เป็นเรื่องธรรมดาที่เพื่อนบ้าน ที่อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงกันก็อาจจะมีเรื่องที่ไม่ชอบใจกันบ้าง กระทบกระทั่งกันบ้าง แต่ในหลาย ๆ ครั้ง เรื่องกระทบกระทั่ง หรือไม่พอใจกันก็เลยเถิดจนกลายเป็นเหตุทะเลาะวิวาทหรืออาชญากรรมอย่างที่เรามักเห็นตามหน้าข่าวหนังสือพิมพ์
บทความครั้งนี้ ผมจะพาท่านผู้อ่านไปศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกระทบกระทั่งกันระหว่างเพื่อนบ้านครับ
เพื่อนบ้านสร้างปัญหาเป็นความผิดตามกฎหมายหรือไม่
ปัญหาส่วนมากที่มักพบระหว่างเพื่อนบ้านก็ได้แก่ การจอดรถกีดขวาง การสร้างเสียงดัง กลิ่น ความสกปรก ซึ่งเหล่านี้เป็นความผิดลหุโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 370 และ 397 ครับ
- มาตรา 370 ผู้ใดส่งเสียง ทำให้เกิดเสียงหรือกระทำความอื้ออึงโดยไม่มีเหตุอันสมควร จนทำให้ประชาชนตกใจหรือเดือดร้อน ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท
- มาตรา 397 ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ ต่อผู้อื่นอันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม หรือกระทำให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท
เรื่องเสียงดังก็จะเป็นความผิดตามมาตรา 370 ข้างต้น ส่วนกรณีจอดรถกีดขวาง กลิ่น ความสกปรก ก็เป็นความผิดฐานสร้างความเดือดร้อนรำคาญตามมาตรา 397 ครับ
นอกจากโทษตามประมวลกฎหมายอาญาข้างต้นแล้ว ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากเพื่อนบ้านกรณีกลิ่น หรือความสกปรกก็อาจร้องเรียนต่อหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อให้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 และพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ซึ่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจจัดการสั่งผู้ทำผิดกฎหมายให้แก้ไข หากไม่ทำตามก็มีโทษทางอาญาแล้วแต่กรณีด้วย
เรียกร้องค่าเสียหายได้ไหม
ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเรื่องความรับผิดทางอาญา ที่กฎหมายจะลงโทษกับผู้กระทำความผิด โดยโทษจำคุก หรือ โทษปรับ แต่ในฐานะเจ้าของบ้านที่ได้รับความเสียหายเดือดร้อนรำคาญ เราก็มีสิทธิที่จะเรียกร้องค่าเสียหายได้ตามกฎหมายแพ่ง เรื่องละเมิด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 420 และมาตรา 421 ด้วยครับ
- มาตรา 420 ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิดจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น
- มาตรา 421 การใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะให้เกิดเสียหายแก่บุคคลอื่นนั้น ท่านว่าเป็นการอันมิชอบด้วยกฎหมาย
กรณีมาตรา 421 นี้เองที่เป็นเรื่องที่น่าสนใจครับ นักกฎหมายเรียกว่าใช้สิทธิเกินส่วน โดยปกติแล้ว การที่บุคคลใช้สิทธิของตนเองตามกฎหมายถือเป็นเรื่องที่ทำได้ แม้จะทำให้ผู้อื่นได้รับผลกระทบบ้างก็ตาม แต่เรื่องการใช้สิทธิเกินส่วนตามมาตรา 421 นี้ คือ การใช้สิทธิที่ทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อนเกินควรคาดคิดหรือคาดหมายได้ว่าเป็นไปตามปกติหรือตามเหตุอันควร ก็ถือเป็นละเมิด ต้องชดใช้ค่าเสียหาย ตัวอย่างเช่น
- คำพิพากษาฎีกาที่ 1581/2538 ก่อสร้างหลุมฝังศพติดกับที่ดินของเพื่อนบ้านเพียง 10 เมตร แม้จะได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.สุสานและฌาปนกิจแล้วก็ตาม เป็นละเมิด
- คำพิพากษาฎีกาที่ 780/2538 เจ้าของรวมในที่ดินคนหนึ่งสามารถใช้สิทธิได้ทุกส่วนของที่ดิน แต่การปลูกบ้านคร่อมทางที่เจ้าของรวมคนอื่นใช้เป็นปกติถือเป็นละเมิด
เมื่อเป็นละเมิดตามมาตรา 420 หรือ 421 ข้างต้นแล้ว ผู้ได้รับความเดือดร้อนสามารถฟ้องคดีต่อศาลเพื่อเรียกค่าเสียหาย และขอให้ศาลบังคับให้จำเลยหยุดกระทำการอันเป็นละเมิด หรือ แก้ไข หรือ หากสภาพเดือดร้อนนั้นไม่สามารถแก้ไขให้คืนดังเดิมได้ ก็สามารถเรียกค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเติมได้ครับ
ตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น กรณีที่เราได้รับความเดือดร้อนจากเพื่อนบ้านเกินสมควร กฎหมายได้คุ้มครองรับรองสิทธิของเราไว้ ทั้งกฎหมายแพ่งและกฎหมายอาญา แต่ทั้งนี้ ในการอยู่ร่วมกัน ก็ควรถ้อยทีถ้อยอาศัย ไม่คำนึงถึงแต่ตัวเองมากจนเกินไป เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้จะดีที่สุดครับ
เรื่องข้างต้นเขียนโดย ปกรณ์ อุ่นหิรัญสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอว์ แอนด์ เอควิตี้ จำกัด หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ pakorn@lawandequity.co
สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ