ตู้ปลาทอง-การเลี้ยงปลาทองเสริมฮวงจุ้ย กับ 5 เรื่องควรรู้ก่อนเลี้ยง

DDproperty Editorial Team
ตู้ปลาทอง-การเลี้ยงปลาทองเสริมฮวงจุ้ย กับ 5 เรื่องควรรู้ก่อนเลี้ยง
ในศาสตร์ของฮวงจุ้ย ปลามักถูกนำไปเชื่อมโยงกับความอุดมสมบูรณ์ ในขณะที่น้ำคือเงินทองและความมั่งคั่ง การตั้งตู้ปลาในบ้านจึงเป็นที่นิยม โดยเฉพาะตู้ปลาทอง เพราะเชื่อว่าจะนำพาโชคลาภเงินทองหรือพลังงานดี ๆ เข้ามาให้แก่เจ้าของบ้าน แต่หากตั้งผิดหรือดูแลไม่ดีก็อาจให้ผลตรงข้าม ดังนั้นเราจึงควรเข้าใจหลักการ 5 อย่างก่อนจะตั้งตู้ปลาทอง

1. เสริมดวงด้านไหน ให้ทำเลช่วย

ศาสตร์หนึ่งภายใต้หลักฮวงจุ้ยคือ ปากัว หรือ บากัว ที่หลายคนรู้จักในนาม “แผนที่พลังฮวงจุ้ย” ซึ่งจะแบ่งพลังงานฮวงจุ้ยออกเป็น 8 ทิศ โดยแต่ละทิศก็จะสัมพันธ์กับเรื่องต่าง ๆ ในชีวิตทั้งหมด 8 ด้าน และในแต่ละด้านก็ประกอบไปด้วยรายละเอียดมากมาย เช่น ธาตุประจำทิศ สี หรือรูปทรงที่สัมพันธ์และส่งเสริมกันในด้านนั้น ๆ
ประกอบกับตู้ปลาทองมักเชื่อมโยงกับความสมบูรณ์พูนทรัพย์ ส่วนมากจึงนิยมตั้งตู้ปลาทองกันในทิศตะวันออกเฉียงใต้ของบ้านกันมากที่สุด เพราะเชื่อว่าเป็นทิศที่ส่งเสริมเรื่องโชคลาภเงินทองให้ไหลมาเทมา
แต่อย่างไรก็ดี เนื่องจากในหลักฮวงจุ้ยมีเรื่องของธาตุ 5 เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย หลายครั้งจึงนิยมตั้งตู้ปลาทองซึ่งเป็นตัวแทนของธาตุน้ำในทิศทางที่ช่วยเสริมพลังของธาตุด้วย โดยหากดูจากแผนที่แสดงความสัมพันธ์ของธาตุทั้ง 5 ด้านล่างแล้ว จะเห็นว่าธาตุทอง (Metal) นั้นช่วยเสริมธาตุน้ำ ในขณะที่ธาตุไม้ทำให้ธาตุน้ำอ่อนพลังลง และธาตุน้ำอาจถูกพิฆาตโดยธาตุดินและธาตุไฟได้
ดังนั้น นอกเหนือจากทิศแห่งความมั่งคั่งแล้ว ในหลายๆครั้งคนจึงนิยมวางตู้ปลาทองในทิศเหนือ (ความสำเร็จและก้าวหน้าในหน้าที่การงาน) ทิศตะวันตก (บุตรหลานและความคิดสร้างสรรค์) และทิศตะวันตกเฉียงเหนือ (การเดินทาง) ซึ่งเป็นทิศที่สัมพันธ์และส่งเสริมกับธาตุน้ำ แต่ที่นิยมจะเป็นเรื่องเงินทองและการงานมากกว่าเรื่องอื่น
บริเวณที่ตั้งตู้ปลาทองนั้น ควรใกล้ประตูใหญ่ เพราะประตูเป็นปากพลังที่จะเรียกพลังเข้ามา อีกทั้งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของพลังให้เข้ามาตลอดด้วย ส่วนด้านหลังตู้ควรเป็นกำแพงทึบ เพื่อให้สอดรับกับหลักฮวงจุ้ยที่ว่า “ด้านหน้าเคลื่อนไหว ด้านหลังมั่นคง”
9 สัตว์มงคล สัตว์นำโชคเสริมดวงชะตา ประดับไว้พาโชคลาภเข้าสู่บ้าน

9 สัตว์มงคล สัตว์นำโชคเสริมดวงชะตา ประดับไว้พาโชคลาภเข้าสู่บ้าน

ข้อพึงระวังในการเลือกทำเลนั้น คือ ไม่ควรตั้งตู้ปลาทองไว้ในห้องนอนและห้องครัว เพราะทั้งสองห้องมีพลังงานเป็นหยิน ในขณะที่ตู้ปลาทองเป็นหยาง จะทำให้พลังงานขัดกันได้ อีกทั้งเชื่อว่าการตั้งตู้ปลาทองในสองบริเวณนั้นจะดึงดูดพลังชี่ไม่ดีเข้ามา อันเป็นการนำพลังงานลบและโชคร้ายเข้ามาสู่บ้าน
การตั้งตู้ปลาทองไว้หลังบ้าน โดยเฉพาะไว้นอกตัวบ้านก็ไม่ควรทำ เนื่องจากห่างไกลจากจุดรับพลังที่อยู่ด้านหน้ามากจนเกินไป ทำให้ไม่สามารถกระตุ้นการเคลื่อนไหวของพลังได้
รูปทรงและองค์ประกอบของตู้ปลาทองก็สำคัญ

2. รูปทรงและองค์ประกอบของตู้ปลาทองก็สำคัญ

รูปทรงต่าง ๆ นั้นมีความสัมพันธ์กับธาตุ 5 อย่างไม่น่าเชื่อ จึงถูกนำมาใช้ในหลักฮวงจุ้ยการตั้งตู้ปลาทองดังนี้
– ธาตุน้ำ สัมพันธ์กับรูปทรงกลมหรือโค้งเป็นคลื่นที่เปรียบเสมือนการสอดประสานทุกอย่างเข้าหากันอย่างกลมกลืน จึงเป็นรูปทรงที่เหมาะสมที่สุด แต่ในทางปฏิบัตินั้น การหาตู้ปลาทองทรงกลมที่ขนาดพอเหมาะกับจำนวนปลาทองที่ต้องการหรือเข้ากับการตกแต่งของบ้านนั้นอาจยากกว่าที่คิด
– ธาตุดิน สัมพันธ์กับรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส และธาตุดินกักขังธาตุน้ำ ดังนั้นจึงไม่เป็นที่นิยม ยกเว้นแต่จะตั้งทางทิศตะวันตกหรือตะวันตกเฉียงเหนือ ที่ซึ่งธาตุทองจะช่วยข่มพลังของธาตุดินได้
– ธาตุไฟ สัมพันธ์กับรูปทรงสามเหลี่ยม และเนื่องจากธาตุไฟพิฆาตธาตุน้ำ จึงไม่เป็นที่นิยม แถมยังดูแลยากอีกด้วย
– ธาตุไม้ สัมพันธ์กับรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า แม้ธาตุไม้จะข่มธาตุน้ำ แต่เนื่องจากทั้งสองธาตุมีความเกี่ยวโยงสัมพันธ์กัน เพราะน้ำช่วยเสริมไม้ และไม้เป็นสัญลักษณ์ของการเติบโต จึงยังถือว่ารูปทรงนี้เป็นรูปทรงที่เป็นมงคลและเหมาะกับการใช้เป็นตู้ปลาได้
– ธาตุทอง สัมพันธ์กับรูปทรงกลมเช่นเดียวกับธาตุน้ำ
ตู้ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าและทรงโค้งกลมจึงเป็นรูปทรงตู้ปลาทองที่นิยมมากที่สุด ส่วนตู้ปลาทองทรงหลายเหลี่ยม ตั้งแต่ 5 เหลี่ยมขึ้นไปนั้นมีความหมายหลากหลาย จึงไม่ควรใช้เองโดยไม่ผ่านการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ย
ในการจัดองค์ประกอบของตู้ปฃาทองก็เป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจ หลายคนนิยมจัดตู้ปลาให้มีธาตุทั้ง 5 อยู่พร้อมสรรพ ดังนี้
– ธาตุน้ำ แทนด้วยน้ำในตู้และกระจก
– ธาตุดิน แทนด้วยกรวดและดินในตู้
– ธาตุไฟ แทนด้วยสีสันของปลาที่สดใสและเป็นสีโทนร้อน เช่น สีแดง ส้ม และไฟตู้ที่สว่าง
– ธาตุไม้ แทนด้วยขอนไม้และไม้น้ำในตู้ เช่น ไม้ประเภทคริปต่าง ๆ เฟิร์นรากดำ โรทาร่า
– ธาตุทอง แทนด้วยหินต่างๆที่ใช้ตกแต่งในตู้
อย่างไรก็ดี ควรระมัดระวังเรื่องสมดุลของธาตุต่าง ๆ ให้ดี ไม่ควรให้ธาตุที่ข่มหรือพิฆาตธาตุน้ำโดดเด่นจนเกินไป เพื่อให้เอื้อต่อการเสริมดวง และควรคิดถึงความง่ายในการดูแลตู้ด้วย
ฮวงจุ้ยบ้านที่ดี จัดห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว อย่างไร? อยู่แล้วโชคดี ร่ำรวย

ฮวงจุ้ยบ้านที่ดี จัดห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว อย่างไร? อยู่แล้วโชคดี ร่ำรวย

3. เฮงแค่ไหนขึ้นอยู่กับจำนวนของปลาทอง

การเลือกจำนวนของปลาทองที่จะเลี้ยงนั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 วิธีหลัก ๆ ตามความนิยม

1) ใช้ตัวเลขที่สัมพันธ์กับหลักหยินหยาง

ตามศาสตร์นี้ เชื่อว่าเลขคู่สัมพันธ์กับหยิน ในขณะที่เลขคี่สัมพันธ์กับหยาง ดังนั้นเลขคี่อย่าง 1, 3, 5, 7 และ 9 จึงถูกมองว่าเป็นมงคลมากกว่า นอกจากนี้คำว่า “คู่” ในภาษาจีนยังเสียงพ้องกับคำว่า “การบาดเจ็บ” ด้วย จึงไม่นิยมกัน

2) ใช้ตัวเลขที่ออกเสียงพ้องกับคำมงคล

เลข 9 ถือเป็นเลขที่เป็นมงคลที่สุด เพราะเป็นตัวเลขหยางที่มีค่ามากที่สุด แถมการออกเสียงยังพ้องกับคำว่า “มีเหลือกินเหลือใช้” หรือ “ยั่งยืน ยาวนาน” ในภาษาจีนด้วย เลข 3, 6 และ 8 ก็เป็นที่นิยม เพราะพ้องเสียงกับคำที่แปลว่า “มีชีวิตและเติบโตก้าวหน้า, โชคลาภ และร่ำรวยมั่งมี ตามลำดับ

3) ใช้ตัวเลขตามหลักแผนผังลั่วซู (Luo Shu Diagram)

แผนผังลั่วซูคือ แผนผังโบราณที่แบ่งพลังจักรวาลออกเป็น 9 ชนิด โดยแต่ละชนิดจะถูกแทนด้วยตัวเลขตัวหนึ่งจาก 1-9 ซึ่งแผนผังจะแสดงการเปลี่ยนแปลงของความมั่งคั่งตามระยะเวลาที่แบ่งเป็น 3 ช่วงและ 9 ยุค โดยในปี 2004-2024 จะตกอยู่ในยุคที่ 8 ทำให้ช่วงนี้
– เลข 8 เป็นตัวแทนของ “ความมั่งคั่งในปัจจุบัน”
– เลข 9 เป็นตัวแทนของ “ความมั่งคั่งในอนาคต”
– เลข 1 เป็นตัวแทนของ “ความมั่งคั่งในอนาคตที่ห่างไกล”
ในขณะที่ 2-7 ถือเป็นตัวแทนของยุคที่ผ่านไป จึงไม่มีความหมายในทางโชคลาภ และหลายตัวยังมีความหมายในทางลบอีกด้วย

4) ใช้ตัวเลขตามหลักแผนภูมิเหอถู (He Tu Map)

แผนภูมิเหอถูจะแสดงคู่ของตัวเลขที่เป็นหยินและหยาง อันเป็นตัวแทนของธาตุทั้ง 5 ที่ประจำในแต่ละทิศ ดังนั้นตัวเลข 1, 6 ที่เป็นตัวแทนธาตุน้ำทางทิศเหนือ และ 4, 9 ที่เป็นตัวแทนของธาตุทองในทิศตะวันตก จึงถูกมองว่าเป็นตัวเลขมงคลที่จะใช้สำหรับตู้ปลา
อย่างไรก็ดี เนื่องจากเลข 4 ออกเสียงพ้องกับคำว่า “ตาย” ในภาษาจีน บางท่านอาจแก้เคล็ดด้วยการใช้สีของปลาทองก็ได้ เช่น ปลาทองสีสันสดใส 3 ตัว สีดำ 1 ตัวเป็นต้น
ดังนั้น จะเห็นได้ว่า เลข 9 เป็นที่นิยมที่สุด (หรือเลขทวีคูณของ 9 เช่น 18) เพราะเป็นเลขที่ดีในแทบทุกวิธี อีกทั้งยังพ้องกับคำมงคลในภาษาไทยอีกด้วย อย่างไรก็ดี ควรคำนึงถึงขนาดอุปกรณ์ในการเลี้ยงและความยากง่ายในการดูแลด้วย
เลือกสีน้องปลาทองผิด ชีวิต (อาจ) เปลี่ยน

4. เลือกสีน้องปลาทองผิด ชีวิต (อาจ) เปลี่ยน

สีนั้นมีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับธาตุต่าง ๆ ในหลักฮวงจุ้ย
ธาตุสีปลาทอง
ธาตุน้ำสัมพันธ์กับสีดำ และสีน้ำเงิน
ธาตุดินสัมพันธ์กับสีเหลือง และสีน้ำตาล
ธาตุไฟสัมพันธ์กับสีแดง, สีเหลืองเข้ม, สีส้ม, สีชมพู และสีม่วง
ธาตุไม้สัมพันธ์กับสีเขียว และสีหยก
ธาตุทองสัมพันธุ์กับสีทอง, สีเงิน และสีขาว
สีของปลาทองที่ควรใช้ในตู้ที่ตั้งตามหลักฮวงจุ้ยนั้นควรเน้นสีในธาตุทองเป็นหลัก เพราะธาตุทองส่งเสริมทำให้เกิดธาตุน้ำ และธาตุน้ำสัมพันธ์กับความมั่งคั่งร่ำรวย รองลงไปคือสีดำซึ่งเป็นสีของธาตุน้ำ แต่ไม่ควรใช้เยอะเพราะธาตุน้ำในตู้มีเยอะแล้วจากน้ำที่ไหลเวียนอยู่
บางคนเชื่อว่าสีดำจะดึงดูดและรับพลังงานไม่ดี จึงนิยมเลี้ยงปลาทองสีสดใสหลาย ๆ ตัว และมีส่วนน้อยเป็นสีดำ เพื่อช่วยรับเอาความโชคร้ายหรือเคราะห์ไปแทนเจ้าของ และเมื่อปลาสีดำตายลง ก็ต้องรีบเปลี่ยนเอาตัวใหม่มาแทนที่อย่างรวดเร็ว รวมทั้งทำพิธีศพให้ด้วย
สำหรับปลาทองที่มีสีสัมพันธ์กับธาตุอื่น ๆ นั้นก็สามารถเลี้ยงในตู้รวมกันได้เช่นกัน เพราะเชื่อว่าสีที่สดใสจะช่วยดึงดูดพลังงานบวก แต่ไม่ควรให้เป็นสีหลักเพราะอาจส่งผลต่อสมดุลของพลังงานตามธาตุได้

5. ปลาทอง ปลาปราบเซียนสำหรับมือใหม่

สุดท้าย การตั้งตู้ปลาทองนั้นไม่ยากเท่ากับการดูแลรักษาให้ตู้มีสภาพดีและน้องปลาทองมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง อ้วนท้วน ซึ่งมือใหม่มักคิดว่าปลาทองเป็นปลาที่เหมาะกับการหัดเลี้ยง แต่แท้ที่จริงแล้วปลาทองเป็นปลาที่นับว่าดูแลยากพอสมควรและตายค่อนข้างง่าย ในเบื้องต้นจึงควรคำนึงถึงหลัก 3 เรื่องดังนี้

1) พื้นที่และขนาดอุปกรณ์ในการเลี้ยง

สำหรับปลาทองไซส์ 1.5-3 นิ้วนั้น ควรเลี้ยง 1 ตัวต่อน้ำ 30-40 ลิตร และยิ่งความหนาแน่นน้อยเท่าไหร่ ปลายิ่งกินเก่งและโตเร็วขึ้นเท่านั้น โดยปริมาตรน้ำในตู้นั้น สามารถคำนวณคร่าว ๆ ได้จาก
[ความกว้าง (นิ้ว) X ความยาว (นิ้ว) X ความสูง (นิ้ว)] X 0.016 = จำนวนลิตร
แต่โดยทั่วไป หากต้องการเลี้ยงปลาทอง 9 ตัว ควรใช้ตู้ขนาด 48 นิ้วเป็นอย่างต่ำ นอกจากนี้ตู้ที่ใหญ่จะทำให้อุณหภูมิและสสารต่าง ๆ ในตู้ค่อนข้างคงที่ ดีต่อปลาทองซึ่งเป็นปลาที่อ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอีกด้วย

2) คุณภาพของน้ำ

น้ำที่ใสสะอาดมีความสัมพันธ์กับฮวงจุ้ยที่ดี น้ำที่ใช้ในตู้ปลาทองไม่ควรนำมาจากก็อกน้ำโดยตรงเพราะน้ำประปามีคลอรีนซึ่งเป็นอันตรายต่อปลาทองได้ จึงควรใช้น้ำที่พักแล้ว 2-3 วัน ก่อนจะนำมาใส่ในตู้ปลา หรืออาจใช้เครื่องผลิตน้ำ RO แทนในการเติมน้ำลงตู้
ที่สำคัญ ควรมีระบบกรองที่ดี เช่น กรองข้าง หรือกรองนอกที่สัมพันธ์กับปริมาตรน้ำ และเมื่อแรกตั้งตู้ ไม่ควรใส่ปลาลงไปทันทีเพราะระบบกรองยังไม่สมบูรณ์ การย่อยของเสียยังทำได้ไม่ดี ต้องเปิดน้ำรอสัก 1-2 อาทิตย์เพื่อให้แบคทีเรียเติบโตและเกาะที่วัสดุกรองได้ดีก่อน
นอกจากนี้ ควรให้อาหารปลาครั้งละน้อย ๆ แต่บ่อย ๆ แทน เพื่อไม่ให้เกิดอาหารตกค้างในตู้ ซึ่งจะส่งผลต่อคุณภาพน้ำหากไม่ได้รับการทำความสะอาดที่เหมาะสม
การทำความสะอาดตู้ปลาทองเป็นสิ่งสำคัญ

3) การทำความสะอาด

ปลาทองเป็นปลาที่ปล่อยของเสียและเมือกเยอะ จึงต้องรักษาคุณภาพน้ำให้สะอาดโดยการเปลี่ยนน้ำบ่อย ๆ แต่อย่าบ่อยมาก ประมาณ 20% ทุกอาทิตย์
นอกจากนี้ ควรให้เกิดการเคลื่อนไหวของน้ำตลอดเวลาเพื่อเพิ่มออกซิเจน และเสริมการไหลเวียนของพลังงานด้วย เพราะตามหลักฮวงจุ้ย น้ำตายหรือน้ำที่ไม่ไหลเวียนนั้นนอกจากจะไม่ดึงดูดพลังงานดีแล้ว ยังทำให้น้ำเสียง่ายหรือขุ่นมัว เป็นการดึงดูดพลังงานที่ไม่ดีมาอีกด้วย
การเพิ่มการไหลเวียน เช่น การใช้กรอง หรือการมีหัวออกซิเจน แต่การไหลของน้ำไม่ควรแรงเกินไปเพราะปลาทองเป็นปลาครีบยาว ว่ายน้ำช้า หากต้องว่ายทวนกระแสน้ำแรง ๆ จะทำให้ปลาเหนื่อยและเครียดง่าย ตลอดจนอาจทำให้ครีบพับด้วย
ที่สำคัญ ทิศทางการไหลของน้ำควรไปในทิศทางที่เข้าสู่ตัวบ้าน เพื่อเรียกโชคลาภเงินทอง ไม่ใช่ไหลออก ซึ่งจะทำให้พลังงานดีไหลออกจากบ้านไป
ดังนั้น ก่อนตั้งตู้ควรถามตัวเองก่อนว่ามีความพร้อมแค่ไหน เพราะการตั้งตู้ปลาทอง โดยเฉพาะตู้ปลาทองที่มีปลาหลายตัวตามหลักฮวงจุ้ยนั้น นอกจากใช้เงิน ยังใช้ความเข้าใจและความใส่ใจมากกว่าที่คิด แต่หากทำได้ นอกจากคนจะมีความสุขจากชีวิตที่อาจดียิ่งขึ้นแล้ว น้องปลาก็มีความสุข อยู่กับเราไปนาน ๆ ด้วย
สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า

คำนวณยอดผ่อนต่อเดือนตามระยะเวลากู้

เพียงใส่ยอดเงินกู้ที่คุณต้องการ เราจะคำนวณให้คุณเห็นถึงยอดผ่อนชำระต่อเดือนตามระยะเวลาผ่อนและอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน

คำนวณยอดผ่อนต่อเดือน

คำนวณยอดผ่อนชำระต่อเดือนตามอัตราดอกเบี้ยของคุณด้วยเครื่องมือคำนวณสินเชื่อนี้

คำนวณวงเงินกู้สูงสุด

คำนวณสินเชื่อบ้าน ยอดวงเงินกู้บ้านใหม่ที่คาดว่าจะได้รับจากแบงก์และยอดผ่อนชำระในแต่ละเดือน