เรื่องซื้อบ้านกับการกู้สินเชื่อบ้านเรียกได้ว่าเป็นของคู่กัน แล้วจะเลือกกู้ซื้อบ้านกันธนาคารไหนดี? หายห่วงได้ DDproperty ได้รวบรวมข้อมูลอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน อัปเดตประจำเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2563
จากหลากหลายธนาคาร เช่น ธ.กสิกรไทย ธ.ไทยพาณิชย์ ธ.กรุงเทพ ธ.กรุงไทย ธ.ออมสิน ธ.ทหารไทย ธ.กรุงศรีอยุธยา มาเปรียบเทียบให้เห็นกันไปเลย
ที่ไหนให้สินเชื่อบ้าน โดยคิดดอกเบี้ยต่ำสุด มีเงื่อนไขอะไรบ้างเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการพิจารณาเลือกสินเชื่อ สำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้อบ้าน หรือคอนโดฯ ได้ง่ายขึ้น พร้อมตัวช่วยในการ
คำนวณผ่อนชำระสินเชื่อบ้าน
เดือน กุมภาพันธ์ 2563 ธนาคารส่วนใหญ่เริ่มมีการปรับอัตราดอกเบี้ยมาใช้ MRR หรือ อัตราดอกเบี้ยลอยตัวมากขึ้น และมีทางเลือกของผลิตภัณฑ์การกู้สินเชื่อบ้านที่หลายหลาย โดย DDproperty ได้นำอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกที่ต่ำที่สุดมาจัดอันดับ และมีอัตราดอกเบี้ยของธนาคารที่น่าสนใจ ดังนี้
ตารางอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน – คอนโดฯ ของธนาคารพาณิชย์ เดือน กุมภาพันธ์ 2563
ดอกเบี้ยต่ำสุดเฉลี่ย 3 ปีแรก
2.50%
วงเงินกู้สูงสุด
มาตรการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารอาคารสงเคราะห์ วงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาท
ดอกเบี้ยต่ำสุดเฉลี่ย 3 ปีแรก
2.50%
วงเงินกู้สูงสุด
วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาประเมิน (สินเชื่อบ้านกรุงไทยสำหรับบ้านใหม่ กรณีผู้กู้ประสงค์ทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ)
ดอกเบี้ยต่ำสุดเฉลี่ย 3 ปีแรก
2.89%
วงเงินกู้สูงสุด
100% ของราคาซื้อขาย หรือราคาประเมินธนาคารฯ แล้วแต่ราคาใดต่ำกว่า สำหรับกรณีซื้อจาก บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ธนาคารกำหนด (Top Selective Developers)
ดอกเบี้ยต่ำสุดเฉลี่ย 3 ปีแรก
2.90%
วงเงินกู้สูงสุด
สินเชื่อบ้านผ่อนต่ำ ล้านละ 10 บาท วงเงินให้กู้คิดตามความสามารถในการชำระหนี้ไม่จำกัดวงเงินกู้สูงสุด ผ่อนสูงสุดได้ 40 ปี
ดอกเบี้ยต่ำสุดเฉลี่ย 3 ปีแรก
2.95%
วงเงินกู้สูงสุด
100% ของราคาประเมินสำหรับคอนโดมิเนียมที่มีราคาตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป (ดอกเบี้ยคงที่ 0.5% ต่อปี นาน 1 ปี ฟรีค่าประเมินหลักประกัน และค่าจดจำนอง)
ดอกเบี้ยต่ำสุดเฉลี่ย 3 ปีแรก
3.00%
วงเงินกู้สูงสุด
70-95% ของราคาซื้อขายและราคาประเมิน (สินเชื่อเพื่อกลุ่มวิชาชีพเฉพาะ แพทย์ ผู้พิพากษา อัยการ และนักบิน และพนักงานประจำที่มีรายได้สูง 200,000 บาทขึ้นไป)
ดอกเบี้ยต่ำสุดเฉลี่ย 3 ปีแรก
4.50%
วงเงินกู้สูงสุด
80% ของราคาซื้อขายและราคาประเมินหลักประกัน (สำหรับพนักงานบริษัท)
ดอกเบี้ยต่ำสุดเฉลี่ย 3 ปีแรก
ดอกเบี้ยไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับธนาคารกำหนด
วงเงินกู้สูงสุด
95% ของราคาประเมิน (บริษัทอสังหาฯที่กำหนดและโครงการทั่วไป)
*** อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน เฉลี่ย 3 ปีแรก คำนวณแบบค่าเฉลี่ยทางคณิตศาสตร์เท่านั้น***
ที่มาอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเฉลี่ย 3 ปี แรก* สามารถดาวน์โหลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยในรูปแบบต่างๆ ของแต่ละธนาคาร และชมรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น อัตราดอกเบี้ยรายปี วงเงินกู้ และข้อมูลอื่นๆ ได้ที่นี่: ดาวน์โหลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัย ฉบับเต็มประจำเดือนนี้
อันดับที่ 1 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (G H Bank)
อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยต่ำสุดของ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (G H Bank) อยู่ที่ 2.50% มาจาก มาตรการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารอาคารสงเคราะห์ โดยมีอัตราดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ 2.50% ตลอด 3 ปีแรก โดยมีวงเงินให้กู้สูงสุดต่อรายหรือต่อหลักประกันไม่เกิน 3 ล้านบาท และกำหนดระยะเวลายื่นกู้และทำนิติกรรมจนกว่าวงเงินโครงสร้างที่คลอบคลุมสินเชื่อจะเต็ม
นอกจากนั้น
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (G H Bank) ยังมีผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านอื่น ๆ อีกมากมาย ที่มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีค่อนข้างต่ำ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อที่ร่วมกับนโยบายรัฐ โครงการบ้านจัดสรรที่ธนาคารกำหนด ตลอดจน โครงการสำหรับผู้สูงอายุ แต่ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จะมีระยะเวลาหมดเขตในการขอสินเชื่อตามที่ธนาคารกำหนด โดยสามารถดูอัตราดอกเบี้ยเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่น่าสนใจได้ที่
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (G H Bank)
อันดับที่ 2 ธนาคารกรุงไทย (KTB)
สำหรับ กรณีการขอสินเชื่อบ้านใหม่ แบบไม่ได้ทำประกัน ของ ธนาคารกรุงไทย มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกต่ำสุดอยู่ที่ 2.60% ส่วนสำหรับ กรณีขอสินเชื่อบ้านใหม่แบบทำประกัน มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกต่ำสุดอยู่ที่ 2.50% เท่านั้น
ทั้งนี้เอง ธนาคารกรุงไทย ยังมีอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจอย่าง สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับบุคลากรภาครัฐ โดยทางธนาคารใช้ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำที่ธนาคารเรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินกู้แบบกำหนดระยะเวลา (MLR) เป็นตัวกำหนดดอกเบี้ย โดยมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ที่ 4.35%
อันดับที่ 3 ธนาคารทหารไทย (TMB)
อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีต่ำที่สุดอยู่ที่ 2.89% แต่มีเงื่อนไขว่า โครงการที่กู้ซื้อนั้นต้องเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาฯ ที่ธนาคารกำหนด (Top Selective Developers) และต้องสมัครพร้อมผลิตภัณฑ์เสริมทั้ง 3 ประเภท โดยบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ ธนาคารทหารไทย (TMB) กำหนดประกอบไปด้วย
รีวิวโครงการจากบริษัทพัฒนาอสังหาฯ ชื่อดังบางส่วนตามที่ธนาคารกำหนด
อันดับที่ 4 ธนาคารออมสิน (GSB)
ทางเลือกของสินเชื่อบ้าน ธนาคารออมสิน มีผลิตภัณฑ์มากขึ้นกว่าปีก่อน ๆ และมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ที่ 2.90% จาก สินเชื่อบ้านผ่อนต่ำ ล้านละ 10 เพื่อตอบรับนโยบายรัฐลดค่าธรรมเนียมการโอน-ค่าจดจำนองเหลือ 0.01% สำหรับที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยให้วงเงินกู้ตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าแต่ละราย ไม่จำกัดวงเงินกู้สูงสุด ผ่อนสูงสุดได้ 40 ปี ระยะเวลาในการกู้จนกว่าวงเงินโครงสร้าง 25,000 ล้านบาทจะเต็ม
อันดับที่ 5 ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY)
อัตราดอกเบี้ยต่ำสุดอยู่ที่ 2.95% สำหรับ คอนโดมิเนียม 1 ล้านบาทขึ้นไป โดยผู้กู้จะได้รับสิทธิพิเศษจากธนาคาร คือ ดอกเบี้ยคงที่ 0.5% ต่อปี นาน 1 ปี ฟรีค่าประเมินหลักประกัน และค่าจดจำนอง
นอกจากนั้น กลุ่มอาชีพพิเศษ (แพทย์, สัตวแพทย์, ทันตแพทย์, เภสัชกร, ผู้พิพากษา และนักบินพาณิชย์) ก็สามารถใช้ อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกต่ำสุดที่ 2.95% เช่นกัน สำหรับการกู้เงินซื้อ อาคารพาณิชย์ / โฮมออฟฟิศ ทั้งมือหนึ่งและมือสอง ที่มีราคาตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป
โดยผลิตภัณฑ์สินเชื่อทั้ง 2 รูปแบบมี วงเงินกู้สูงสุดอยู่ที่ 90 – 100% ของราคาประเมินคอนโดมิเนียม และ 90% ของราคาประเมินบ้านและอาคารพาณิชย์ รวมไปถึงสิทธิพิเศษจากธนาคาร คือ ดอกเบี้ยคงที่ 0.5% ต่อปี นาน 1 ปี ฟรีค่าประเมินหลักประกัน และค่าจดจำนอง ซึ่งได้รับทั้ง 2 รูปแบบเช่นกัน
อันดับที่ 6 ธนาคารกรุงเทพ (BBL)
ธนาคารกรุงเทพ เป็นสถาบันทางการเงินที่มีผลิตภัณฑ์และทางเลือกของอัตราดอกเบี้ยที่หลากหลายมากที่สุด โดยมีอัตราดอกเบี้ยคงที่เฉลี่ย 3 ปีต่ำที่สุดอยู่ที่ 3.00% แต่มีเงื่อนไขในการขอสินเชื่อบ้าน คือ ผู้กู้สินเชื่อต้องเป็นกลุ่มวิชาชีพเฉพาะ คือ แพทย์ ผู้พิพากษา อัยการ และนักบิน หรือ พนักงานประจำที่มีเงินเดือนมากกว่า 200,000 บาท
อันดับที่ 7 ธนาคารกสิกรไทย (Kbank)
สำหรับ ธนาคารกสิกรไทย แบ่งผลิตภัณฑ์การขอสินเชื่อบ้าน 2 รูปแบบ คือ สำหรับพนักงานบริษัท มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ที่ 4.50% ส่วนสินเชื่อบ้านสำหรับ ผู้ประกอบการ มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ที่ 5.00% โดย ทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์และดอกเบี้ยดังกล่าวอยู่ในเงื่อนไขของการทำประกัน
ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์สินเชื่อทั้งหมด สำหรับพนักงานบริษัท และ ผู้ประกอบการ ธนาคารกสิกรไทยสามารถให้ วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 80% ของราคาซื้อขาย และ ไม่เกิน 80% ของราคาประเมินหลักประกัน
อันดับที่ 8 ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)
ทั้งนี้เอง ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ก็มีอัตราดอกเบี้ยทางเลือกสำหรับโครงการทั่วไปที่น่าสนใจ โดยให้วงเงินกู้สูงสุดจากการประเมินถึง 95% ทั้ง โครงการทั่วไป และ บริษัทอสังหาฯ ที่ธนาคารกำหนด ซึ่งอัตราดอกเบี้ยของโครงการทั้ง 2 รูปแบบจะมีอัตราดอกเบี้ยของแต่ละโครงการไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับธนาคารจะกำหนด
กรณีตัวอย่าง : ใช้อัตราส่วนการผ่อนชำระเบื้องต้นที่ 1,000,000 : 7,000
หากกู้ซื้อบ้านในราคาประเมิน 2,000,000 บาท สามารคิดเป็นยอดชำระเริ่มต้นต่อเดือนจากวงเงินกู้ได้ที่ประมาณ 14,000 บาทต่อเดือน
***คำนวณเบื้องต้นจากสมมุติ*** โดยใช้อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.89% ตลอดปีที่ 1-3
กู้ซื้อบ้านกับธนาคารแห่งหนึ่งที่มีดอกเบี้ยเฉลี่ยทั้ง 3 ปีอยู่ที่ 2.89% โดยแบ่งชำระเป็นจำนวนเงิน 14,000 บาทต่อเดือน ตลอดระยะเวลา 3 ปี รวมเป็นยอดชำระทั้งหมด 504,000 บาท แบ่งเป็นเงินต้น 347,196.69 บาท และคิดเป็นดอกเบี้ย 156,803.34 บาท
การคำนวณเงินต้นและดอกเบี้ยตามกรณีตัวอย่างด้านบนเป็นการคำนวณเบื้องต้น 3 ปีแรกเท่านั้น หากต้องการคำนวณการผ่อนสินเชื่อบ้านตลอดระยะเวลาการกู้ สามารถดาวน์โหลดตารางคำนวณผ่อนสินเชื่อบ้าน โดยอ้างอิงจากอัตราดอกเบี้ยและการผ่อนชำระจริงต่อเดือนได้ที่นี่
***ทั้งนี้การคำนวณดังกล่าวเป็นการคาดคะเน อัตราจริงขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร***
นอกจากอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารที่เราได้รวบรวมมาให้แล้ว เรายังมีเทคนิคเบื้องต้นในการเลือกสินเชื่อบ้านให้ได้ดอกเบี้ยต่ำและวงเงินกู้สูงมาแนะนำอีกด้วย
1. บ้านโครงการใหม่ หากคุณกำลังจะซื้อบ้านโครงการใหม่ หรือบ้านมือหนึ่ง ซึ่งเป็นการซื้อจากบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยตรง ปัจจุบันหลายบริษัทฯ มีการทำความร่วมมือกับธนาคารเพื่อให้อัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษแก่ลูกค้าของบริษัท ดังนั้นจึงไม่ควรมองข้ามสินเชื่อบ้านที่ทางโครงการจัดให้ หรือสามารถสอบถามจากทางธนาคารโดยตรงก็ได้ครับว่าโครงการที่สนใจจะซื้อนั้นเป็นโครงการที่ธนาคารให้การสนับสนุนอยู่หรือไม่
2. การซื้อทรัพย์สินธนาคาร NPA ธนาคารที่เป็นเจ้าของทรัพย์สิน NPA นั้น มักจะมีอัตราดอกเบี้ยพิเศษไว้ให้ลูกค้าที่ซื้อทรัพย์สินธนาคาร สามารถสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่สินเชื่อของธนาคารเจ้าของทรัพย์ได้
3. หน่วยงานที่ทำงาน บางธนาคารนั้นมีอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพื่อพนักงานที่ทำงานในหน่วยงานนั้นโดยเฉพาะในลักษณะสวัสดิการต่าง ๆ มีทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จึงควรสอบถามแก่ทางฝ่ายทรัพยากรบุคคลว่ามีสวัสดิการเกี่ยวกับการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยไว้กับธนาคารใดหรือไม่ หรือสอบถามเพิ่มเติมกับธนาคารต่าง ๆ ก็ได้ นอกจากนี้บางธนาคารมีการจัดกลุ่มอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกันในบางธุรกิจ หรือขนาดบริษัท ซึ่งสามารถสอบถามข้อมูลได้จากเจ้าหน้าที่สินเชื่อของแต่ละธนาคาร
4. กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพพิเศษ เช่น แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร นักบินพาณิชย์ ผู้พิพากษา และอัยการ ธนาคารบางแห่งมีอัตราดอกเบี้ยพิเศษให้กับกลุ่มลูกค้านี้โดยเฉพาะ สามารถสอบถามได้จากเจ้าหน้าที่สินเชื่อของธนาคาร
5. กลุ่มข้าราชการ ลูกจ้างของรัฐ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ส่วนใหญ่จะมีสวัสดิการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยกับธนาคารของภาครัฐ ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารเพื่อการเกษตร ควรสอบถามหน่วยงานต้นสังกัด หรือเจ้าหน้าที่สินเชื่อของธนาคารเหล่านี้ก่อน เพื่อใช้สิทธิประโยชน์ได้อย่างเต็มที่
6. ทำประกัน MRTA การทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อหรือ MRTA พร้อมกับการขอสินเชื่อบ้านนั้น ธนาคารมักจะมีส่วนลดอัตราดอกเบี้ยลงเล็กน้อย แต่จะมีเงื่อนไขว่าต้องทำประกันคุ้มครองเป็นสัดส่วนเท่าใดของวงเงินกู้ หรือระยะเวลานานเท่าใด จึงจะเข้าเงื่อนไขที่จะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ซึ่งเจ้าหน้าที่สินเชื่อของธนาคารจะสามารถให้รายละเอียดได้
ข้อมูลทั้งหมดนี้เป็นการรวบรวมมาจากเว็บไซต์ของธนาคาร และจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ของธนาคารเท่านั้น หากมีข้อสงสัยหรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถเรียกดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ของธนาคารผู้ออกสินเชื่อนั้น หรือสอบถามโดยตรงจากเจ้าหน้าที่สินเชื่อของธนาคารได้ทุกสาขาซึ่งยินดีให้ข้อมูล
แนะนำ 5 ขั้นตอนวิธีกู้เงินซื้อบ้าน คอนโด
อัปเดตอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน ประจำเดือน :
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ