.00 น. สำหรับวันธรรมดา และกรณีวันหยุดตั้งแต่เวลา 22.00 น. จนถึง 09.00 น.
ดังนั้นเราไม่ควรจะส่งเสียงในช่วงเวลานั้นเพื่อไม่ละเมิดสิทธิของคนอื่น ซึ่งหากมีการตักเตือนไปแล้วเพื่อนบ้านจอมปัญหายังไม่หยุดสร้างความรำคาญทางเสียงให้ไม่ว่าจะเป็นวงเหล้า การต่อเติมบ้าน เสียงจากวิทยุ โทรทัศน์ การร้องคาราโอเกะ ก็สามารถอ้างอิงจากกฎหมายดำเนินคดีแก่บุคคลเหล่านี้นได้ ตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 มาตรา 370 ว่าด้วย
“ผู้ใดส่งเสียงหรือทําให้เกิดเสียงหรือกระทําความอื้ออึงโดยไม่มีเหตุอันควรจนทําให้ประชาชนตกใจหรือเดือดร้อน ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 100 บาท”
ทั้งนี้ก่อนที่จะนำกฎหมายซึ่งเป็นมาตรการขั้นเด็ดขาดในการจัดการเพื่อนบ้านที่ขยันในการสร้างความรำคาญให้ก็ควรพูดจากันด้วยความสมานฉันท์ เพราะการเป็นเพื่อนบ้านกันจะต้องอยู่ร่วมกันไปอีกนาน ฉะนั้นการไม่มีปัญหาต่อกันถือเป็นอะไรที่ดีที่สุดในสังคมของหมู่บ้าน ส่วนเรื่องกฎหมายแท้จริงก็สำคัญไม่แพ้กันควรศึกษาไว้ให้ดีเผื่อวันหนึ่งเราผู้เป็นคนที่เดือดร้อนจะต้องนำข้อกฎหมายต่าง ๆ มาใช้ป้องกันปัญหาต่าง ๆ จากเพื่อนบ้าน
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กิตติคม พจนี Content Writer ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kittikom@ddproperty.com
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน