เตรียมบ้านเช่าให้พร้อมรองรับสังคมผู้สูงวัย

เมื่อการลงทุนซื้อบ้าน หรือ คอนโดมิเนียม เพื่อปล่อยเช่าสามารถสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอในระยะยาว ทุกพื้นที่ในวันนี้เต็มไปด้วยอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าหลากหลายรูปแบบ

จากห้องที่เคยมีผู้เช่าอย่างต่อเนื่องกลายเป็นต้องรอให้มีผู้เช่านานวันขึ้น.. อย่าปล่อยให้สายเกินไป ลองปรับเปลี่ยนบ้านให้พร้อมตอบโจทย์ผู้เช่าสูงวัยที่มีแนวโน้มเพิ่มจำนวนมากขึ้นในอนาคต

โอกาสใหม่ของผู้ประกอบธุรกิจให้เช่าบ้านกับผู้สูงวัยที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีสัดส่วนประชากรสูงวัยมากที่สุดในอาเซียน จากข้อมูลของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย (AREA) ที่ระบุว่า ประเทศไทยมีสัดส่วนประชากรสูงวัยอายุตั้งแต่ 65 ปีถึง 10% สูงกว่าสิงคโปร์ที่มีสัดส่วน 9% และอินโดนีเซีย 7% ทั้งยังมีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ประเทศในเอเชียตื่นตัวเตรียมความพร้อมรับมือกับสังคมสูงวัย เช่น ฮ่องกงมีที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัยโดยเฉพาะ ซึ่งแบบปกติเป็นห้องชุดในชั้นล่างสุด เพื่อความสะดวกในการเดินทาง หรือห้องชั้นบนเหนือห้องชุดที่ชั้นล่างสุดเป็นห้องประกอบการพาณิชย์ หรือเป็นห้องชั้นล่างในบ้านพักอาศัย

ทั้งยังมีโครงการที่ออกแบบสำหรับผู้สูงวัยที่อยู่รวมกันโดยเฉพาะ ซึ่งในอาคารจะมีระบบเตือนภัยฉุกเฉิน ระบบฉีดน้ำดับเพลิง ระบบควัน พื้นที่ไม่ลื่น ทางเดินที่มีมือจับ ห้องน้ำผู้สูงวัย-ผู้พิการ เป็นต้น

สำหรับประเทศไทยเริ่มมีหลายโครงการที่พัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัย เช่น โครงการลุมพินีวิลล์ ราชพฤกษ์-บางแวก อาคารชุดพักอาศัยที่มีแนวคิดชุมชนน่าอยู่ เน้น Universal Design ของบริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ฯ ซึ่งออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อรองรับผู้สูงวัยที่ช่วยเหลือตัวเองได้ (Independent Elderly)

รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มผู้สูงวัย ได้แก่ เทคโนโลยี SCG Eldercare Solution ของกลุ่มเอสซีจี เช่น การออกแบบห้องน้ำระบบพื้นลดแรงกระแทก (Shock Absorption Floor)

นวัตกรรมระบบ Active AIRflow ช่วยถ่ายเทอากาศและระบายความร้อนออกจากตัวบ้านและโถงหลังคาอัตโนมัติ การออกแบบ Green Landscape สร้างความร่มรื่นรอบตัวบ้าน สอดคล้องกับเทรนด์ผู้สูงวัยที่ใส่ใจการดูแลสุขภาพและสิ่งอำนวยความสะดวกในบ้าน

ในฐานะเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า เราจึงไม่ควรมองข้ามโอกาสใหม่ในอนาคต นอกเหนือจากผู้สูงวัยในประเทศ เรายังมีโอกาสปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์ให้กับผู้สูงวัยต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวพักผ่อนในประเทศไทย เช่น ญี่ปุ่น ไต้หวัน และเกาหลี ซึ่งเราสามารถเตรียมอสังหาริมทรัพย์ให้พร้อมและอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตของผู้สูงวัย

เริ่มต้นตั้งแต่ทางเข้าตัวบ้านสำหรับผู้สูงวัยที่ใช้รถเข็นจำเป็นต้องมี Slope หรือทางลาดชัน และพื้นบ้านที่เรียบเสมอกัน โดยไม่มีธรณีประตูหรือยกพื้นต่างระดับ รวมถึงประตูห้องที่มีขนาดกว้างเพียงพอให้รถเข็นสามารถผ่านเข้า-ออกได้อย่างสะดวก

ส่วนในกรณีผู้สูงวัยทั่วไปที่ไม่ต้องใช้รถเข็นยังต้องการทางเดินที่มีราวจับสำหรับการพยุงตัว และเลือกใช้ประตูบานเลื่อนในลักษณะมือจับชนิดก้านโยกจะดีกว่าการใช้ลูกบิดประตู เพื่อความสะดวกในการเปิด-ปิดและลดการใช้กล้ามเนื้อมือในการออกแรงหมุน

รวมถึงเลือกเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน เช่น โต๊ะ เก้าอี้ หรือชั้นวางของที่ไม่มีมุมแหลมคม โดยจัดวางให้เป็นระเบียบเรียบร้อยไม่มีส่วนใดยื่นออกมา พร้อมทั้งเลือกใช้สีที่สดใส นุ่มนวล เหมาะสำหรับการพักอาศัย

นอกจากนั้น เราควรจัดเตรียมห้องนอนเผื่อไว้ที่ชั้นล่างของบ้าน สำหรับผู้สูงวัยที่ไม่สะดวกขึ้น-ลงบันได โดยห้องนอนต้องสามารถเข้าถึงห้องน้ำได้อย่างสะดวก และควรจัดวางเตียงนอนในตำแหน่งที่ปลอดโปร่งสามารถรับแสงยามเช้าได้ทางทิศตะวันออก

เพื่อให้ผู้สูงวัยสามารถรับรู้ช่วงเวลาที่เปลี่ยนแปลง และเพิ่มความสดชื่นขึ้น นอกจากอากาศที่ถ่ายเทสะดวกและแสงแดดที่เพียงพอ เรายังสามารถเลือกทาสีห้องนอน ด้วยสีฟ้าอ่อนช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย และลดอาการนอนไม่หลับได้

ขณะที่ห้องน้ำควรทำประตูบานเลื่อนหรือเลือกใช้มือจับที่เปิด-ปิดง่าย โดยเฉพาะห้องน้ำชั้นล่างที่มีขนาดใหญ่เพียงพอสำหรับการใช้รถเข็น โดยพื้นห้องน้ำควรเรียบเสมอกันและมีพื้นกันลื่น

รวมถึงแยกพื้นที่อาบน้ำส่วนเปียกและส่วนแห้ง แต่ต้องไม่แบ่งพื้นที่จนเข้าถึงยากเกินไป พร้อมทั้งติดตั้งราวจับพยุงตัว และที่นั่งอาบน้ำไว้ในห้องน้ำชั้นล่าง ซึ่งถ้าเป็นไปได้อาจจะติดตั้งกริ่งเรียกคนด้านนอกเผื่อเกิดกรณีฉุกเฉินในห้องน้ำ

ไม่เพียงห้องนอน ห้องน้ำ และการจัดเฟอร์นิเจอร์ที่อำนวยความสะดวกผู้สูงวัยเท่านั้น แต่เรายังต้องคำนึงถึงการใช้ชีวิตส่วนใหญ่ของผู้สูงวัยภายในที่พักอาศัย ซึ่งต้องการทั้งความผ่อนคลายและความสบายใจ เช่น หิ้งพระสำหรับสวดมนต์หรือนั่งสมาธิสงบจิตใจ

การจัดเตรียมห้องนั่งเล่นให้ผู้สูงวัยสามารถพักผ่อนชมวิวทิวทัศน์ได้ โดยบานหน้าต่างควรอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม คืออยู่สูงจากพื้นไม่มาก เพื่อรับแสงสว่าง แต่ไม่โดนแดดร้อน และควรเลือกให้ห้องนั่งเล่นอยู่ทางทิศเหนือต่อเนื่องกับทิศใต้ เพื่อรับแสงสว่างและรับลมได้ในเวลาเดียวกัน