“เลือกอยู่คอนโดเพราะเข้ากับไลฟ์สไตล์เรามากกว่า เดินทางง่ายและสะดวกสบาย จากประสบการณ์ เราไม่จำเป็นต้องเลือกที่อยู่อาศัยตามใครเสมอไป แต่ควรเลือกในแบบที่ตัวเองชอบและตอบโจทย์ความต้องการของทุกคนในครอบครัวมากที่สุด เพราะเป็นที่ที่เราต้องใช้ชีวิตอยู่ไปอีกนาน”
นี่คือคำบอกเล่าจากประสบการณ์ แทรกด้วยรอยยิ้มของผู้บริหารอย่าง คุณติ๊ก กมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย DDproperty และสามี โดยทั้ง 2 ท่านได้แชร์ประสบการณ์การซื้อคอนโดในการอยู่อาศัยกับลูก ๆ รวมทั้งซื้อเพื่อลงทุน
เลือกอยู่คอนโดแทนที่จะเลือกบ้าน
“เริ่มต้นจากการซื้อคอนโดเพื่ออยู่เอง ตั้งแต่เมื่อสิบกว่าปีก่อน จริง ๆ เรา 2 คนก็เคยวางแผนว่าถ้ามีลูกก็อยากจะซื้อบ้านหรือสร้างบ้านเองเพราะได้พื้นที่กว้าง เหมาะแก่การขยับขยายครอบครัว แต่ในความเป็นจริง พอมีลูกกลายเป็นว่ามีหลาย ๆ ปัจจัยที่ต้องคิดต่อ โดยเฉพาะเรื่องความสะดวกสบายในการเดินทางเวลาลูกไปโรงเรียนหรือเวลาเราไปทำงาน ถ้าอยู่บ้านแล้วไกลจากโซนที่ลูกต้องไปเรียนหรือไปรับส่งลำบาก ในที่สุดก็อาจจะรู้สึกไม่มีความสุขกับการอยู่บ้านก็ได้”
ด้วยเหตุนี้จึงตัดสินใจเลือกซื้อคอนโดใจกลางเมืองอยู่อาศัยกัน 4 คน พ่อ แม่ และลูกชายฝาแฝด แทนที่จะเป็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่เหมือนครอบครัวอื่น เนื่องจากเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการได้มากที่สุด
“จริง ๆ เรามองถึง Pain Point เป็นเรื่องสำคัญอันดับต้น ๆ เลย มานั่งคิดดูว่าถ้าเราอยู่บ้านที่ไกลจากโซนใจกลางเมืองออกมา จะมีปัญหาอะไรบ้าง และถ้าซื้อคอนโดจะดีกว่าไหม พยายามเปรียบเทียบให้รอบด้าน หลัก ๆ ก็ดูความจำเป็นเรื่อง ‘ลูก’ ว่าเขาต้องการความสะดวกสบายอะไรบ้าง เช่น การเดินทางไปเรียนในแต่ละวัน ถ้าอยู่ไกลจากโรงเรียนก็ต้องเสียเวลาเดินทาง ไหนจะต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเลี่ยงรถติด จะดีกว่าไหม ถ้าลูกได้อยู่คอนโดที่ใกล้โรงเรียนเลย”

ประสบการณ์ในการเลือกซื้อคอนโดครั้งแรก จึงเป็นการเลือกโครงการที่อยู่ใกล้โรงเรียนลูก เพื่อเน้นการเดินทางที่รวดเร็วและมีความสะดวกสบาย
“ตอนแรกตั้งใจจะอยู่คอนโดแค่ 5 วันต่อสัปดาห์ และกลับมาบ้าน ในวันเสาร์–อาทิตย์ แต่สุดท้ายกลายเป็นว่าอยู่คอนโดทุกวัน” คุณติ๊กเล่าให้ฟังพร้อมรอยยิ้ม
ปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้เลือกคอนโดแห่งนั้นก็มีหลายอย่าง เช่น คอนโดแห่งนั้นอนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ แม้ตัวเองจะไม่ได้เลี้ยงเอง แต่เมื่อได้ไปอยู่ในที่ที่ได้เห็นหมาแมว รวมถึงมีสนามเด็กเล่น มีเด็ก ๆ วิ่งเล่นในพื้นที่คอนโด บรรยากาศที่มี “มีชีวิต” แบบนี้ เหมือนได้อยู่ในชุมชนที่ดีอย่างที่หวังไว้ อีกทั้งบรรยากาศของโครงการมีความสงบ เป็นส่วนตัว และไม่วุ่นวาย
จากซื้ออยู่เอง สู่การลงทุนอสังหาฯ
เมื่อลูกชายโตขึ้นและต้องย้ายที่เรียน จึงตัดสินใจที่จะย้ายที่อยู่อาศัยไปใกล้สถานศึกษาใหม่ของลูกอีกครั้ง แน่นอนว่าเพื่อความสะดวกสบายของลูกอีกเช่นเดิม ส่วนคอนโดเดิมนั้นก็ได้ปล่อยเช่าต่อ เพราะมองเห็นว่ายังมีกลุ่มผู้ที่สนใจเช่า เช่น กลุ่มนักเรียนและผู้ปกครอง หมุนเวียนเปลี่ยนผ่านเข้ามาทุก ๆ ปี และนั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการลงทุนคอนโดเพื่อปล่อยเช่าเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
“จากที่เคยอยู่เองมาก่อน ทำให้เราเข้าใจตลาดคอนโดใกล้สถานศึกษาว่าเป็นอย่างไร เห็นภาพชัดและเข้าใจผู้เช่าที่เป็นกลุ่มเดียวกับเรา เพราะเราเคยเป็นคนที่มองหาคอนโดทำเลนั้นมาก่อน ดังนั้น โครงการที่ซื้อเพื่อลงทุนส่วนใหญ่จึงเลือกคอนโดใกล้สถานศึกษา เพราะมีผู้เช่าใหม่ ๆ เข้ามาทุกปี และมีแนวโน้มจะปล่อยเช่าได้ง่าย”
ซื้ออยู่เองกับซื้อเพื่อลงทุนต่างกัน
“ซื้ออยู่เองเราจะดูความต้องการและไลฟ์สไตล์ครอบครัวเป็นหลัก อาจดูเรื่องดีไซน์และทำเลเชื่อมโยงไปกับการใช้ชีวิตของลูก แต่ซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า ต้องคิดเยอะขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวก ขนาดห้องและฟังก์ชันการใช้งาน ทำเลใกล้รถไฟฟ้า หรือใกล้ร้านค้า เพราะเราต้องคิดเผื่อผู้เช่าด้วย หลัง ๆ มาก็เริ่มปล่อยเช่าคอนโดในทำเลที่หลากหลายมากขึ้น”
นอกจากนี้ คุณติ๊กยังบอกกับเราอีกว่าการเลือกคอนโดเพื่อปล่อยเช่านั้น ต้องเลือกอะไรที่กลาง ๆ ไว้ก่อน
“บางครั้งผู้เช่าอาจจะไม่ได้ชอบสไตล์แบบเจ้าของห้อง ดังนั้นการเลือกกลาง ๆ ไว้ก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีไซน์การตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ และขนาดห้อง ก็เป็นการ Play Safe ได้ดี เผื่อขาดอะไรจะได้เพิ่มเติมได้”
สื่อออนไลน์ทำให้ทุกคนเข้าใจตลาดอสังหาฯ ได้อย่างเท่าเทียม
การทำงานในแวดวงอสังหาฯ นั้นมีข้อดีในการเข้าถึงข้อมูลได้ในเชิงลึกได้ ข่าวอัปเดตต่าง ๆ จะรู้เร็วกว่าคนทั่วไป อีกทั้งยังสามารถวิเคราะห์สถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี มองเห็นพัฒนาการและเข้าใจกลยุทธ์ของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ แต่ในภาพรวมก็ไม่ได้แตกต่างกับผู้บริโภคคนอื่น ๆ มากนัก
เนื่องจากปัจจุบันไม่ว่าใครก็สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลได้จากสื่อออนไลน์ที่มีอยู่อย่างมากมาย สำหรับการทำงานเป็นผู้บริหารในธุรกิจอสังหาฯ ก็เปรียบเสมือนเป็นคนกลาง มีข้อมูลในมือ แต่สุดท้ายก็ต้องนำข้อมูลเหล่านั้นมาเสิร์ฟผู้บริโภคให้เข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมกัน
“หากพูดถึงในฐานะผู้บริโภค ส่วนตัวก็ใช้ข้อมูลจากเว็บไซต์ DDproperty เหมือนกัน ใช้หลาย ๆ ส่วนเลย เช่น อ่านรีวิวโครงการใหม่ ๆ หาเอเจนท์ช่วยปล่อยเช่าคอนโด รวมถึงดูพวกตลาดรีเซล ใช้ข้อมูลราคาในเว็บไซต์เปรียบเทียบโครงการ และใช้หา Yield ค่าเช่า ซึ่งส่วนตัวมองว่ามีประโยชน์และเป็นตัวช่วยเราได้ดีมาก ๆ”
นอกจากนี้ DDproperty ยังมีการจัดทำรายงานเกี่ยวกับตลาดอสังหาฯ Thailand Property Market Index และแบบสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคที่มีต่อตลาดอสังหาฯ Thailand Consumer Sentiment Study อย่างสม่ำเสมอ ทำให้ผู้บริโภคสามารถใช้ข้อมูลตรงนี้ดูตลาดภาพรวมของในประเทศไทยได้อีกด้วย

ซื้ออสังหาฯ แต่ละครั้ง เรียนรู้จาก Pain Point
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการซื้ออสังหาฯ คือ “Pain Point” ในแต่ละช่วงเวลานั้นไม่เหมือนกัน และจะนำพาไปสู่การตัดสินใจเลือกซื้ออสังหาฯ ที่แตกต่างกันออกไป ที่สำคัญคือต้องทำความเข้าใจปัญหาหรือความต้องการที่แท้จริงของตนเองในฐานะของผู้ซื้อ เพื่อให้ได้บ้านหรือคอนโดที่ใช่มากที่สุด ไม่ว่าจะซื้อเพื่ออยู่เองหรือปล่อยเช่าในอนาคตก็ตาม
คำแนะนำสำหรับคนที่อยากมีบ้าน-ลงทุนในอสังหาฯ
สำหรับคนที่อยากซื้อบ้านเพื่ออยู่เอง ต้องรู้ความต้องการหรือปัญหาของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นลองดูไลฟ์สไตล์ที่ชอบ ทำเลที่ใช่ แล้วอย่างอื่นจะตามมาเอง ส่วนอื่น ๆ ที่ต้องดูประกอบด้วยก็อย่างเช่น การเงิน งบประมาณที่เราซื้อไหว และถ้าอยากรู้ว่าทำเลที่จะไปอยู่นั้นดีไหม ก็ลองเอาตัวเองไปอยู่ในทำเลนั้นดูก่อน ดูบรรยากาศคร่าว ๆ ก็น่าจะตอบได้ว่าใช่หรือไม่
ส่วนคนที่ต้องการลงทุนในอสังหาฯ ควรดูเรื่องฐานะทางการเงินของตัวเองเป็นหลัก ต้องไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อนจนเกินไป กรณีมนุษย์เงินเดือนควรลงทุนในสัดส่วนที่เหมาะสม มองการณ์ไกล มองเทรนด์ในอนาคตไว้ด้วยก็ดี พร้อมคำนึงถึงผลตอบแทนที่จะกลับคืนมาโดยมีกรอบระยะเวลาวางไว้ด้วย ไม่เช่นนั้นเงินก็จะไหลไปเรื่อย ๆ เสี่ยงขาดทุนได้
หากคุณมีประสบการณ์ที่อยากบอกเล่า-แชร์ต่อเพื่อเป็นกำลังใจให้กับทุก ๆ คนที่กำลังตามหาบ้านในฝัน ติดต่อเรา