ปั๊มน้ำเลือกอย่างไรให้เหมาะกับบ้าน

ปั๊มน้ำ ตัวช่วยสำคัญในบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านที่มีมากกว่า 1 ชั้น จะยิ่งต้องหามาใช้งาน เพื่อให้การอาศัยในบ้านสบายยิ่งขึ้น ไม่ต้องหงุดหงิดกับปัญหาน้ำไหลเบา หรือไม่ไหลเมื่ออยู่บ้านชั้นบน แต่สำหรับผู้ที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกใช้งานปั๊มน้ำแบบใด เพราะมีเรื่องที่ต้องพิจารณาหลายด้าน ลองมาดูข้อมูลเกี่ยวกับปั๋มน้ำเพื่อเลือกให้เหมาะสมกับบ้านของคุณได้ที่นี่

ปั๊มน้ำเป็นตัวช่วยสำคัญในการแก้ปัญหาน้ำไหลเบา โดยจะช่วยส่งน้ำให้แรงขึ้น-เร็วขึ้น จุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่งด้วยแรงดัน โดยปั๊มน้ำหลัก ๆ จะมีด้วยกัน 2 ประเภท คือ ปั๊มน้ำชนิดถังแรงดัน และปั๊มน้ำชนิดแรงดันคงที่ โดยมีรายละเอียดดังนี้

ปั๊มน้ำทรงกระบอก การทำงานของปั๊มน้ำชนิดนี้จะใช้หลักการให้น้ำไปแทนที่อากาศ เพื่อใช้แรงดันของอากาศในปั๊มดันน้ำออกไปยังส่วนต่าง ๆ ของบ้าน ปั๊มน้ำชนิดนี้จะทนทาน ราคาถูก และอะไหล่หาง่าย แต่แรงดันน้ำจะไม่สม่ำเสมอ หากเปิดใช้งานพร้อมกันความแรงของน้ำแต่ละจุดอาจจะไม่เท่ากัน ปั๊มน้ำตัดการทำงานบ่อย ทำให้ต้องไล่เช็กลมและปล่อยน้ำอยู่เสมอ

ปั๊มน้ำทรงเหลี่ยม รูปร่างค่อนข้างสวยงามและทันสมัย การทำงานจะให้แรงดันน้ำสม่ำเสมอ หากรุ่นที่มีราคาสูงจะมีฟังก์ชั่นควบคุมน้ำอัจฉริยะ สามารถตรวจสอบแรงดันน้ำที่เปลี่ยนแปลงแบบอัตโนมัติ หรือตั้งแรงดันได้ตามต้องการ เหมาะสำหรับบ้านที่มีการใช้น้ำหลายจุด และอุปกรณ์ที่ต้องการแรงดันน้ำคงที่ เช่น เครื่องซักผ้า, เครื่องทำน้ำอุ่น และ Rain shower ข้อดีของปั๊มน้ำชนิดนี้คือ แรงดันน้ำคงที่ เสียงเบา ขนาดไม่ใหญ่ และประหยัดไฟฟ้ากว่า แต่แน่นอนว่าราคาค่อนข้างสูง

ปั๊มน้ำที่เหมาะสมกับบ้านของคุณ จะต้องพิจารณาหลายด้าน ดังนี้

– ปริมาณการใช้งานต่อวัน

– จุดที่ใช้น้ำในบ้านทั้งหมด (ในบ้านและนอกบ้าน)

– โอกาสและช่วงเวลาที่ใช้น้ำพร้อมกัน (พิจารณารวมถึงจำนวนสมาชิกในบ้าน)

– ความสูงของบ้าน

– ตำแหน่งที่ติดตั้งปั๊มน้ำ

– งบประมาณ

ปั๊มน้ำมีด้วยกันหลายขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งานต่างกัน แม้ว่าปั๊มน้ำที่มีกำลังวัตต์สูง มองเผิน ๆ อาจจะดี แต่อาจจะมีกำลังวัตต์มากไปไม่เหมาะสมกับบ้านคุณ ลองมาดูว่าปั๊มน้ำแต่ละขนาดเหมาะกับบ้านลักษณะไหนบ้าง

– ปั๊มน้ำ ขนาด 300 วัตต์ เหมาะกับบ้านสูงไม่เกิน 4 ชั้น ใช้น้ำพร้อมกันได้ 3 จุด รวมถึงเครื่องทำน้ำอุ่นพร้อมกัน 2 เครื่อง

– ปั๊มน้ำ ขนาด 250 วัตต์ เหมาะสำหรับบ้านสูงไม่เกิน 4 ชั้น ใช้น้ำพร้อมกัน 3 จุด รวมถึงเครื่องทำน้ำอุ่น 1 เครื่อง

– ปั๊มน้ำ ขนาด 200 วัตต์ เหมาะสำหรับบ้านสูงไม่เกิน 3 ชั้น ใช้น้ำพร้อมกัน 2 จุด รวมถึงเครื่องทำน้ำอุ่น 1 เครื่อง

– ปั๊มน้ำ ขนาด 150 วัตต์ เหมาะสำหรับบ้านสูงไม่เกิน 2 ชั้น ใช้น้ำพร้อมกัน 2 จุด รวมถึงเครื่องทำน้ำอุ่น 1 เครื่อง

– ปั๊มน้ำ ขนาด 100 วัตต์ เหมาะสำหรับบ้านสูงไม่เกิน 2 ชั้น ใช้น้ำพร้อมกัน 2 จุด

เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าจะต้องขนาดปั๊มน้ำเท่าไหร่ มาถึงขั้นตอนที่ต้องเตรียมบ้านให้เหมาะกับการติดตั้งปั๊มน้ำ ดังนี้

จุดติดตั้งที่เหมาะสมกับบ้าน เพื่อให้ปั๊มน้ำทำงานได้ดี และมีอายุการใช้งานนานขึ้น คือ

– ติดตั้งปั๊มน้ำในระดับพื้นดิน ใต้ชายคาบ้าน และไม่มีน้ำท่วมขัง

– ไม่ควรติดตั้งปั๊มน้ำไว้ชิดผนัง เนื่องจากปั๊มน้ำเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความร้อนขณะทำงาน โดยควรติดตั้งห่างจากกำแพงประมาณ 15 เซนติเมตร เพื่อให้ระบายความร้อนได้ดีและซ่อมบำรุงได้สะดวก

– ไม่ควรติดตั้งปั๊มน้ำไว้ใกล้ห้องที่ต้องการความสงบ เช่น ห้องนอน เนื่องจากปั๊มน้ำมีโอกาสที่จะทำงานทั้งวันทั้งคืน ซึ่งอาจส่งเสียงรบกวนผู้อยู่อาศัยในบ้านได้

การติดตั้งปั๊มน้ำอย่างถูกวิธีและถูกกฎหมายคือต้องต่อท่อน้ำประปาจ่ายน้ำเข้าในถังเก็บน้ำก่อนเสมอ แล้วจึงค่อยต่อกับปั๊มน้ำ โดยขนาดของถังเก็บน้ำในบ้าน ต้องเลือกขนาดที่เพียงพอต่อการใช้งานของคนในบ้าน หากอิงจากปริมาณการใช้น้ำของสมาชิกในบ้าน ซึ่งเฉลี่ยประมาณ 200 ลิตรต่อวันต่อคน จะมีวิธีคำนวณง่าย ๆ ดังนี้

จำนวนคน x 200 = ปริมาณน้ำที่ใช้ในแต่ละวัน

ดังนั้น หากมีสมาชิกในบ้าน 4 คน จะเท่ากับ 4 x 200= 800 ลิตรต่อวัน หากเผื่อในกรณีฉุกเฉินหากน้ำไม่ไหลไปอีก 2-3 วัน ถังน้ำสำหรับบ้านนี้จึงควรมีขนาด 1,500 -2,500 ลิตร