อยากซื้อบ้านตอนอายุ 30 จะเก็บเงินอย่างไร

DDproperty Editorial Team
อยากซื้อบ้านตอนอายุ 30 จะเก็บเงินอย่างไร
หากเราอยากจะซื้อบ้านสักหลังหรือคอนโดสักห้องหนึ่ง เราควรมีเงินไม่ต่ำกว่า 15% ของมูลค่าบ้านหรือคอนโดที่เราจะซื้อ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในส่วนของเงินดาวน์ และเงินที่ส่วนต่าง ๆ จากกรณีที่ขอสินเชื่อบ้านได้เพียงบางส่วน แต่ถ้าจะให้มั่นใจว่าจะมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในการซื้อขายล่ะก็ควรมีเงินเก็บไว้ประมาณ 20% ของมูลค่าบ้าน หากเริ่มทำงานตอนอายุ 24 ปี ก็จะมีเวลาประมาณ 6 ปี ในการเก็บสะสมเงินเพื่อซื้อบ้าน
ทั้งนี้ การเก็บเงินเอาไว้ในบัญชีออมทรัพย์นั้นก็ให้ผลตอบแทนที่ต่ำเหลือเกิน แต่ถ้าหากนำไปลงทุนก็กลัวว่าจะมีความเสี่ยง ที่ทำให้สุดท้ายแล้วอาจเกิดความเสียหายถึงขั้นที่กระทบกระเทือนต่อเงินต้นได้ แล้วฝันที่จะมีบ้านตอนอายุ 30 ปี ก็ต้องเลื่อนออกไป ถ้าอย่างนั้นจะเก็บเงินไว้ที่ไหนได้บางล่ะ DDproperty มีคำตอบ

บัญชีเงินฝากออมทรัพย์

คือบัญชีเงินฝากที่เรามีอยู่แล้ว เช่น บัญชีเงินเดือนที่บริษัทโอนเงินค่าจ้างเข้ามาในทุก ๆ เดือน บัญชีเงินฝากประเภทนี้มีจุดเด่นอยู่ที่สภาพคล่องที่สูงมากจะถอนเงินเท่าไร และเมื่อไรก็ได้ทำให้ไม่ว่าฝากเงินหรือนำเงินไปลงทุนในผลิตภัณฑ์การเงินใด ๆ ก็ควรมีเงินเหลือเอาไว้ในบัญชีออมทรัพย์เสมอ เผื่อในกรณีฉุกเฉินจะได้มีแหล่งเงินที่สามารถนำออกมาใช้จ่ายได้ทันที
นอกจากนี้หากเลือกเปิดบัญชีออมทรัพย์กับบางธนาคารยังได้รับสิทธิยกเว้นค่าธรรมเนียมจ่ายบิล หรือค่าธรรมเนียมโอนข้ามเขตอีกด้วยทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มาก อีกทั้งการฝากออมทรัพย์ในลักษณะบัญชีออนไลน์ที่ไม่มีสมุดคู่ฝากก็ยังได้รับอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าแบบที่มีสมุดคู่ฝากอีกด้วย

ขายบ้านเดี่ยว

รวมประกาศขายบ้านเดี่ยวทั่วประเทศ บนเว็บไซต์ DDproperty

บัญชีเงินฝากประจำ

เป็นบัญชีเงินฝากที่ประเภทหนึ่งที่เราจะต้องนำเงินไปฝากไว้ภายใต้เงื่อนไขของธนาคารเพื่อให้ได้รับอัตราดอกเบี้ยตามที่ธนาคารตกลงซึ่งสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ เช่น ฝากเงินเป็นก้อนเอาไว้โดยไม่ถอนตลอด 24 เดือน หรือฝากในจำนวนเท่า ๆ กันทุก ๆ เดือนต่อเนื่อง 20 เดือน เป็นต้น ซึ่งเราอาจแบ่งเงินจำนวนหนึ่งมาฝากไว้ในบัญชีเงินฝากประจำก็ได้
โดยเราจะต้องมั่นใจว่าเราจะไม่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนนี้ในช่วงเวลาที่ยังฝากอยู่เพราะถ้าหากถอนออกมาก่อนกำหนดก็จะไม่ได้รับอัตราดอกเบี้ยสูงตามที่ตกลงไว้
ดังนั้น บัญชีประเภทนี้จึงมีสภาพคล่องที่ต่ำกว่าบัญชีออมทรัพย์เพราะไม่สามารถถอนได้ทุกเมื่อ แต่หากเรารู้กำหนดเวลาที่แน่นอนว่าจะใช้เงินก้อนนี้เพื่อซื้อบ้านเมื่อไรก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล
ดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์-ฝากประจำ

ดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์-ฝากประจำ

ตราสารหนี้

เป็นผลิตภัณฑ์การเงินที่ผู้ที่กำลังเก็บเงินเพื่อซื้อบ้านสามารถนำเงินไปลงทุนได้โดยตรง โดยตราสารหนี้คือตราสารทางการเงินชนิดหนึ่งที่ผู้กู้หรือลูกหนี้เป็นฝ่ายออกตราสารหนี้ และผู้ลงทุนจะซื้อตราสารหนี้จะอยู่ในฐานะผู้ให้กู้หรือเจ้าหนี้
ผู้ลงทุนตราสารหนี้จะได้รับดอกเบี้ยจากผู้ออกตราสารหนี้อย่างสม่ำเสมอ และได้รับเงินต้นคืน ณ สิ้นอายุของตราสารหนี้ซึ่งเป็นการกำหนดเวลาที่แน่นอน หรือจะขายก่อนถึงกำหนดเวลาก็สามารถทำได้ จึงเหมาะสมที่จะลงทุนเพื่อรอนำเงินไปใช้ซื้อบ้าน
สำหรับการซื้อขายนั้นสามารถซื้อ ขาย เปลี่ยนมือได้ในตลาดตราสารหนี้ (Bond Electronic Exchange) ซึ่งดำเนินการภายใต้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นอกจากจะมีความมั่นคงก็ยังลดความเสี่ยงเรื่องสภาพคล่องได้เช่นกัน
แต่ในการลงทุนตราสารหนี้โดยตรงนี้กำหนดมูลค่าการลงทุนขั้นต่ำไว้ที่ 1 แสนบาท หากมีเงินไม่มากนักก็ไม่สามารถทยอยลงทุนได้ แต่สามารถลงทุนในตราสารหนี้ทางอ้อมได้ผ่านทางกองทุนรวมตลาดเงิน

กองทุนรวมตลาดเงิน

หากไม่มีเงินลงทุนทีเดียวครั้งละมาก ๆ แต่ยังต้องการลงทุนในตราสารหนี้ก็สามารถลงทุนทางอ้อมได้ด้วยการซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงิน ซึ่งดำเนินการโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม โดยระดมทุนจากผู้ลงทุนไปลงทุนในเงินฝากของธนาคาร และตราสารหนี้ระยะสั้น เช่น ตั๋วเงินคลัง ตั๋วแลกเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือพันธบัตร
รวมไปถึงหุ้นกู้เอกชน จุดเด่นของกองทุนรวมตลาดเงินคือ เงินขั้นต่ำในการลงทุนนั้นไม่มากเพียง 500-1,000 บาท ก็ซื้อหน่วยลงทุนได้แล้ว นอกจากนี้คือผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับการฝากเงินในบัญชีฝากประจำ แต่มีสภาพคล่องที่สูงมากโดยผู้ลงทุนสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ และสำหรับการขายหน่วยลงทุนนั้นจะได้รับเงินภายในวันถัดไปนับจากส่งคำสั่งขาย
ทั้ง 4 ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เรานำมาเสนอในครั้งนี้ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการเก็บสะสมเงินและลงทุนในช่วงระยะเวลาประมาณ 6 ปี ตั้งแต่เริ่มทำงาน เพื่อให้มีเงินเพียงพอที่จะสานฝันของตัวเองด้วยการซื้อบ้านตอนอายุ 30 ปี
อย่างไรก็ตาม การลงทุนแต่ละแบบต่างมีข้อดีข้อเสีย ข้อจำกัด และความเสี่ยงที่แตกต่างกันไป ผู้ลงทุนควรศึกษารายละเอียดให้ดีกับสถาบันการเงินก่อนตัดสินใจลงทุน และควรลงทุนในหลาย ๆ รูปแบบแบบกระจายความเสี่ยง
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย เชษฐพล มานิตย์ Online Writer ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kittikom@ddproperty.com
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ