ใคร ๆ ก็อยากมีบ้านเป็นของตนเองไว้อยู่กับครอบครัวหรือคนที่รัก ปัจจุบันมีบ้านที่ตอบโจทย์ความต้องการและราคาเอื้อมถึงให้ทุกคนเป็นเจ้าของได้โดยง่าย ผ่อนบ้านราคาถูก ราคาประมาณ 2 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่หลายคนอาจจะคิดว่า บ้านราคา 2 ล้าน จะมีแต่ทาวน์โฮม หรือคอนโด แต่ที่จริงแล้วก็ยังมีบ้านเดี่ยว บ้านแฝดด้วย
แต่เรื่องการซื้อบ้านไม่ได้จบแค่การซื้อเท่านั้น ต้องคำนึงถึงการผ่อนด้วย ลองมาดูว่าถ้าจะผ่อนบ้านราคาถูก ซื้อบ้าน 2 ล้าน ผ่อนเดือนละเท่าไหร่ เพื่อให้บ้านหลังนั้นอยู่กับเราไปตลอดรอดฝั่ง
อ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
- ลักษณะทั่วไปของบ้านราคา 2 ล้านบาท
- ต้องมีรายรับเท่าไหร่กับการผ่อนบ้านราคาถูก 2 ล้าน
- ถ้าบ้าน 2 ล้านผ่อนเดือนละเท่าไหร่
- วิธีคำนวณอัตราการผ่อนบ้าน
- ผ่อนบ้านราคาถูก 2 ล้าน ควรดาวน์เท่าไหร่
- ขั้นตอนในการขอสินเชื่อบ้าน
- โอนกรรมสิทธิ์และจดจำนอง
ลักษณะทั่วไปของบ้านราคา 2 ล้านบาท
คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าขนาดของบ้านกับทำเลที่ตั้งของบ้านนั้น ๆ มีผลต่อราคาอย่างมาก โดยส่วนใหญ่แล้ว ผ่อนบ้านราคาถูก บ้านราคาประมาณ 2 ล้านบาท ถ้าเป็นบ้านเดี่ยว 1-2 ชั้น จะมีขนาดประมาณ 20-50 ตารางวา ส่วนบ้านแฝด 2 ชั้น จะมีขนาด 20-35 ตารางวา โดยประมาณ
นอกจากเนื้อที่ของบ้านแล้วการคิดถึงจำนวนห้องที่ต้องใช้สอยในบ้านก็เป็นปัจจัยที่สำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของจำนวนห้องก็มีผลต่อราคาของบ้านเช่นกัน ยังไม่รวมถึงว่าทำเลที่ตั้งนั้น เป็นที่ที่ได้รับความนิยมด้วยหรือไม่ (ยิ่งนิยมยิ่งราคาสูง)
ประกาศขายบ้านเดี่ยว
รวมประกาศขายบ้านเดี่ยว ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท หลากทำเล
ต้องมีรายรับเท่าไหร่กับการผ่อนบ้านราคาถูก 2 ล้าน
การคำนวณยอดผ่อนชำระ จะคิดง่าย ๆ คือ เงิน 1 ล้าน อยู่ที่ประมาณ 7,000 บาท ดังนั้น ซื้อบ้านราคา 2 ล้านบาท จะผ่อนประมาณเดือนละ 14,000 บาทต่อเดือน ซึ่งรายจ่ายนี้ไม่ควรเกิน 30-40% ของรายได้ต่อเดือน ซึ่งในกรณีนี้ต้องไม่มีภาระหนี้สินอื่น ๆ หากมีจะลดหย่อนไปตามภาระที่เพิ่มขึ้นนั้น ๆ และควรเผื่อเงินไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน ในกรณีฉุกเฉิน ควรมีเงินสำรองไว้อย่างน้อย 10% ของรายได้ หากจะผ่อนบ้านราคาถูก ซื้อบ้านในราคา 2 ล้านบาท จึงควรมีรายได้หรือเงินเดือนคงที่ ประมาณ 1 ใน 60 ของราคาบ้าน
ดังนั้น หากต้องการผ่อนบ้านราคาถูก 2 ล้าน เป็นของตัวเอง จำเป็นต้องมีรายได้หรือเงินเดือนคงที่ ตัวอย่างเช่น บ้านราคา 2 ล้าน ควรมีรายรับอยู่ที่ 35,000 บาท (ถ้ามีไม่ถึงลองหาผู้กู้ร่วม อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกู้ร่วมได้ที่นี่)
ถ้าบ้าน 2 ล้านผ่อนเดือนละเท่าไหร่
โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ซื้อบ้านที่เลือกจากทำเลที่ตั้งเป็นหลักจะไปดูบ้านก่อน ได้รับรู้ราคาบ้าน แล้วค่อยนำมาคำนวณความเป็นไปได้ที่จะเป็นเจ้าของ
ยกตัวอย่างเช่น นายเอต้องการกู้ซื้อบ้านราคา 2 ล้านบาท เมื่อปรึกษากับธนาคารแล้วสามารถปล่อยกู้ได้ 80% ดังนั้นนายเอต้องมีเงินดาวน์บ้าน 4 แสนบาท เมื่อพิจารณาระยะเวลาการผ่อนชำระนาน 30 ปี จากวงเงินที่เหลือ 1,600,000 บาท ค่างวดที่ต้องผ่อนบ้าน 2 ล้านหลังนี้ ชำระแต่ละเดือนเป็นเงิน 9,592 บาท
คำนวณยอดผ่อนต่อเดือน
คำนวณยอดผ่อนชำระต่อเดือนตามอัตราดอกเบี้ยของคุณด้วยเครื่องมือคำนวณสินเชื่อนี้
วิธีคำนวณอัตราการผ่อนบ้าน
หากพิจารณาจากภาระการผ่อนชำระเป็นตัวตั้ง และคิดย้อนกลับไปเป็นราคาบ้าน โดยปกติแล้วเราควรผ่อนชำระไม่เกิน 30-50% ของรายรับหลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ยกตัวอย่างเช่น หากมีรายรับหลังหักค่าใช้จ่าย 20,000 บาทต่อเดือน หมายความว่า เรามีกำลังผ่อนบ้านอยู่ประมาณ 6,000-10,000 บาทต่อเดือน
ราคาของบ้านที่เราจะผ่อนในช่วงนี้จะอยู่ประมาณ 1.5-2.5 ล้านบาท เพียงเท่านี้ก็คงจะตอบได้แล้วว่า บ้าน 2 ล้านผ่อนเดือนละเท่าไหร่
ผ่อนบ้านราคาถูก 2 ล้าน ควรดาวน์เท่าไหร่
การวางเงินดาวน์บ้านส่วนใหญ่จะให้เราวางเงินดาวน์ 5-20% แนะนำให้วางเงินดาวน์ไว้มากที่สุดที่เราสามารถวางเงินได้ เพื่อลดหย่อนค่าผ่อนชำระและดอกเบี้ยในแต่ละเดือน หากเงินดาวน์มาก ยอดผ่อนจะน้อยลง ทำให้ผ่อนได้หมดเร็วขึ้น ดังนั้นเราจึงต้องเตรียมความพร้อมเรื่องเงินดาวน์ ซึ่งขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถาบันการเงินและคุณสมบัติของผู้ยื่นกู้
อัปเดตมาตรการ LTV
อัปเดตมาตรการ LTV ต้องวางเงินดาวน์เท่าไหร่
ยกตัวอย่างเช่น บ้านราคา 2 ล้านบาท ธนาคารปล่อยสินเชื่อ 90% ได้ 1,800,000 เท่ากับเราต้องหาเงินดาวน์ประมาณ 200,000 บาท เพื่อดาวน์บ้าน ทั้งนี้ยังไม่นับรวมส่วนลดจากโครงการบ้านที่เราซื้อ ซึ่งธนาคารไม่นับรวมตรงส่วนลด
ดังนั้น หากต้องการผ่อนบ้านราคาถูก การวางเงินดาวน์ยิ่งเยอะยิ่งดี ยิ่งผ่อนในเวลาอันสั้นจะทำให้เสียดอกน้อยลง หากยิ่งผ่อนนานอาจทำให้เสียค่าดอกเบี้ยแพงกว่าปกติได้
วิธีผ่อนบ้านให้หมดเร็ว
วิธีผ่อนบ้านให้หมดเร็ว โปะบ้าน 2 แบบ ชำระเกินทุกงวด vs โปะเพิ่มปีละครั้ง
ขั้นตอนในการขอสินเชื่อบ้าน
1. เตรียมความพร้อม
สิ่งสำคัญก่อนการขอสินเชื่อบ้านคือ คุณควรเตรียมตัวให้พร้อมโดยพิจารณารายได้และความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ สร้างวินัยทางการเงินที่ดี เคลียร์หนี้สินต่าง ๆ ให้เรียบร้อย เดินบัญชีอย่างสม่ำเสมอ เพราะสถาบันการเงินจะนำข้อมูลเหล่านี้มาพิจารณาเพื่ออนุมัติสินเชื่อ
2. เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคาร
สถาบันการเงินแต่ละที่ก็จะมีอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องมีการเปรียบเทียบความคุ้มค่าและข้อเสนอ โดยดูว่าข้อเสนอลักษณะไหนที่เหมาะสมและตอบโจทย์กับความต้องการของคุณมากที่สุด ซึ่งในเบื้องต้นควรดูที่อัตราดอกเบี้ยเงิน, กู้ค่างวดในการผ่อนชำระ, ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เป็นต้น
อัปเดตอัตราดอกเบี้ย MRR MLR MOR
อัปเดตดอกเบี้ย MRR MLR MOR 15 ธนาคาร ธนาคารไหนดอกเบี้ยบ้านต่ำสุด
3. เตรียมเอกสาร
โดยปกติแล้วเอกสารที่จำเป็นต้องใช้จะมีด้วยกัน 3 ส่วน แบ่งเป็นเอกสารเกี่ยวกับตัวบ้านที่ใช้เป็นหลักประกัน, เอกสารเกี่ยวกับตัวบุคคลผู้ขอสินเชื่อ และเอกสารทางการเงิน
คุณสมบัติทั่วไปของผู้สมัครสินเชื่อ
– สัญชาติไทย และต้องอยู่อาศัยในประเทศไทย
– พนักงานประจำ, ข้าราชการ, พนักงานรัฐวิสาหกิจ, พนักงานสัญญาจ้างของหน่วยงานราชการหรือรัฐวิสาหกิจ, ผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัวและเจ้าของกิจการ
– อายุ 21-62 ปี เมื่อนับรวมระยะเวลาผ่อนชำระแล้ว อายุไม่เกิน 65 ปี
อายุงานก็มีส่วนสำคัญในการพิจารณา
– 6 เดือนขึ้นไป สำหรับพนักงานประจำ, ข้าราชการ, พนักงานรัฐวิสาหกิจ
– 1 ปีขึ้นไป สำหรับพนักงานสัญญาจ้างของหน่วยงานราชการหรือรัฐวิสาหกิจ หรือบริษัทที่น่าเชื่อถือ เฉพาะพนักงานที่ไม่ได้ใช้แรงงานเป็นหลัก ในระดับบริหารตั้งแต่ระดับผู้จัดการ/หัวหน้างานขึ้นไป
– 2 ปีขึ้นไป สำหรับผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว/เจ้าของกิจการ
รายได้ต่อเดือน
– พนักงานประจำ 15,000 บาทขึ้นไป
– ประกอบธุรกิจส่วนตัว 30,000 บาทขึ้นไป/คน/ธุรกิจ
*** รายละเอียดไม่สามารถระบุได้ชัดเจน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสินเชื่อนั้น ๆ
4. สำรวจและประเมินหลักประกัน
เมื่อดำเนินการยื่นกู้เรียบร้อยแล้วทางสถาบันการเงินจะติดต่อคุณและส่งเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมิน เข้าไปประเมินมูลค่าหลักประกัน โดยทั่วไปแล้วเจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับภายใน 7 วันทำการหลังจากที่คุณได้ยื่นขอสินเชื่อแล้ว
5. แจ้งผลการอนุมัติสินเชื่อ
สถาบันการเงินจะติดต่อและแจ้งผลการอนุมัติสินเชื่อภายใน 14 วันอย่างช้าที่สุดไม่เกิน 30 วัน นับจากวันที่คุณได้ยื่นขอสินเชื่อ หากสถาบันการเงินอนุมัติสินเชื่อก็จะทำการนัดหมายวันทำสัญญากู้เงินและสัญญาจำนองต่อไป
ทำอย่างไรเมื่อกู้ไม่ผ่าน
ดู 4 สาเหตุที่ทำให้คุณกู้ไม่ผ่าน พร้อมวิธีแก้ไข
6. ลงนามในสัญญากู้
หากทางสถาบันการเงินอนุมัติสินเชื่อแล้ว คุณจะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อลงนามในสัญญากู้ พร้อมทั้งนัดวันไปทำนิติกรรมจำนองที่สำนักงานที่ดิน
ขั้นตอน | รายละเอียด |
เตรียมเอกสารการกู้ | สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สลิปเงินเดือน บัญชีเงินฝาก 6 เดือนย้อนหลัง และเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง |
เปรียบเทียบธนาคาร | วงเงินกู้ อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาในการผ่อน ค่าธรรมเนียม ข้อเสนอการทำประกัน |
ยื่นเอกสาร/รอฟังผล | เลือกธนาคารที่ให้ข้อเสนอที่ดีที่สุด วงเงินกู้สูง อัตราดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนบ้านราคาถูก หมดไว |
แจ้งผลการอนุมัติสินเชื่อ | ภายใน 14 วันอย่างช้าที่สุดไม่เกิน 30 วัน นับจากวันยื่นขอสินเชื่อ พร้อมนัดหมายวันทำสัญญา |
การโอนกรรมสิทธิ์และจดจำนอง
ในวันโอนกรรมสิทธิ์ผู้กู้, ผู้ขาย, เจ้าหน้าที่ของธนาคาร ในกรณีมีผู้กู้ร่วมหรือค้ำประกัน คุณจะต้องนัดหมายให้บุคคลเหล่านั้นมาพร้อมกัน ณ สำนักงานที่ดิน ทุกอย่างจะถูกดำเนินการต่อหน้าเจ้าหน้าที่โดยผู้กู้จะต้องเตรียมค่าใช้จ่ายซึ่งประกอบไปด้วย ค่าจดจำนอง, ค่าธรรมเนียมการโอน, ค่าเบี้ยประกันคุ้มครองเครดิต, ค่าประกันอัคคีภัย เป็นต้น
ประกาศขายทาวน์เฮ้าส์
รวมประกาศขายทาวน์เฮ้าส์ ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท หลากทำเล
ข้อแนะนำ การซื้อบ้านสักหลังนอกจากจะดูเรื่องการเงินเป็นหลักแล้ว ยังต้องคำนึงถึงตัวบ้านด้วย อย่างเช่น ทำเลสถานที่ตั้ง สิ่งอำนวยความสะดวก และองค์ประกอบอื่น ๆ ที่เอื้ออำนวยต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้อยู่อาศัย ที่สำคัญวางแผนการเงินให้ดีทั้งก่อนและหลังการขอสินเชื่อ รักษาเครดิตที่ดีของเราไว้เพื่อทำธุรกรรมอื่น ๆ ต่อไป การผ่อนบ้านราคาถูก ผ่อนบ้าน 2 ล้าน ที่กล่าวมาไม่ยากอย่างที่คิด
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ