ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ หรือที่เรียกกันง่าย ๆ ว่า เอเจนต์หรือนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นชื่อเรียกที่เราคุ้นเคยกันดี แต่อาจไม่แน่ใจว่าแท้จริงแล้วตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ ทำงานอย่างไร และแบ่งเป็นกี่ประเภท DDproperty อยากชวนมาทำความรู้จักอาชีพตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยกัน
อ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
- ประเภทของตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย
- ค่าใช้จ่ายจากการใช้บริการตัวแทนอสังหาริมทรัพย์
- เลือกตัวแทนอสังหาริมทรัพย์อย่างไรให้ได้คนที่น่าเชื่อถือ
4 ประเภทของตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย
1. ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ท้องถิ่น
ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์หรือนายหน้าประเภทนี้เกิดขึ้นเองจากการที่ผู้ซื้อบอกความต้องการซื้อผ่านคนรู้จัก ขณะเดียวกันผู้ขายก็บอกความต้องการขายไปยังคนรอบข้าง แล้วเกิดการบอกต่อ ๆ กันไป
ยกตัวอย่าง เพื่อนบ้านของคุณมาบอกว่าต้องการขายบ้าน และเพื่อนร่วมงานของคุณเองก็ต้องการซื้อบ้านเช่นกัน คุณจึงนำความต้องการของทั้งสองฝ่ายมาบอกกัน ในที่สุดเพื่อนบ้านของคุณก็ขายบ้านให้เพื่อนร่วมงานของคุณ โดยมีคุณเป็นตัวกลางที่ประสานการติดต่อและได้รับส่วนแบ่งจากการขายบ้านนั้น เท่ากับว่าคุณเป็นนายหน้าท้องถิ่นไปโดยปริยาย
ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์นายหน้าท้องถิ่นจึงมีจำนวนมากที่สุด โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นผู้ที่กว้างขวางในแต่ละพื้นที่ เช่น เพื่อนบ้าน หัวหน้าชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน เป็นต้น
ค้นหาเอเจนต์
รวมเอเจนต์ที่ยืนยันตัวตนแล้ว หรือ Verified Agents
2. ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ตัวแทน
ที่เรียกว่าตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ตัวแทนหรือนายหน้าตัวแทนเป็นเพราะนายหน้าประเภทนี้เป็นตัวแทนของผู้ซื้อหรือผู้ขายฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยตรง โดยตัวแทนจะได้รับมอบหมายให้เป็นคนติดต่อกับอีกฝ่าย
ถ้าเป็นตัวแทนของผู้ขายก็จะเป็นคนที่ติดต่อกับนายหน้าหรือผู้ซื้อ แล้วนายหน้าตัวแทนจะได้รับส่วนแบ่งซึ่งกันเอาไว้จากส่วนแบ่งของนายหน้าอีกทีหนึ่ง โดยไม่ว่านายหน้าคนไหนจะขายได้ก็ต้องให้ส่วนแบ่งแก่นายหน้าตัวแทน
แต่ถ้าเป็นตัวแทนของผู้ซื้อก็จะเป็นตัวแทนที่ติดต่อกับผู้ขายหรือนายหน้าก็จะได้ส่วนแบ่งจากนายหน้าหรือผู้ขายเช่นกัน นายหน้าประเภทนี้เกิดขึ้นเพียงเพราะเป็นคนที่เข้ามาคั่นกลางระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย

3. ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์โครงการ
ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ประเภทนี้จัดเป็นนายหน้าวิชาชีพซึ่งทำงานภายใต้องค์กรที่เป็นบริษัทหรือนิติบุคคล ทำงานเป็นทีม มีการบริหารงานผ่านฝ่ายต่างๆ อย่างเป็นระบบ เช่น ฝ่ายการตลาด ฝ่ายขาย ฝ่ายสินเชื่อ ฝ่ายกฎหมาย เป็นต้น นายหน้าโครงการจะเข้ามาประจำโครงการจัดสรรต่าง ๆ โดยรับผิดชอบการขายโครงการให้เจ้าของโครงการ
ส่วนใหญ่ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์โครงการมักจะเป็นบริษัทซึ่งแยกตัวออกมาจากบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อดำเนินกิจการเกี่ยวกับการขายเพียงอย่างเดียวให้กับโครงการต่าง ๆ ของบริษัทพัฒนาอสังหาฯ นายหน้าประเภทนี้เรารู้จักกันดี คือ พนักงานขายประจำโครงการต่าง ๆ
4. ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์โบรกเกอร์และตัวแทนอสังหาริมทรัพย์สมทบ
ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์โบรกเกอร์หรือนายหน้าโบรกเกอร์ เป็นนายหน้าที่จัดตั้งบริษัทหรือจดทะเบียนนิติบุคคลขึ้นมาเพื่อดำเนินกิจการด้านการเป็นตัวแทนอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะ โดยนายหน้าโบรกเกอร์จะไม่ได้ทำหน้าที่ออกไปติดต่อกับผู้ซื้อหรือผู้ขายด้วยตนเองแต่มีหน้าที่บริหารโดยส่งพนักงานขายในสังกัดของตนออกไปพบลูกค้า ซึ่งพนักงานขายในสังกัดนี้เรียกว่านายหน้าสมทบ
โดยตัวแทนอสังหาริมทรัพย์โบรกเกอร์มีทั้งที่มาจากนายหน้าอิสระหรือการซื้อแฟรนไชส์ธุรกิจนายหน้าจากบริษัทโบรกเกอร์ต่างประเทศเข้ามาเปิดในไทย ทำให้มีประสบการณ์ และมาตรฐานการทำงานในลักษณะความเป็นวิชาชีพ ซึ่งนายหน้าโบรคเกอร์จะถ่ายทอดความรู้และฝึกอบรมแก่นายหน้าสมทบ
นอกจากนี้ยังมีการบริการที่ครบวงจรมากกว่านายหน้าตัวแทนและนายหน้าท้องถิ่น
ค่าใช้จ่ายจากการใช้บริการตัวแทนอสังหาริมทรัพย์
ทั้งนี้ อัตราค่าใช้บริการตัวแทนอสังหาริมทรัพย์นั้นมีความแตกต่างกันไปบ้างตามแต่ละพื้นที่ และบริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ (โบรกเกอร์) มีดังนี้
| ทำเล | ค่านายหน้าอสังหา 2568 |
| กรุงเทพฯ | 3% |
| เชียงใหม่ | 3% |
| ภูเก็ต | 3% |
| หัวหิน | 3% |
| อุดรธานี | 3% |
| พัทยา | 3-10% |
หมายเหตุ: ค่าใช้บริการตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ข้างต้นเป็นเพียงค่าบริการโดยทั่วไปเท่านั้น ก่อนใช้บริการควรสอบถามนายหน้าอีกครั้งหนึ่ง
เลือกตัวแทนอสังหาริมทรัพย์อย่างไรให้ได้คนที่น่าเชื่อถือ
สำหรับผู้ที่กำลังใช้บริการตัวแทอสังหาริมทรัพย์หรือเอเจนต์แต่ไม่แน่ใจว่าจะเลือกอย่างไรดี ทาง DDproperty มองเห็นถึงความสำคัญในการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ที่ต้องการผู้ช่วยสำคัญอย่างเอเจนต์ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า จึงได้ริเริ่มโครงการ "การยืนยันตัวตนเอเจนต์ (Agent Verification)" เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเอเจนต์
Agent Verification คืออะไร
Agent Verification คือ โปรแกรมการยืนยันตัวตนและการรับรองเอเจนต์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อและความเป็นมืออาชีพให้กับเอเจนต์ โดยแบ่งเป็น

Agent Verification (การยืนยันตัวตนเอเจนต์) และ Agency Verification (การยืนยันตัวตนของบริษัทเอเจนต์อสังหาฯ) จะช่วยให้แพลตฟอร์มของเรามีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยมากขึ้น เราจึงให้เอเจนต์ลงทะเบียนยืนยันตัวตนและแสดงข้อมูลการติดต่อ โดยใช้หลักฐานดังนี้
- เอกสารทางราชการที่มีรูปถ่าย เช่น บัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต พร้อมถ่ายหน้าเอเจนต์และบัตรประชาชนเพื่อยืนยันตัวตน
- Line ID
- เบอร์โทรศัพท์
- อีเมล
หากเป็นเอเจนต์ที่มีสังกัดบริษัทเอเจนต์อสังหาฯ จะต้องส่งเอกสารอย่างใดอย่างหนึ่งด้านล่างนี้ เพื่อระบุบริษัทเอเจนต์อสังหาฯ ที่สังกัดอยู่ได้อย่างถูกต้อง
- หนังสือรับรองการเป็นเอเจนต์ของบริษัทเอเจนต์อสังหาฯ ที่สังกัดอยู่ หรือ
- นามบัตรที่ออกให้โดยบริษัทเอเจนต์อสังหาฯ หรือนามบัตรที่ใช้รูปแบบของบริษัทเอเจนต์อสังหาฯ หรือ
- ใบสลิปค่าคอมมิชันที่แสดงชื่อบริษัทเอเจนต์อสังหาฯ และชื่อของเอเจนต์
ส่วนการยืนยันตัวตนของบริษัทเอเจนต์อสังหาฯ จะต้องยื่นเอกสารดังนี้
- หนังสือรับรองบริษัท หรือ ภ.พ.20
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของบริษัท
- Official Account Line ID (หรือ Facebook/LinkedIn ของบริษัท)
- อีเมล
หลังจากที่ทราบในเรื่องของประเภทและวิธีการเลือกนายหน้ากันแล้วว่ามีอะไรบ้าง ถึงคราวที่จะต้องทำความรู้จักกับสัญญานายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากสำหรับผู้ซื้อ
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย เชษฐพล มานิตย์ นักเขียนออนไลน์ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kittikom@ddproperty.com
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ


