สูตรเด็ด แก้เคล็ด “กู้บ้านไม่ผ่าน”

“บ้านในฝัน” เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ แต่น้อยคนที่จะสามารถซื้อบ้านด้วยเงินสดที่มีได้ เพราะราคาบ้านนับวันยิ่งเพิ่มขึ้นๆ ตามราคาวัสดุที่แพงขึ้น และค่าแรงที่สูงขึ้น ที่สำคัญราคาที่ดินก็ปรับขึ้นตามกาลเวลา โดยเฉพาะที่ดินทำเลดี อยู่ใจกลางเมือง ใกล้ศูนย์การค้า โรงเรียน หรือโรงพยาบาล ทำให้ราคาบ้านในฝันนับวันยิ่งไกลฝันออกไปทุกที ดังนั้น การที่จะทำฝันให้เป็นจริง สามารถทำได้โดยการกู้ซื้อบ้าน ซึ่งวันนี้ K-Expert มีคำแนะนำการกู้ซื้อบ้านให้ผ่านมาฝากกันค่ะ

เพราะโดยปกติสถาบันการเงินมักให้เราดาวน์ประมาณ 20% ของมูลค่าบ้าน และจะปล่อยสินเชื่อให้เราประมาณ 80% ดังนั้น หากบ้านในฝันที่เราต้องการมีมูลค่า 5 ล้านบาท อย่างน้อยเราก็ต้องมีเงินดาวน์ไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอ เพราะนอกจากเงินดาวน์ที่เราต้องมีแล้ว สถาบันการเงินยังพิจารณาความสามารถในการผ่อน หากกู้ 30 ปีก็ต้องผ่อนประมาณเดือนละ 28,000 บาท หรือต้องมีรายได้อย่างน้อย 70,000 บาทต่อเดือน

ดังนั้น หากรายได้ต่อเดือนเรามีเพียง 50,000 บาท แต่เราต้องการบ้านมูลค่า 5 ล้านบาท ซึ่งเรามีความสามารถในการกู้เพียง 2.85 ล้านบาทเท่านั้น หนทางหนึ่งที่จะช่วยให้เรากู้ผ่านได้ นั่นคือการเพิ่มเงินดาวน์จาก 1 ล้าน เป็น 2.1 ล้านบาท ก็จะทำให้เราสามารถกู้ซื้อบ้านในฝันได้เช่นกัน

สำหรับบ้านในฝันมูลค่า 5 ล้านบาท หากต้องการดาวน์น้อยผ่อนสบาย ก็ควรมีรายได้อย่างน้อย 70,000 บาทต่อเดือน แต่ถ้าเรามีรายได้ต่อเดือนเพียง 50,000 บาท และไม่มีเงินดาวน์เพิ่ม อีกวิธีหนึ่งที่ทำได้คือการกู้ร่วม ซึ่งสามารถหาผู้กู้ร่วมได้อีก 2 คน แต่ผู้กู้ร่วมจะต้องมีความสัมพันธ์ใกล้ชิด เช่น เป็นพ่อแม่ สามี ภรรยา พี่น้อง หรือลูก เพราะหากเป็นบุคคลอื่นแล้วจะไม่สามารถกู้ร่วมได้ หากเรามีรายได้เดือนละ 50,000 บาท และน้องมีรายได้ต่อเดือน 30,000 บาท ก็สามารถกู้ร่วมเพื่อซื้อบ้านในฝันได้ แต่ทั้งนี้ ทั้งตัวเราและน้องจะต้องไม่มีภาระผ่อนจ่ายใดๆ ไม่ว่าจะเป็นการผ่อนชำระค่ารถ หรือผ่อนชำระบัตรเครดิตต่างๆ เพราะจะทำให้ความสามารถในการชำระหนี้น้อยลงไป

หากบ้านที่มองไว้มีมูลค่า 5 ล้านบาท แต่ทำให้เราต้องหาทั้งเงินก้อนเพื่อดาวน์เพิ่มจำนวนมาก และต้องหาผู้กู้ร่วมเพิ่มอีกจึงจะได้บ้านในฝันตามต้องการอาจทำให้ชีวิตลำบากขึ้น ดังนั้นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยให้มีบ้านในฝันได้ นั่นคือการลดขนาดบ้านลง เช่น เหลือบ้านมูลค่า 3.5 ล้านบาท ทำให้เราเตรียมเงินดาวน์เพียง 700,000 บาท และกู้เพียง 2.8 ล้านบาท ก็จะทำให้ชีวิตเราสบายขึ้น ทั้งเงินดาวน์ที่น้อยลง เงินผ่อนที่สามารถผ่อนไหวด้วยตัวเองไม่ต้องกู้ร่วมกับใคร

นอกจากนี้แล้ว อย่าลืมเตรียมเงินสำหรับการตกแต่งบ้าน ค่าโอนกรรมสิทธิ์ มัดจำมิเตอร์ไฟฟ้า มิเตอร์น้ำ รวมถึงค่าส่วนกลางซึ่งอาจต้องชำระล่วงหน้า 3 ปี (ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของโครงการ) ที่สำคัญแนะนำให้มีการกันเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินไว้อย่างน้อย 6 เท่าของค่าใช้จ่าย ไว้ในกองทุนรวมตลาดเงิน หรือเงินฝากออมทรัพย์ เผื่อเอาไว้ในกรณีต้องการใช้เงินฉุกเฉินจะได้ไม่ต้องกู้ยืมใครค่ะ ติดตามบทความที่เกี่ยวข้องกับการซื้อบ้านได้ที่ K-Expert