ซ่อมเครื่องซักผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนที่ต้องมีแทบทุกบ้าน เมื่อใช้ไปนาน ๆ ก็ย่อมต้องเสื่อมสภาพหรือเกิดปัญหาขัดข้องขึ้นได้เป็นธรรมดา จริงอยู่ว่าวิธีที่ดีที่สุดคือการส่งซ่อมกับช่างโดยตรง แต่รู้หรือไม่ว่าบางปัญหาที่พบบ่อยนั้น สามารถแก้ไขเองได้ด้วยตัวเอง
อ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
วิธีซ่อมเครื่องซักผ้า แก้ปัญหาที่พบบ่อย
วิธีซ่อมเครื่องซักผ้าที่รวบรวมมานี้แจกแจงตามกรณีปัญหาเครื่องซักผ้าที่พบบ่อย ดังนี้
ปัญหาเครื่องซักผ้า | สาเหตุที่พบบ่อย |
เครื่องไม่ทำงาน | ไฟไม่เข้า, มอเตอร์ร้อนเกินไป |
น้ำไม่ระบาย | ท่ออุดตัน, ใส่ผงซักฟอกมากเกิน |
เครื่องไม่ปั่นผ้า | ผ้าเยอะเกิน, มอเตอร์เสีย, ปั๊มน้ำอุดตัน |
น้ำรั่วจากตัวเครื่อง | ท่อรั่ว, วาล์วขึ้นสนิม, ขอบยางเสื่อม |
ไม่ผสมผงซักฟอก | กล่องใส่ผงซักฟอกสกปรก, ใช้ผลิตภัณฑ์ไม่ตรงรุ่น |
เครื่องเสียงดัง | มีเหรียญหรือของตกค้างในผ้า |
เครื่องปั่นไม่หยุด | ระบบจับเวลาเสีย, แผงควบคุมชำรุด |
1. ซ่อมเครื่องซักผ้าจากปัญหาเครื่องไม่ทำงาน
หากเครื่องซักผ้าไม่ตอบสนองใด ๆ เมื่อเรากดเปิดเครื่องแล้วนั้น สามารถแก้ไขได้ ดังนี้
– ตรวจสอบว่าเครื่องเปิดติดหรือไม่ โดยใช้มัลติเมเตอร์วัดกระแสไฟฟ้า ถ้าพบว่าไม่กระแสไฟฟ้าไหลเข้ามา อาจต้องไปดูที่แผงไฟฟ้าว่าเบรกเกอร์ตัดไฟหรือไม่ หากทุกอย่างปกติดีให้สับเบรกเกอร์ลง และติดต่อช่างไฟให้เข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุต่อไป
– หากเครื่องชัตดาวน์เองกะทันหัน อาจเกิดจากมอเตอร์ร้อนเกินไป เราจึงต้องตรวจสอบมอเตอร์ด้วยว่าทำงานหนักจนเกิดความร้อนหรือไม่ แล้วดูว่าทำไมมอเตอร์ถึงร้อนง่าย
2. ซ่อมเครื่องซักผ้าจากปัญหาเครื่องไม่ระบายน้ำ
ปัญหานี้เกิดได้จากการอุดตันในท่อระบายน้ำ วิธีแก้ไขทำได้ ดังนี้
– ตรวจดูว่าท่อระบายน้ำบิดงอหรือมีตัวผ้ากรองค้างอยู่ภายในท่อหรือไม่
– หากปั๊มน้ำทิ้งอุดตัน ให้ระบายน้ำในท่อออกก่อน ถอดปั๊มออก จากนั้นตรวจดูว่ามีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปอุดตันข้างในหรือไม่
– หากเกิดจากการใส่ผงซักฟอกมากเกินไป อาจต้องเคลียร์ผงซักฟอกออกมาให้หมดก่อน เพราะผงซักฟอกอาจทำให้อุดตันจนน้ำไม่ไหลระบายได้ตามปกติ
ท่อตันแก้อย่างไร
ท่อตัน 5 วิธีแก้ด้วยของใช้ในบ้าน ทำได้เอง ง่าย ประหยัด ไม่ต้องจ้างช่าง
3. ซ่อมเครื่องซักผ้าจากปัญหาเครื่องไม่ปั่นผ้า
สาเหตุที่ทำให้เครื่องซักผ้าไม่ปั่นผ้าตามปกติเกิดได้จากหลายสาเหตุ เราจึงต้องตรวจสอบภายในเครื่องซักผ้าว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่ ทั้งนี้ อาจแก้ไขได้ง่าย ๆ ดังนี้
– หากเราใส่เสื้อผ้าที่จะซักมากเกินไปจนล้นตะกร้าปั่น อาจต้องคัดแยกเสื้อผ้าออกมาบ้าง เพื่อให้ได้ปริมาณผ้าที่ไม่มากเกินไป
– ปรับระดับความแรงในการปั่นให้ดี โดยดูว่าปุ่มไม่ได้ค้างกึ่งกลางอยู่ระหว่างระดับใดระดับหนึ่ง
– หากได้ยินเสียงดังหึ่งตอนที่เครื่องกำลังปั่นผ้าอยู่ อาจเกิดจากปั๊มน้ำทิ้งอุดตัน ควรหยุดการทำงานและตรวจดูว่ามีสิ่งแปลกปลอมอุดตันอยู่ในปั๊มน้ำหรือไม่
– หากสังเกตว่าตะกร้าปั่นผ้าภายในตัวเครื่องหมุนผิดปกติ อาจต้องเปลี่ยนตัวมอเตอร์

4. ซ่อมเครื่องซักผ้าจากปัญหาน้ำรั่วออกมาจากเครื่อง
จริง ๆ แล้วปัญหาน้ำรั่วออกจากเครื่องซักผ้าอาจต้องส่งซ่อมกับช่างโดยตรง ถึงอย่างนั้น สาเหตุที่ทำให้น้ำรั่วซึมจากเครื่องก็แก้ไขได้ด้วยตัวเอง ดังนี้
– ตรวจสอบดูว่าท่อระบายของตัวเครื่องอยู่ในสภาพใช้งานได้ปกติ ไม่มีรอยแตกหรือรูรั่วใด ๆ หากพบรอยแตกหรือรอยรั่วบริเวณจุดเชื่อมระหว่างท่อระบายน้ำกับตัวเครื่อง ให้ตัดปลายส่วนที่แตกหรือมีรอยรั่วทิ้งไป แล้วหนีบปลายหุ้มให้เรียบร้อย หรือซื้อท่ออันใหม่มาเปลี่ยนใส่แทน
– หากพบว่าวาล์วน้ำของตัวเครื่องมีสนิมเกาะ อาจต้องเปลี่ยนอันใหม่มาใส่แทน
– หากเรามักใส่ผงซักฟอกเยอะและซักผ้าด้วยน้ำเย็น ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำรั่วซึมออกมาจากเครื่องซักผ้าได้ แนะนำว่าให้เปลี่ยนมาใช้น้ำร้อนผสมน้ำยาปรับผ้านุ่ม และใส่ผงซักฟอกน้อยลง จะช่วยลดคราบไขของผงซักฟอกอันเป็นสาเหตุให้น้ำรั่วซึมได้
– หากพบว่ายางตรงขอบฝาปิดเครื่องซักผ้าเสื่อมสภาพ ก็ทำให้น้ำรั่วได้เช่นกัน แนะนำว่าให้ทำความสะอาดขอบยาง เพื่อป้องกันการเกิดคราบฝุ่นเกาะอันทำให้ขอบยางเสื่อมสภาพและน้ำรั่วออกมา
5. ซ่อมเครื่องซักผ้าจากปัญหาเครื่องไม่ผสมผงซักฟอก
หากเราใส่ผงซักฟอกในช่องซักตามปกติแล้ว แต่เครื่องไม่ผสมผงซักฟอกไปปั่นกับผ้าให้ อาจเกิดได้จากสองสาเหตุหลัก ซึ่งแก้ไขได้ ดังนี้
– กล่องใส่ผงซักฟอกไม่สะอาด ปัญหานี้แก้ไขได้ด้วยการทำความสะอาดกล่องผงซักฟอกก่อน โดยผสมน้ำอุ่นกับน้ำส้มสายชู นำไปทำความสะอาดกล่องใส่ผงซักฟอกเดือนละครั้ง เพื่อชะล้างคราบที่อุดตันอยู่ภายในกล่องผงซักฟอก
– ต้องตรวจสอบว่าเครื่องซักผ้าของเราใส่ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดรูปแบบใด เพราะเครื่องซักผ้าบางรุ่นก็ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแบบน้ำ หากเราใส่ผงซักฟอกลงในเครื่องซักฟอกดังกล่าว ก็ทำให้เกิดการอุดตันและเครืองเสื่อมสภาพ
6. ซ่อมเครื่องซักผ้าจากปัญหาเครื่องปั่นเสียงดัง
ปัญหาเครื่องซักผ้าเสียงดังถือเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย ซึ่งมีวิธีแก้ไข ดังนี้
– หากได้ยินเสียงดังหึ่งจากตัวเครื่อง ให้หยุดการทำงานของเครื่องแล้วตรวจดูว่าเสื้อผ้าที่เราใส่ลงไปซักนั้นมีเหรียญหรือสิ่งของอื่น ๆ ที่ไม่ได้นำออกมาก่อนซักหรือไม่
7. ซ่อมเครื่องซักผ้าจากปัญหาเครื่องปั่นไม่หยุด
หากพบว่าเครื่องซักผ้ายังคงปั่นทำงานต่อไปเรื่อย ๆ ทั้งที่ครบไซเคิลการทำงานแล้ว อาจเกิดจากระบบจับเวลาของเครื่องทำงานผิดปกติ วิธีแก้ไขอาจต้องรื้อแผงควบคุมระบบเพื่อดูว่าแผงควบคุมเวลาเกิดความผิดปกติใด มีสนิมเกาะหรือตัวแผงไหม้หรือไม่ หากพบว่าตัวแผงควบคุมเสียหาย ก็ต้องเปลี่ยนใหม่

วิธีใช้งานและดูแลเครื่องซักผ้า
ปัญหาเครื่องซักผ้าทั้งหลายจะไม่เกิดขึ้น ถ้าเริ่มต้นจากการใช้งานและดูแลรักษาเครื่องซักผ้าอย่างถูกต้อง มาดูกันว่าเทคนิคการใช้งานและดูแลเครื่องซักผ้ามีอะไรบ้าง เพื่อที่จะได้ถนอมเครื่องซักผ้าของเราให้ใช้งานได้นาน ไม่ต้องซ่อมเครื่องซักผ้าบ่อย ๆ
เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างไร
เช็ก 5 ปัจจัย เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างไรให้คุ้มค่า
1. เทคนิคใช้งานเครื่องซักผ้า
– แยกผ้าสี ผ้าขาว และผ้าที่มีรอยคราบเปรอะเปื้อนก่อนซักให้เรียบร้อย โดยแบ่งผ้าออกเป็น 4 กอง ได้แก่ ผ้าขาว ผ้าสีสว่าง ผ้าสีมืด และผ้ามีคราบเปื้อนซักออกยาก จากนั้นให้แยกซักกัน วิธีนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้สีตกใส่เสื้อผ้าตัวอื่น
– ก่อนนำผ้าลงซักในเครื่อง ควรศึกษาคู่มือใช้งานเครื่องซักผ้าให้ละเอียด โดยเฉพาะวิธีตั้งค่าระบบการทำงาน
– แยกเสื้อผ้าชิ้นเล็ก ๆ ใส่ในถุงซักผ้า ได้แก่ กางเกงใน ชุดชั้นใน กางเกงขายาว เพื่อป้องกันชุดฉีกขาดหรือเสียหายขณะปั่นผ้า
– หากต้องใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแบบของเหลว ควรตวงปริมาณให้เหมาะสมด้วยฝาตวงน้ำยาซักผ้า แล้วใส่ลงไปในช่องใส่ของเครื่องซักผ้า จากนั้นจึงนำผ้าลงตะกร้าปั่นเพื่อเตรียมซักต่อไป
– หากใช้ผงซักฟอก ให้ตวงปริมาณผงซักฟอกด้วยช้อนตักผงซักฟอกก่อน
– เปิดฝาเครื่องซักผ้าไว้หลังใช้งานเสร็จ เพื่อระบายอากาศและป้องกันเชื้อราขึ้นภายในเครื่อง อันทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์
– ทำความสะอาดเครื่องซักผ้าอย่างสม่ำเสมอ โดยตั้งค่าปั่นซักผ้าด้วยน้ำอุ่น จากนั้นให้ใส่น้ำส้มสายชูไป 1 ถ้วย แล้วให้เครื่องทำงานปกติจนครบไซเคิล วิธีนี้จะช่วยทำความสะอาดเครื่องซักผ้าและขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์
2. เทคนิคดูแลรักษาเครื่องซักผ้า
– ใส่เสื้อผ้าสำหรับปั่นซักให้พอดีกับตะกร้าปั่น ไม่ควรนำเสื้อผ้าลงเครื่องมากเกินไป เพราะอาจทำให้เครื่องปั่นผ้าได้ไม่ทั่วถึง อีกทั้งอาจทำให้ตะกร้าปั่นรับน้ำหนักไม่ไหวและเสื่อมสภาพไว
– ควรนำเหรียญ กระดาษ และสิ่งของต่าง ๆ ออกจากกระเป๋าเสื้อและกางเกงก่อนนำลงเครื่องทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งเหล่านั้นเข้าไปอุดตันในตัวเครื่อง
– ไม่ควรเทน้ำยาปรับผ้านุ่มลงบนเสื้อผ้าที่นำลงตะกร้าปั่นโดยตรง แต่ให้ตวงใส่ในช่องใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีในตัวเครื่อง
– ใส่ผงซักฟอกแต่พอดี หากใส่ผงซักฟอกมากเกินไปอาจทำให้เกิดเป็นคราบสะสมและอุดตันท่อได้
– เมื่อซักผ้าเสร็จแล้ว ควรนำผ้าในเครื่องขึ้นตากทันที ไม่ควรทิ้งค้างไว้นาน เพราะความชื้นจากเสื้อผ้าอาจทำให้เกิดเชื้อราได้
– หากพบว่าเครื่องมีปัญหา แต่ระบุสาเหตุไม่ได้ ควรส่งซ่อมช่างโดยตรง
การดูแลและใช้งานเครื่องซักผ้าอย่างถูกต้องถือเป็นวิธีที่ช่วยให้เราบำรุงรักษาเครื่องซักผ้าให้อยู่ในสภาพดีและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป อย่างไรก็ตาม หากพบว่าตัวเครื่องทำงานขัดข้องหรือเกิดความผิดปกติ เบื้องต้นอาจตรวจหาสาเหตุก่อน หากเกิดจากสาเหตุที่เราแก้ไขได้เองทันที ก็ควรเร่งทำทันที แต่หากระบุสาเหตุที่ชัดเจนไม่ได้ หรือปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นซับซ้อน ควรปรึกษาและส่งซ่อมเครื่องซักผ้ากับช่างผู้เชี่ยวชาญโดยตรง
นอกจากเครื่องซักผ้าแล้วหากคุณมีปัญหากับแอร์ ลองมาดูวิธีซ่อมแอร์ด้วยตัวเอง ประหยัดงบได้ ไม่ต้องเรียกช่าง
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ