ห้องสตูดิโอ เหมาะกับใคร แต่งห้องอย่างไรให้ดูกว้าง

ห้องสตูดิโอ ถือเป็นขนาดห้องคอนโดที่มีขนาดเล็กที่สุดในโครงการ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อคอนโดในราคาที่เอื้อมถึงได้มากที่สุด และส่วนใหญ่จะเป็นรูปแบบห้องที่มักจะจัดโปรโมชันมากที่สุดด้วย ลองมาทำความรู้จักห้องสตูดิโอว่าจริง ๆ แล้วมีขนาดเท่าไหร่ และเลือกอย่างไรให้เหมาะกับคุณ พร้อม 4 วิธีแต่งห้องสตูดิโอให้ดูกว้าง

หลายคนอาจสงสัยว่า ห้องสตูดิโอคือห้องแบบไหน หน้าตาเป็นอย่างไร จริง ๆ แล้ว ห้องสตูดิโอ คือห้องคอนโดที่ส่วนใหญ่มักรวมพื้นที่ห้องนอน ห้องนั่งเล่น และห้องครัว ไว้ในพื้นที่เดียวกัน มักเป็นห้องขนาดเล็กและมีราคาถูกที่สุดในโครงการคอนโด

ห้องสตูดิโอ กลายมาเป็นหนึ่งในทางเลือกแบบห้องชุดในโครงการคอนโด เพื่อรองรับความต้องการของผู้ที่ต้องการพื้นที่พักอาศัยไม่มาก เน้นที่การพักผ่อนเป็นหลัก ขนาดของห้องสตูดิโอจึงมีพื้นที่เล็กที่สุดในโครงการคอนโดมิเนียม

โดยแต่เดิมห้องสตูดิโอที่มีขนาดเล็กที่สุดจะมีพื้นที่ประมาณ 25-30 ตาตรางเมตร แต่ปัจจุบันคอนโดได้รับความนิยมสูงมาก ประกอบกับราคาที่ดินปรับตัวเร็ว ทำให้ขนาดห้องสตูดิโอถูกออกแบบให้มีขนาดเล็กลงไปอีก เพื่อให้ตอบโจทย์ต้นทุนการก่อสร้าง ปัจจุบันห้องสตูดิโอที่มีขนาดเล็กที่สุดมีพื้นที่เริ่มต้น 21 ตารางเมตร และมีขนาดใหญ่ไม่เกิน 30 ตารางเมตร

ห้องสตูดิโอในโครงการคอนโดนั้น แม้ว่าจะเป็นห้องที่มีขยนาดเล็ก แต่ก็เหมาะกับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด หรือมีงบประมาณในการซื้อไม่สูง แต่อยากได้ทำเลที่ดีอยู่ใจกลางเมือง เช่น กลุ่มนักเรียน นักศึกษา คนโสด และผู้ที่พึ่งเริ่มต้นการทำงาน

อย่างไรก็ตามด้วยขนาดพื้นที่ที่จำกัด การอยู่คนเดียวจึงสะดวกสบายกว่าการอยู่เป็นคู่ แต่ก็ใช่ว่าเหล่าคู่รักจะไม่เหมาะกับห้องสตูดิโอเสมอไป แนะนำว่าควรเลือกขนาดห้องที่ใหญ่ขึ้น จากปกติที่อยู่คนเดียวห้องขนาด 25-27 ตารางเมตร ก็ถือว่ากำลังดี หากอยู่กับแฟนหรือคนรัก ควรเลือกห้องสตูดิโอขนาด 30-40 ตารางเมตร ก็จะทำให้แต่ละคนสามารถจัดสรรมุมส่วนตัว ที่อยู่บนพื้นที่ห้องสตูดิโอเดียวกันได้อย่างไม่อึดอัดจนเกินไป

แม้ว่าห้องสตูดิโอจะเป็นห้องที่มีขนาดเล็กที่สุดในโครงการคอนโด แต่ข้อดีของห้องสตูดิโอ คือ

1. ราคาขายถูกกว่า ห้องสตูดิโอมีราคาขายที่ถูกกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน และมีราคาขายถูกกว่าที่อยู่อาศัยประเภทอื่น ๆ และในหลาย ๆ โครงการ มักจะมีโปรโมชันน่าสนใจสำหรับห้องสตูดิโอมานำเสนออยู่บ่อย ๆ

2. ห้องสตูดิโอทำความสะอาดง่าย ด้วยความที่ที่ห้องสตูดิโอเป็นห้องโล่งจึงสะดวกและง่ายต่อการทำความสะอาด เพราะมีซอกมุมน้อย จึงง่ายกว่าการทำความสะอาดห้องขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ฟังก์ชันหลากหลาย

3. ห้องสตูดิโอสามารถตกแต่งได้หลากหลายกว่าห้องชุดแบบอื่น ๆ ด้วยความที่ห้องสตูดิโอส่วนใหญ่มักเป็นห้องโล่ง ๆ ไม่มีการกั้นผนัง หรือกำแพง จึงตกแต่งได้หลากหลาย และยืดหยุ่นกว่าห้องรูปแบบอื่น ๆ เจ้าของห้องจึงมีอิสระในการตกแต่งได้อย่างเต็มที่

เมื่อมีข้อดี ก็ต้องมีข้อด้อย ห้องสตูดิโอนั้น แม้จะมีข้อดีที่เป็นห้องโล่งสามารถตกแต่งได้หลากหลาย แต่ข้อด้อย คือ

1. ขนาดพื้นที่ห้องที่จำกัด โดยเฉพาะเมื่อมีการตกแต่งพื้นที่เต็มด้วยเฟอร์นิเจอร์ และของใช้ครบครัน ซึ่งจะทำให้พื้นที่อยู่อาศัยลดลง ทำให้มีพื้นที่ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ค่อยมาก

2. ห้องสตูดิโอมีไม่ค่อยมีความเป็นสัดเป็นส่วน บ่อยครั้งที่เราพบว่าในห้องสตูดิโอนั้น ไม่มีการกั้นห้อง เพราะมีการใช้พื้นที่ร่วมกัน คือมีทั้งห้องนอน ห้องครัว ห้องนั่งเล่น ในพื้นที่เดียวกัน ดังนั้น สำหรับผู้ที่ชอบความเป็นสัดเป็นส่วน ห้องสตูดิโอคงไม่ใช่คำตอบที่เหมาะสมกับคุณ

3. ห้องสตูดิโอจะไม่มีพื้นที่ส่วนตัว สำหรับคนที่ชอบความส่วนตัว ต้องยอมรับว่าห้องสตูดิโอ อาจไม่เหมาะสำหรับการพักร่วมกันกับเพื่อหรือคนอื่น ๆ และไม่เหมาะกับการรับแขก หรือเป็นที่พบปะเพื่อนฝูง เพราะหากไม่สนิทกันจริงคงทำให้ลำบากใจในการวางตัวไม่เบา หากต้องมีแขกมาเยือน และเข้าถึงห้องนอนของเรา

แม้ว่าห้องสตูดิโอ จะเป็นห้องขนาดเล็ก แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคในการตกแต่งให้น่าอยู่ และอันที่จริงแล้วห้องสตูดิโอขนาดเล็กนั้นก็สามารถตกแต่งให้สวยและอยู่สบายได้ไม่แพ้ห้องใหญ่

การตกแต่งห้องสตูดิโอให้ดูโปร่งโล่งนั้น ทำได้ไม่ยากแต่ต้องอาศัยความมีระเบียบของผู้อยู่อาศัย ด้วยการจัดข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่ไม่ได้หยิบใช้บ่อยเอาไว้ใต้ม้านั่ง โซฟา เก้าอี้ หรือโต๊ะกาแฟให้เป็นระเบียบ นอกจากนี้อาจใช้ชั้นวางของแบบแขวนเพดานไว้เก็บบนที่สูงเหนือระดับสายตา ก็จะช่วยพาให้คอนโดดูโล่งสบายตาขึ้นมาได้

การเลือกสีผนังโทนกลาง ๆ ช่วยเพิ่มความกว้างของห้อง เพราะโทนสีห้องเป็นตัวช่วยที่ทำให้ห้องดูกว้างกว่าที่เป็นอยู่ โดยเฉพาะโทนสีกลาง ๆ อย่างสีขาว สีเทาอ่อน สีครีม และสีฟ้า

นอกจากการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้ใช้ประโยชน์ได้มากกว่าหนึ่งอย่างก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การตกแต่งให้ได้ดูโปร่งโล่งมากขึ้น เช่น เดย์เบด หรือโซฟากึ่งเตียงนอน แทนโซฟาชุดใหญ่ โต๊ะเครื่องแป้งที่แปลงเป็นโต๊ะเขียนหนังสือได้ รวมทั้งเลือกเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ หากไม่ได้ใช้ก็สามารถพับเก็บได้

ในกรณีที่ต้องกั้นห้อง ควรเลือกใช้ผนังหรือฉากกั้นห้องแบบโปร่งที่สามารถมองทะลุได้ หรือใช้ประตูกระจกบานเลื่อน ซึ่งจะไม่กินพื้นที่พร้อมทำให้ห้องดูปลอดโปร่ง แต่ถ้าต้องการความเป็นส่วนตัว ให้เลือกใช้กระจกฝ้าเพื่อกั้นไม่ให้มองทะลุเห็นภายในห้องได้

สำหรับที่พักอาศัยในคอนโด รูปแบบห้องสตูดิโอมักได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องเสมอ โดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจผันผวน นอกจากมีจุดเด่นที่ราคาจับต้องได้ง่ายแล้ว ขนาดพื้นที่ ทำเล ไปจนถึงการตกแต่ง ก็เรียกได้ว่าตอบโจทย์ผู้พักอาศัยหลากหลายกลุ่ม เหมาะทั้งการซื้อไว้อยู่อาศัยเองและซื้อเพื่อลงทุน