คงมีหลายคนที่คิดอยากมีสระว่ายน้ำในบ้าน ไว้สำหรับว่ายส่วนตัวหรือพักผ่อนกับสมาชิกในครอบครัว โดยไม่ต้องเดินทางไปไหน อยู่บ้านก็มีกิจกรรมปาร์ตี้ริมสระ สนุกสนาน หรือออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำได้ทุกวัน แล้วถ้าอยากสร้างสระว่ายน้ำในบ้านขึ้นมาจริง ๆ จะต้องทำอย่างไร และสระว่ายน้ำแบบไหนที่เหมาะกับบ้านคุณ มาศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจ จากข้อมูลที่เรานำมาฝากกัน
สระว่ายน้ำมีกี่ประเภท
แบ่งประเภทสระว่ายน้ำในบ้านตามโครงสร้างระบบการบำบัดน้ำ
1. แบบ Skimmer
เป็นสระว่ายน้ำที่ราคาถูกกว่าแบบอื่น ๆ เพราะว่าเป็นสระน้ำที่ไม่ใช่แบบน้ำล้นที่เห็นและใช้งานกันโดยทั่วไป แต่เป็นสระแบบที่ดูดเอาน้ำในสระไปทำการกรอง ฆ่าเชื้อโรค แล้วปล่อยกลับเข้ามาในสระอีกครั้ง วนแบบนี้ สระว่ายน้ำแบบนี้จึงมีราคาถูก และติดตั้งง่ายมากกว่า เพราะว่าไม่มีระบบของ Surge Tank หรือถังเก็บน้ำล้น
แต่ข้อเสียของสระว่ายน้ำแบบนี้คือ น้ำจะไม่ล้นออกนอกสระ ถ้าสระว่ายน้ำอยู่ในบริเวณสวนที่มีร่มไม้ ก็มักจะมีเศษใบไม้ตกลงมาลอยวนเหนือผิวน้ำ โดยมักจะพบระบบของสระว่ายน้ำแบบนี้ในสระน้ำขนาดเล็ก ๆ เช่น ขนาด 4 x 10 เมตร
2. แบบ Over Flow
สระว่ายน้ำที่พบทั่วไปตามที่สาธารณะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นตามโรงแรม สถานที่ต่าง ๆ ที่เปิดให้เล่นฟรี และเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งจะเป็นระบบหมุนเวียนน้ำที่วนเป็นวงกลม มีระบบน้ำล้นที่ออกไปยัง Surge Tank เพื่อทำการสูบไปทำการกรอง ฆ่าเชื้อโรค แล้วจึงปล่อยกลับเข้ามาในสระใหม่อีกรอบ
ข้อดีของสระน้ำแบบนี้คือบริเวณผิวน้ำจะไม่สกปรก เพราะน้ำจะล้นออกตลอดเวลา สวยงามมากกว่าแบบแรก แต่ข้อเสียคือเรื่องของราคา และการดูแลรักษาที่จะต้องทำงานหลายจุด จึงเหมาะกับสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ๆ มากกว่า
แบ่งประเภทสระว่ายน้ำในบ้านตามชนิดของน้ำที่ใช้งานในสระ
1. ระบบน้ำคลอรีน
เป็นระบบน้ำดั้งเดิมที่ใช้งานกันมานาน มีการใช้คลอรีนเพื่อฆ่าเชื้อโรคในสระน้ำ และยับยั้งไม่ให้เกิดตะไคร่น้ำ จึงทำให้น้ำใส ไม่ขุ่นตลอดเวลา และเนื่องจากการทำสระว่ายน้ำแบบนี้จะต้องใส่เคมีอย่างคลอรีน และส่วนผสมอื่น ๆ อีกมากมาย จึงไม่เป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่กังวลเรื่องของสุขภาพ เพราะอาจมีผลข้างเคียง เช่น แสบตา แสบผิว รวมถึงไม่นิยมนำมาใช้เป็นสระว่ายน้ำสำหรับเด็กและในทางการแพทย์
2. ระบบน้ำเกลือ
สระว่ายน้ำแบบนี้จะใช้เกลือที่ชื่อว่า ซอลท์เจนเนอเรเตอร์ มาสร้างคลอรีนเพื่อฆ่าเชื้อโรค ซึ่งมีความเป็นธรรมชาติมากกว่าแบบคลอรีนผงเคมีปกติ สระว่ายน้ำแบบนี้มีค่าใช้จ่าย และการรักษาที่ยากกว่าในแบบคลอรีน เนื่องจากเกิดคราบตะไคร่ได้ง่ายมากกว่า ยิ่งถ้าเป็นสระว่ายน้ำกลางแจ้งจะเกิดตะไคร่ได้ง่าย และถี่มากกว่าในร่ม รวมทั้งเกิดเมือกลื่น ๆ ขึ้นตามขอบของสระ ไม่เพียงเท่านั้นน้ำในสระยังมีรสเค็มอีกด้วย
3. ระบบน้ำแร่
สระว่ายน้ำแบบนี้จะใช้ระบบการกรองของเครื่องที่ผลิตที่เป็นแบบระบบน้ำแร่มาใช้งาน อีกทั้งยังใช้เครื่องอิออนจากแร่บริสุทธิ์มาทำให้เกิดน้ำแร่เข้าไปยังสระว่ายน้ำ น้ำแบบนี้จะฆ่าเชื้อโรคได้ดี ใส ไม่ขุ่น ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องรับอันตรายจากสารเคมี สามารถดื่มได้ ประหยัดเรื่องของการทำความสะอาด แต่จะต้องเสียเงินซื้อเครื่องทำระบบน้ำแร่นี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำการก่อสร้าง แม้จะซื้อครั้งเดียวจบ แต่ก็มีราคาที่สูงกว่าแบบอื่น ๆ
แบ่งประเภทสระว่ายน้ำในบ้านตามวัสดุก่อสร้าง
1. ก่อสร้างด้วยคอนกรีต
สระว่ายน้ำแบบนี้ก็จะเป็นแบบทั่วไปที่ก่อสร้างด้วยปูน และกระเบื้อง มีการใส่ลูกเล่น รูปทรง สีสันได้ตามที่ต้องการ ความสวยงามขึ้นอยู่กับการออกแบบ และสามารถแบ่งระดับความลึกได้ เป็นที่นิยมสำหรับสถานที่ที่ต้องการสระน้ำที่กว้างและใหญ่ พร้อมมีดีไซน์ที่ล้ำ ทันสมัย เข้ากับดีไซน์สถานที่
2. สระน้ำแบบไฟเบอร์กลาส
สระว่ายน้ำแบบนี้จะเป็นคล้าย ๆ กับสระว่ายน้ำสำเร็จรูป ที่เป็นเหมือนลักษณะของอ่างที่นำมาติดตั้ง อาจจะเป็นการก่อปูนขึ้นมารับเป็นฐานวาง หรือขุดลงไปในดินก็ได้ ตามแบบของสระว่ายน้ำสำเร็จรูป

สระว่ายน้ำแบบไหนเหมาะกับบ้านแบบใด
สำหรับการเลือกใช้งานสระว่ายน้ำในบ้านนั้น คงไม่สามารถระบุเจาะจงได้ว่าบ้านแต่ละหลังจะเหมาะกับสระแบบไหน เบื้องต้นจึงต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ก่อนเพื่อตัดสินใจเลือกสระว่ายน้ำที่เข้ากับบ้านและตรงตามความต้องการ
1. ขนาดพื้นที่ที่ท่านต้องการตั้งสระว่ายน้ำ เป็นปัจจัยที่จะต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรก เพราะถ้าเลือกสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ แต่ขนาดพื้นที่ที่มีเล็ก มันย่อมไม่พอดีอย่างแน่นอน
2. งบประมาณ แน่นอนว่าความต้องการต้องสอดคล้องกับงบประมาณที่มี ดังนั้นจึงต้องเลือกจากงบประมาณเป็นหลัก เพื่อให้สระว่ายน้ำออกมาสมบูรณ์ ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพมากที่สุด หากตั้งงบประมาณต่ำ แต่อยากได้สเปคสูง โอกาสที่จะเป็นไปได้หรือเสร็จสมบูรณ์ก็คงเป็นเรื่องยาก รวมถึงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องหลังจากติดตั้งแล้วเสร็จด้วย ไม่ว่าจะเป็นค่าทำความสะอาด ค่าดูแลรักษา และค่าซ่อมแซม
3. ความต้องการ แน่นอนว่าคงจะต้องนำเอาความชื่นชอบ ความต้องการเข้ามาประกอบการพิจารณา สระว่ายน้ำแบบไหนจะตรงใจ เข้ากับบ้าน และสมาชิกในครอบครัว ซึ่งในการเลือกนั้นอาจจะต้องมีการนำข้อมูลรอบด้านมาวิเคราะห์ก่อนตัดสินใจ เพื่อให้ได้สระว่ายน้ำที่ลงตัวและตรงใจมากที่สุด
วิธีการดูแลรักษาสระว่ายน้ำในบ้าน
วิธีการดูแลรักษาสระว่ายน้ำในบ้านนั้น มีทั้งแบบที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง จ้างช่าง หรือทีมงานที่เชี่ยวชาญ เพื่อให้สระว่ายน้ำในบ้านใช้งานได้ดีอยู่เสมอ เบื้องต้นสิ่งที่สามารถจะทำได้เองนั้น เช่น ดูแลเรื่องน้ำที่ใช้งานในสระ ขยะที่จะลงไปในสระว่ายน้ำ ส่วนการตรวจสอบเรื่องระบบการฆ่าเชื้อให้ดี การกำจัดตะไคร่ ขยะในซอกหรือแท็งก์รับน้ำ งานเช็กระบบของการหมุนเวียน หรือดูดน้ำ รวมถึงเรื่องของค่าสารเคมี ต้องให้ช่างหรือทีมงานที่เชี่ยวชาญเป็นผู้ดูแล
การทำความสะอาดสระว่ายน้ำในบ้าน พร้อมค่าใช้จ่าย
สระว่ายน้ำในบ้านส่วนมากแล้ว ยากที่จะสามารถทำความสะอาด และบำรุงรักษาด้วยตัวเอง จึงต้องมีการว่าจ้างช่างผู้เชี่ยวชาญเข้ามาเป็นตัวช่วย เพื่อให้สระว่ายน้ำพร้อมใช้งานเสมอ การเลือกใช้บริษัทที่จะเข้ามาทำความสะอาดมักจะเป็นบริษัทที่มาติดตั้ง เพราะส่วนมากแล้วจะมีบริการเหล่านี้ให้หลังจากการขาย ส่วนค่าใช้จ่ายก็อาจจะแตกต่างไปตามประเภท ขนาด ระยะทาง
โดยส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณเดือนละ 2,500 บาท ต่อ 30 ลบ.ม. และมีการเข้าให้บริการเดือนละ 2 ครั้ง พร้อมทำการซ่อมบำรุงตามสภาพ
สระว่ายน้ำในบ้าน เป็นฝันของบ้านหลายหลังที่ต้องการมีมุมกิจกรรม และพักผ่อนไว้ให้สมาชิกได้ใช้งาน โดยที่ไม่ต้องไปใช้ร่วมกับใคร แต่ก่อนจะตัดสินใจต้องพิจารณา เพราะมันเป็นงานใหญ่ที่ถ้าหากผิดพลาดไป ก็ยากต่อการรื้อถอน
สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ