ส่องทำเลทองประจำปี 2566 ทำเลไหนมีความต้องการซื้อ-เช่าสูง

DDproperty Editorial Team
ส่องทำเลทองประจำปี 2566 ทำเลไหนมีความต้องการซื้อ-เช่าสูง
แม้การเติบโตของตลาดอสังหาฯ ปี 2566 จะไม่คึกคัก แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้บริโภคยังคงมองหาที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์อย่างต่อเนื่องและรอเวลาที่เหมาะสมในการเป็นเจ้าของ ลองมาดูข้อมูลเชิงลึกจากผู้เข้าเยี่ยมชมในเว็บไซต์ DDproperty ในรอบปี 2566 (เก็บข้อมูลระหว่างเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2566) สะท้อนทำเลทองตามเทรนด์ความต้องการซื้อและเช่าที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคชาวไทยทั่วประเทศ
อ่านหัวข้อที่คุณสนใจ

กรุงเทพฯ จังหวัดที่มีความต้องการซื้อมากที่สุด

หากพิจารณาจากความต้องการซื้อทั่วประเทศ ในรอบปี 2566 พบว่า 10 อันดับจังหวัดที่มีความต้องการซื้อมากที่สุด ได้แก่
  • อันดับ 1 กรุงเทพฯ
  • อันดับ 2 นนทบุรี
  • อันดับ 3 สมุทรปราการ
  • อันดับ 4 ปทุมธานี
  • อันดับ 5 ชลบุรี
  • อันดับ 6 เชียงใหม่
  • อันดับ 7 นครปฐม
  • อันดับ 8 ระยอง
  • อันดับ 9 นครราชสีมา
  • อันดับ 10 สมุทรสาคร
โดย 4 อันดับแรกอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลทั้งสิ้น เนื่องมาจากความเจริญของเมืองหลวงที่มีการวางรากฐานระบบสาธารณูปโภคและพัฒนาระบบคมนาคมอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังได้อานิสงส์จากโครงการรถไฟฟ้าที่เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างกรุงเทพฯ และปริมณฑลให้สะดวกยิ่งขึ้น จึงมีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น เป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลให้ความต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
ส่องทำเลทองประจำปี 2566 ทำเลไหนมีความต้องการซื้อ-เช่าสูง
เมื่อแบ่งตามประเภทอสังหาฯ พบว่า ที่อยู่อาศัยแนวดิ่งครองความนิยมมากที่สุด โดยคอนโดมีความต้องการซื้อมากที่สุดในรอบปี 2566 ด้วยสัดส่วนถึง 43% ของอสังหาฯ ทั้งหมด ตามมาด้วยที่อยู่อาศัยแนวราบอย่างบ้านเดี่ยว 38% และทาวน์เฮ้าส์ 19% ตามลำดับ
สะท้อนให้เห็นถึงเทรนด์การอยู่อาศัยที่เปลี่ยนไป หลังจากผู้พัฒนาอสังหาฯ มีการขยายโครงการไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น โดยเฉพาะคอนโดที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ จึงส่งผลให้ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยประเภทนี้ยังได้รับความสนใจจากผู้ซื้ออย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ระดับราคาที่อยู่อาศัยที่มีความต้องการซื้อมากที่สุดในรอบปี 2566 ได้แก่
  • อันดับ 1 ระดับราคา 1-3 ล้านบาท มีสัดส่วน 38% ของระดับราคาทั้งหมด
  • อันดับ 2 ระดับราคา 3-5 ล้านบาท มีสัดส่วน 21% ของระดับราคาทั้งหมด
  • อันดับ 3 ระดับราคา 5-10 ล้านบาท มีสัดส่วน 18% ของระดับราคาทั้งหมด
ราคา 1-3 ล้านบาท มีสัดส่วนมากที่สุด สะท้อนให้เห็นถึงกำลังซื้อส่วนใหญ่ของคนหาบ้านทั่วประเทศที่อยู่ในกลุ่มผู้บริโภคระดับกลางและล่าง ซึ่งมองหาโครงการที่ราคาจับต้องได้ (Affordable price)
ทั้งนี้ สัดส่วนของที่อยู่อาศัยระดับราคา 3-5 ล้านบาท รวมกับระดับราคา 5-10 ล้านบาท พบว่า สูงกว่าระดับราคา 1-3 ล้านบาท เป็นผลมาจากการที่กลุ่มผู้บริโภคระดับกลาง-บนได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจน้อยกว่าผู้บริโภคระดับล่าง จึงมีความพร้อมทางการเงินในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยที่มีราคาสูง
สอดคล้องกับข้อมูลจากบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือ เครดิตบูโร เผยว่า กลุ่มสินเชื่อที่อยู่อาศัยราคา 1-3 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลาง เริ่มเห็นสัญญาณมีปัญหาในการผ่อนชำระติดขัดมากขึ้น และเห็นการไหลจากสินเชื่อปกติเป็นกลุ่มสินเชื่อกล่าวถึงเป็นพิเศษ (SM) หรือค้างชำระตั้งแต่ 31 วัน แต่ไม่เกิน 90 วัน มากขึ้น

กรุงเทพฯ และหัวเมืองท่องเที่ยว จังหวัดยอดนิยมในหมู่ผู้เช่า

จังหวัดยอดนิยม 3 อันดับแรกในฝั่งตลาดเช่านั้นยังคงเหมือนกับตลาดซื้อ ตามมาด้วยเมืองท่องเที่ยวหลัก สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการเช่าที่อยู่อาศัยเพื่อเป็นบ้านพักตากอากาศทั้งในหมู่ชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมทั้งเทรนด์ Workcation รูปแบบการทำงานที่ผสมผสานการท่องเที่ยวเข้าไว้ด้วยกันที่ยังได้รับความนิยมอยางต่อเนื่อง
โดย 10 จังหวัดที่ได้รับความต้องการเช่ามากที่สุดในรอบปี 2566 ได้แก่
  • อันดับ 1 กรุงเทพฯ
  • อันดับ 2 นนทบุรี
  • อันดับ 3 สมุทรปราการ
  • อันดับ 4 เชียงใหม่
  • อันดับ 5 ภูเก็ต
  • อันดับ 6 ชลบุรี
  • อันดับ 7 ขอนแก่น
  • อันดับ 8 ปทุมธานี
  • อันดับ 9 นครราชสีมา
  • อันดับ 10 อุดรธานี
ขณะเดียวกันเมื่อแบ่งตามประเภทอสังหาฯ พบว่า ผู้เช่าสนใจเช่าคอนโดมากที่สุด โดยมีสัดส่วนสูงถึง 79% ของอสังหาฯ ทั้งหมด เนื่องจากผู้ประกอบการพัฒนาโครงการเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายมากขึ้น จึงครอบคลุมไลฟ์สไตล์แต่ละช่วงวัยได้เป็นอย่างดี ขณะที่บ้านเดี่ยวมีสัดส่วน 13% ส่วนทาวน์เฮ้าส์มีสัดส่วน 8% เท่านั้น
ส่องทำเลทองประจำปี 2566 ทำเลไหนมีความต้องการซื้อ-เช่าสูง
เมื่อพิจารณาระดับค่าเช่าต่อเดือนที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในรอบปี 2566 พบว่า ผู้เช่าส่วนใหญ่ถึง 62% ให้ความสนใจที่ระดับราคาไม่เกิน 20,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นค่าเช่าที่เหมาะสมในการหาโครงการที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีพื้นที่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้อยู่อาศัย และอยู่ในทำเลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกล้อมรอบ เดินทางได้ง่าย
  • อันดับ 1 ระดับค่าเช่า 10,000-20,000 บาท/เดือน มีสัดส่วน 36% ของระดับค่าเช่าทั้งหมด
  • อันดับ 2 ระดับค่าเช่าไม่เกิน 10,000 บาท/เดือน มีสัดส่วน 26% ของระดับค่าเช่าทั้งหมด
  • อันดับ 3 ระดับค่าเช่ามากกว่า 30,000 บาท/เดือน มีสัดส่วน 23% ของระดับค่าเช่าทั้งหมด

BTS อ่อนนุช ทำเลแนวรถไฟฟ้ายอดฮิตของคนหาบ้าน

ทำเลที่ตั้งของโครงการอสังหาฯ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยไม่น้อย โดยเฉพาะทำเลที่มีโครงการรถไฟฟ้าพาดผ่าน เนื่องจากเป็นการเดินทางที่สะดวก ปลอดภัย และประหยัดเวลามากที่สุดในเมืองหลวง นอกจากนี้ยังมีศักยภาพที่จะเติบโตและได้รับการพัฒนาในอนาคต จึงกลายเป็นทำเลที่น่าจับตามองทั้งในกลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยและนักลงทุน
จากข้อมูล 10 สถานีรถไฟฟ้ายอดนิยมของกลุ่มคนค้นหาอสังหาฯ ในรอบปี 2566 พบว่า 7 ใน 10 เป็นสถานีที่อยู่ในโครงการรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว ซึ่งเปิดให้บริการเป็นสายแรกของประเทศไทย ทำเลโดยรอบสถานีจึงมีการพัฒนามาอย่างยาวนานทั้งในเชิงพาณิชย์และเพื่ออยู่อาศัย โดยมีรายละเอียดดังนี้
  • อันดับ 1 BTS อ่อนนุช
  • อันดับ 2 MRT พระราม 9
  • อันดับ 3 BTS พร้อมพงษ์
  • อันดับ 4 BTS อารีย์
  • อันดับ 5 BTS เอกมัย
  • อันดับ 6 BTS ทองหล่อ
  • อันดับ 7 BTS อโศก
  • อันดับ 8 BTS อุดมสุข
  • อันดับ 9 MRT ลาดพร้าว
  • อันดับ 10 MRT ห้วยขวาง

เขตวัฒนา ทำเลทองครองใจทั้งผู้ซื้อ-ผู้เช่า

จากข้อมูลการเข้าชมประกาศอสังหาฯ ในรอบปี 2566 พบว่า เขตวัฒนา ครองอันดับ 1 สุดยอดทำเลทองในกรุงเทพฯ ที่มีความต้องการซื้อและเช่ามากที่สุด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทำเลศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ (CBD) ที่สำคัญ เนื่องจากเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่และเดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า จึงเป็นทำเลย่านใจกลางเมืองที่น่าจับตามองทั้งในฝั่งผู้ซื้อและผู้เช่า
ส่องทำเลทองประจำปี 2566 ทำเลไหนมีความต้องการซื้อ-เช่าสูง
โดย 10 ทำเลในกรุงเทพฯ ที่มีความต้องการซื้อมากที่สุดในรอบปี 2566 ได้แก่
  • อันดับ 1 เขตวัฒนา
  • อันดับ 2 เขตจตุจักร
  • อันดับ 3 เขตห้วยขวาง
  • อันดับ 4 เขตบางกะปิ
  • อันดับ 5 เขตคลองเตย
  • อันดับ 6 เขตประเวศ
  • อันดับ 7 เขตสวนหลวง
  • อันดับ 8 เขตบางนา
  • อันดับ 9 เขตพระโขนง
  • อันดับ 10 เขตบางเขน
ด้าน 10 ทำเลในกรุงเทพฯ ที่มีความต้องการเช่ามากที่สุดในรอบปี 2566 ได้แก่
  • อันดับ 1 เขตวัฒนา
  • อันดับ 2 เขตคลองเตย
  • อันดับ 3 เขตห้วยขวาง
  • อันดับ 4 เขตจตุจักร
  • อันดับ 5 เขตพระโขนง
  • อันดับ 6 เขตราชเทวี
  • อันดับ 7 เขตบางนา
  • อันดับ 8 เขตปทุมวัน
  • อันดับ 9 เขตบางรัก
  • อันดับ 10 เขตสาทร

ผู้ซื้อในกรุงเทพฯ ค้นหาคอนโดราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท มากที่สุด

เมื่อจำแนกความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ตามประเภทอสังหาฯ พบว่า ผู้บริโภค 56% ให้ความสนใจเลือกซื้อคอนโดมากที่สุด ซึ่งสูงกว่าสัดส่วนความต้องการซื้อของคนทั้งประเทศ (43%)
เนื่องจากคอนโดตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในเมืองหลวงที่ต้องการความคล่องตัวในการอยู่อาศัยและการเดินทาง อีกทั้งยังมีตัวเลือกโครงการที่หลากหลายกว่า ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทุกระดับราคา ขณะที่บ้านเดี่ยวมีสัดส่วน 27% และทาวน์เฮ้าส์มีสัดส่วน 17% ของอสังหาฯ ทั้งหมด
เมื่อพิจารณาในปัจจัยด้านราคา แม้ที่อยู่อาศัยระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทจะได้รับสนใจค้นหามากที่สุด แต่พบว่าระดับราคาตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไปก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ราคาที่ดินในกรุงเทพฯ ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ศักยภาพในการเติบโตสูงตามความต้องการในตลาดจึงทำให้ราคาที่อยู่อาศัยต้องปรับขึ้นตามต้นทุนใหม่เช่นกัน โดยระดับราคาที่อยู่อาศัยที่ชาวกรุงเทพฯ สนใจซื้อมากที่สุดในรอบปี 2566 ได้แก่
  • อันดับ 1 ระดับราคา 1-3 ล้านบาท มีสัดส่วน 33% ของระดับราคาทั้งหมด
  • อันดับ 2 ระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาท มีสัดส่วน 21% ของระดับราคาทั้งหมด
  • อันดับ 3 ระดับราคา 3-5 ล้านบาท และ 5-10 ล้านบาท มีสัดส่วนเท่ากันอยู่ที่ 20% ของระดับราคาทั้งหมด

ประกาศขายคอนโด

รวมประกาศขายคอนโดในกรุงเทพฯ ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท

ผู้เช่าในกรุงเทพฯ อยากเช่าคอนโด ค่าเช่าไม่เกิน 20,000 บาท

กรุงเทพฯ มีประชากรเป็นจำนวนมากทั้งคนกรุงเทพฯ เองและกลุ่มประชากรแฝงส่งผลให้ความต้องการเช่าที่อยู่อาศัยสูงตามไปด้วย เนื่องจากมีความยืดหยุ่นตอบโจทย์ผู้ที่ไม่ได้ต้องการตั้งถิ่นฐานเป็นการถาวรหรือมีแผนโยกย้ายในอนาคต ซึ่งคอนโดตอบโจทย์การใช้ชีวิตในสังคมเมืองมากที่สุด
เห็นได้ชัดจากการที่คอนโดมีความต้องการเช่ามากที่สุดถึง 87% ของอสังหาฯ ทั้งหมด ขณะที่ที่อยู่อาศัยแนวราบยังมีความต้องการเช่าอยู่บ้าง โดยบ้านเดี่ยวมีสัดส่วนเพียง 7% ส่วนทาวน์เฮ้าส์มีสัดส่วน 6% เท่านั้น
ส่องทำเลทองประจำปี 2566 ทำเลไหนมีความต้องการซื้อ-เช่าสูง
เมื่อพิจารณาภาพรวมระดับค่าเช่าต่อเดือนที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในกรุงเทพฯ พบว่า มีความคล้ายคลึงกับภาพรวมทั่วประเทศ โดย 59% สนใจค้นหาที่อยู่อาศัยเพื่อเช่าในระดับค่าเช่าไม่เกิน 20,000 บาทมากที่สุด สอดคล้องกับสภาพคล่องทางการเงินและความสามารถในการใช้จ่ายของผู้บริโภคในเวลานี้
  • อันดับ 1 ระดับค่าเช่า 10,000-20,000 บาท/เดือน มีสัดส่วน 37% ของระดับค่าเช่าทั้งหมด
  • อันดับ 2 ระดับค่าเช่ามากกว่า 30,000 บาท/เดือน มีสัดส่วน 25% ของระดับค่าเช่าทั้งหมด
  • อันดับ 3 ระดับค่าเช่าไม่เกิน 10,000 บาท/เดือน มีสัดส่วน 22% ของระดับค่าเช่าทั้งหมด

ประกาศให้เช่าคอนโด

รวมประกาศให้เช่าคอนโดในกรุงเทพ

รถไฟฟ้าสายสีชมพูดัน "นนทบุรี" ครองแชมป์ทำเลทอง ทั้งซื้อและเช่า

อานิสงส์จากการพัฒนาระบบคมนาคมอย่างโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยในจังหวัดปริมณฑล (ประกอบด้วย จังหวัดนครปฐม, จังหวัดนนทบุรี, จังหวัดปทุมธานี, จังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดสมุทรสาคร) มีแนวโน้มเติบโตตามไปด้วย
ล่าสุดเมื่อมีการเปิดให้บริการโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี เชื่อมต่อการเดินทางมายังจังหวัดนนทบุรี ถือเป็นปัจจัยบวกที่ส่งเสริมให้โครงการอสังหาฯ ในละแวกนี้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ส่งผลให้ "อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี" กลายเป็นเขตปริมณฑลที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ซื้อและผู้เช่ามากที่สุดในรอบปี 2566
โดย 5 ทำเลในเขตปริมณฑลที่มีความต้องการซื้อมากที่สุดในรอบปี 2566 ได้แก่
  • อันดับ 1 อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี
  • อันดับ 2 อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
  • อันดับ 3 อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
  • อันดับ 4 อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
  • อันดับ 5 อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี
ขณะที่ 5 ทำเลในเขตปริมณฑลที่มีความต้องการเช่ามากที่สุดในรอบปี 2566 ได้แก่
  • อันดับ 1 อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี
  • อันดับ 2 อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
  • อันดับ 3 อำเภอเมืองปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
  • อันดับ 4 อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
  • อันดับ 5 อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
ส่องทำเลทองประจำปี 2566 ทำเลไหนมีความต้องการซื้อ-เช่าสูง
เมื่อแบ่งตามประเภทอสังหาฯ พบว่าต่างจากภาพรวมทั่วประเทศและในกรุงเทพฯ อย่างสิ้นเชิง โดยที่อยู่อาศัยแนวราบได้รับความสนใจซื้อมากที่สุดในเขตปริมณฑล บ้านเดี่ยวมีสัดส่วนมากถึง 48% ของอสังหาฯ ทั้งหมด ตามมาด้วยทาวน์เฮ้าส์และคอนโดมีสัดส่วน 31% และ 21% ตามลำดับ
นอกจากนี้ ด้วยต้นทุนราคาที่ดินที่ถูกกว่าในกรุงเทพฯ จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ผู้บริโภคหันมาเลือกซื้อที่อยู่อาศัยแถบชานเมืองมากขึ้น โดยระดับราคาที่อยู่อาศัยในเขตปริมณฑลที่มีความต้องการซื้อมากที่สุดในรอบปี 2566 ได้แก่
  • อันดับ 1 ระดับราคา 1-3 ล้านบาท มีสัดส่วน 46% ของระดับราคาทั้งหมด
  • อันดับ 2 ระดับราคา 3-5 ล้านบาท มีสัดส่วน 22% ของระดับราคาทั้งหมด
  • อันดับ 3 ระดับราคา 5-10 ล้านบาท มีสัดส่วน 14% ของระดับราคาทั้งหมด
ส่องทำเลทองประจำปี 2566 ทำเลไหนมีความต้องการซื้อ-เช่าสูง
ขณะที่ภาพรวมความต้องการเช่าที่อยู่อาศัย หากแบ่งตามประเภทอสังหาฯ พบว่าคอนโดยังคงครองความนิยมมากที่สุด โดยมีสัดส่วนความต้องการเช่า 60% ของอสังหาฯ ทั้งหมด ขณะที่ที่อยู่อาศัยแนวราบอย่างบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์มีความต้องการเช่าในสัดส่วนไล่เลี่ยกัน (22% และ 19% ตามลำดับ)
ส่วนด้านระดับค่าเช่าที่มีความต้องการาเช่ามากที่สุดในเขตปริมณฑล พบว่า ส่วนใหญ่ให้ความสนใจเลือกเช่าที่อยู่อาศัยในระดับราคาไม่เกิน 10,000 บาท
อันดับ 1 ระดับค่าเช่าไม่เกิน 10,000 บาท/เดือน มีสัดส่วน 52% ของระดับค่าเช่าทั้งหมด
อันดับ 2 ระดับค่าเช่า 10,000-20,000 บาท/เดือน มีสัดส่วน 27% ของระดับค่าเช่าทั้งหมด
อันดับ 3 ระดับค่าเช่ามากกว่า 30,000 บาท/เดือน มีสัดส่วน 11% ของระดับค่าเช่าทั้งหมด
สะท้อนให้เห็นว่าค่าครองชีพในเขตปริมณฑลยังคงอยู่ในระดับเหมาะสม ไม่มีปัจจัยกดดันให้ระดับค่าเช่าที่อยู่อาศัยพุ่งสูงจนเกินเอื้อม ถือเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดให้ผู้บริโภคขยับขยายมาอยู่เขตปริมณฑลมากขึ้น
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ